หมวดหมู่: lucky item

เราเชื่อว่าสมัยนี้ไอเท็มยอดฮิตอีกหนึ่งอย่างที่สาวๆหลายคนไม่ควรพลาด นั่นคือน้ำหอม ซึ่งน้ำหอมนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรยมากเพราะมันสามารถสะท้อนบุคลิกภาพตัวตนของคุณออกมาได้อย่างชัดเจน แต่มันก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น น้ำหอมยังมีหลากหลายกลิ่นที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป รวมถึงความเข้มข้นของกลิ่นน้ำหอมที่ยากจะลืมเลือนด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันน้ำหอมมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์มากมายในท้องตลาด โดยน้ำหอมสมัยนี้มักประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและสังเคราะห์เพื่อให้ได้กลิ่นที่หลากหลาย ซึ่งการเลือกกลิ่นที่เหมาะสมกับคุณนั้นอาจเป็นเรื่องท้าทายของคุณสุดๆเลยค่ะ เพราะหากคุณเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นที่เหมาะกับคุณ มันอาจสามารถสร้างความประทับใจให้แก่คนที่เข้าใกล้คุณได้ดี ซึ่งวันนี้เราก็มีเคล็ดลับการเลือกน้ำหอมยังไงให้เข้ากับบุคลิกของคุณมาฝากทุกคน

นอกจากนี้การฉีดน้ำหอมให้ได้กลิ่นหอมที่ยาวนานนั้นก็ยากพอๆกับการถูกลอตเตอรี่เลยล่ะค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะยากเกินความสามารถทางการผลิตของ 10 แบรนด์ดังระดับโลกที่เราได้รวบรวมมาแนะนำกับสาวๆทุกคนในวันนี้ ซึ่งน้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกเหล่านี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่าน ทำให้เกิดเป็นกระแสความนิยมและได้รับการยอมรับจากสาวๆทั่วโลกมากมาย ส่วนจะมีแบรนด์ไหน? รุ่นไหน? กันบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

ทำความรู้จักกับน้ำหอม มากขึ้น

น้ำหอม เป็นส่วนผสมที่ทำมาจากน้ำมันหอมระเหยหรือสารประกอบให้กลิ่น, สารฟิกเซทีฟ (fixative) ที่มีกลิ่นหอม และสารตัวทำละลายที่มักจะอยู่ในรูปของเหลว ถูกนำมาใช้เพื่อให้ร่างกายมนุษย์, สัตว์, อาหาร, สิ่งของ หรือพื้นที่อยู่อาศัยมีกลิ่นหอมที่น่าพึงพอใจ โดยน้ำหอมมีมาตั้งแต่ยุคแรกสุดของเคมีวิทยาศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งน้ำหอมสมัยใหม่เริ่มขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยมีการสังเคราะห์สารประกอบ aroma ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเคมีอินทรีย์ในแง่ของวิธีการการจำแนกอย่างเป็นระบบและทฤษฎี

หลายคนคงเข้าใจว่าต้นกำเนิดของน้ำหอมมาจากฝรั่งเศส แต่ความจริงแล้วศิลปะการทำน้ำหอมเริ่มในสมัยโบราณของอียิปต์ที่อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ และได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปีค.ศ. 1221 ศิลปะการปรุงน้ำหอมได้เป็นที่รู้จักในยุโรปตะวันตกถือเป็นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลี ต่อมาในศตวรรษที่ 16 Catherine de’ Medici ได้นำการปรับแต่งน้ำหอมของอิตาลีมายังห้องปฏิบัติการของฝรั่งเศสที่เชื่อมต่อกับอพาร์ทเมนต์ของเธอด้วยทางเดินลับ ดังนั้นสูตรการทำน้ำหอมของเธอจึงเป็นสูตรลับที่ไม่สามารถขโมยได้ ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางในยุโรปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้น้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ก็มีจุดกำเนิดมาจากที่แห่งนี้เช่นกันค่ะ

ประเภทน้ำหอม มีอะไรบ้าง?

แน่นอนว่าสูตรการผลิตน้ำหอม ของแต่ละแบรนด์ดังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและถูกเก็บไว้เป็นความลับของบริษัท ถึงแม้จะมีการตีพิมพ์เผยแพร่ออกมาอย่างกว้างขวาง แต่วัตถุดิบที่ใช้ก็ยังมีความซับซ้อนที่ทำให้ยากต่อการอธิบาย แต่สำหรับการแยกประเภทน้ำหอมโดยทั่วไปจะมีอยู่ทั้งหมด 5 ประเภทตามความเข้มข้น ได้แก่

1. Parfum : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยสูงสุด ทำให้น้ำหอมประเภทนี้มีราคาแพงที่สุด โดยปกติ Parfum มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 15 ถึง 40% ซึ่งทำให้น้ำหอมมีกลิ่นที่ติดทนนานตลอดทั้งวันแม้จะใช้เพียงแค่นิดเดียว
2. Eau de parfum : เป็นประเภทน้ำหอมที่บางครั้งจะเรียกง่ายๆว่า Parfum แต่สิ่งที่ทำให้ Eau de parfum แตกต่างจากประเภทแรกคือความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหย โดย Eau de parfum มีมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 10 ถึง 20% ดังนั้นจึงเป็นประเภทน้ำหอมที่มีความเข้มข้นที่บางเบาและมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์กับน้ำมากกว่าเมื่อเทียบกับประเภท Parfum น้ำหอมประเภท Eau de parfum มีกลิ่นหอมติดทนนานเป็นเวลา 6 ถึง 8 ชั่วโมง
3. Eau de Toilette : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 5 ถึง 15% โดยปกติน้ำหอมประเภทนี้จะอยู่ในขวดสเปรย์เนื่องจากมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยค่อนข้างต่ำและมีปริมาณแอลกอฮอล์สูง น้ำหอม Eau de Toilette มีกลิ่นหอมที่ติดทนนานประมาณ 2 ถึง 4 ชั่วโมง นั้นหมายความว่าคุณต้องฉีดน้ำหอมประเภทนี้ในบางจุดระหว่างวัน
4. Eau de cologne : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีการพัฒนาสูตรไปสู่กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายมากขึ้น แต่คุณยังสามารถพบในน้ำหอมผู้หญิงบางชนิดที่ระบุว่าเป็น Eau de cologne ที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 2 ถึง 5% และมีกลิ่นหอมติดทนนาน 2 ถึง 4 ชั่วโมง โดยน้ำหอมประเภทนี้มักจะถูกวางขายในรูปแบบน้ำหอมแบบสเปรย์หรือน้ำหอมหลังโกนหนวด
5. Eau de fraiche : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีราคาแพงที่สุด แต่มีความเข้มข้นน้อยที่สุด โดยปกติแล้ว eau de fraiche จะมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยระหว่าง 1 ถึง 3% เนื่องจากความเข้มข้นที่บางเบาเป็นพิเศษและมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์สูง จึงมักพบเห็นน้ำหอมประเภทนี้บรรจุอยู่ในขวดสเปรย์และมีกลิ่นหอมติดทนนานประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมที่ละเอียดอ่อน

เคล็ดลับการเลือกน้ำหอม ยังไงให้เข้ากับบุคลิกของคุณ

น้ำหอม เป็นมากกว่าตัวช่วยที่ทำให้คุณมีกลิ่นกายหอม แต่มันยังช่วยบ่งบอกตัวตนความเป็นคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมละมุน หอมสดชื่น หอมสปอร์ต หรือหอมคลาสสิกดูหรูหรา กลิ่นน้ำหอมเหล่านี้ก็ต่างสร้างบุคลิภาพที่แตกต่างกันออกไป โดยน้ำหอมผู้หญิงมีให้เลือกหลากหลายกลิ่น แต่กลิ่นไหนล่ะที่จะเข้ากับบุคลิกของคุณ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการเลือกน้ำหอมมาบอกสาวๆกันค่ะ

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวแบบคลาสสิก

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวแบบคลาสสิกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความเป็นมืออาชีพด้วยเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อคลุมแบบมีกระดุม ผู้เขียนแนะนำให้เลือกน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและความเย้ายวนแบบคลาสสิก อย่างเช่น กลิ่นหอมของมะลิ กุหลาบ ไอริสและลิลลี่ เป็นต้น
ตัวอย่างน้ำหอม : Arpege by Lanvin, Blanche by Byredo, White Diamond โดย Elizabeth Taylor และ Chanel No. 5

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวสบาย ๆ

p>สำหรับสาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวสบาย ๆ ไม่โอ้อวดและไม่จุกจิก ด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและใช้งานได้จริง ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกสดใหม่เป็นธรรมชาติ อย่างกลิ่นหอมของผลไม้ตระกูลซิตรัสและลาเวนเดอร์ นอกจากกลิ่นหอมเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ทำน้ำหอมแล้ว มันยังถูกนำมาใช้ผสมโลชั่นบำรุงผิว
ตัวอย่างน้ำหอม : Aqua Allegoria โดย Guerlain, Gris Clare โดย Serge Lutens, Walk On Air โดย Kate Spade, Chance Chanel Au Fraiche

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นและน่าตื่นเต้น

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นและน่าตื่นเต้น ด้วยการใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสและมีลวดลายที่คมชัด ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่มีในความรู้สึกกล้าหาญและเย้ายวน อย่างเช่น กลิ่น Oriental, กลิ่น Amber, กลิ่น Heavy Florals นอกจากนี้น้ำหอมกลิ่นเหล่านี้มักถูกนำมาใช้ทำน้ำมันอาบน้ำและโลชั่นบำรุงผิวที่มีกลิ่นหอมยาวนาน
ตัวอย่างน้ำหอม : Opium โดย Yves Saint Laurant, Carnal Flower โดย Frederic Malle, Habit Rouge by Guerlain, Flowerbomb Nectar โดย Viktor & Rolf

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่แปลกตาและแตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่สร้างสรรค์แปลกตาและแตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย ผู้เขียนแนะนำให้เลือกใช้น้ำหอมแบบไดนามิกที่กระตุ้นอารมณ์ให้น่าสนใจอย่างน้ำหอมจากตระกูลต่างๆ เช่น สไปซี่ วู้ดดี้ และฟลอรัล กลิ่นน้ำหอมเหล่านี้สามารถจับคู่กับเสื้อผ้าของคุณ เพื่อความพลิดเพลินได้อีกด้วย
ตัวอย่างน้ำหอม : B Balenciaga by Balenciaga, Eau de Lierre by Diptique, Devin by Aramis, Vent Vert by Balmain

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่ดื้อรั้นแหวกแนวและไม่เหมือนใคร

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่ดื้อรั้นและแสดงออกถึงความต้องการที่แหวกแนวและไม่เหมือนใคร ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่โดดเด่นและฉูดฉาด อย่างเช่น กลิ่นวานิลลาและกลิ่นตองก้าบีน ที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับรสชาติอาหาร
ตัวอย่างน้ำหอม : Cuir de Ruisse by Chanel, Lolita Lempicka by Lolita Lempicka, Angel by Thierry Mugler, Coffeeze by JUS

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่อ่อนหวานน่าทะนุถนอม

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานน่าทะนุถนอมด้วยเสื้อผ้าเนื้อนุ่มลายพิมพ์ดอกไม้และเสื้อผ้าที่อวดรูปร่างของผู้หญิง ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมของดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน อ่อนหวาน และโรแมนติกนุ่มนวล อย่างเช่น กลิ่นกุหลาบ, กลิ่นมะลิ, กลิ่นลิลลี่, กลิ่นไลแล็ค และกลิ่นฟลอรัล
ตัวอย่างน้ำหอม : Pleasures by Estee Lauder, Iris Poudre by Frederic Malle, Bluegrass by Elizabeth Arden, Elixir Pour Femme Essence by Roja Parfums

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวสวยเก๋และหรูหรา

สำหรับสาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่เก๋ไก๋ และหรูหราดูมีความซับซ้อน ด้วยเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ อย่างเช่น ผ้าไหมและผ้าแคชเมียร์ที่ให้ภาพลักษณ์ที่เรียบหรูและดูใส่ใจในรายละเอียดในการดูแลตัวเอง ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่มีสไตล์ที่โดดเด่น อย่างเช่น กลิ่นมะกรูด, กลิ่นโอ๊คมอส และกลิ่นแพทชูลี่ กลิ่นน้ำหอมเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณดูดีมีเสน่ห์และมีสไตล์ที่เรียบง่าย
ตัวอย่างน้ำหอม : Know by Estee Lauder, French Affair by Ex Nihilo, No.19 by Chanel, Bottega Veneta Knot Aeau Absolue by Bottega Veneta

10 น้ำหอม แบรนด์ดังระดับโลกติดทนนานที่สาวๆไม่ควรพลาด

สาวๆหลายคนมักมีเหงื่อออกหรือต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดกลิ่นกายที่น่ารำคาญระหว่างวัน แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะเรามีตัวช่วยที่สามารถกลบกลิ่นเหล่านี้ได้มาแนะนำ นั่นคือน้ำหอม โดยวันนี้เราก็มี 10 น้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกมาแนะนำทุกคน ซึ่งน้ำหอมที่เรานำมานี้ต่างก็ได้รับการรีวิวน้ำหอมจากสาวๆทั่วโลกว่ามีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและกลิ่นหอมติดทนนานทั้งวัน รับรองว่ากลิ่นหอมของแบรนด์สุดหรูเหล่านี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ

1. Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum
2. Philosophy Amazing Grace
3. Gucci Bloom Eau de Parfum
4. Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray
5. Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum
6. Shanel N°5 Eau De Parfum
7. Jo Malone English Pear & Freesia
8. Calvin Klein CK One
9. Dolce & Gabbana Light Blue EDP
10. Dior Miss Dior EDP

Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum
บรรจุ : 50 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,000 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมคลาสสิกและติดทนนานเป็นเวลาหลายชั่วโมง, กลิ่นหอมหวานน่ารักแบบฉบับผู้หญิง
สาวๆหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของแบรนด์ Viktor & Rolf มาแล้วบ้าง สำหรับน้ำหอม รุ่น Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum เป็นน้ำหอมที่มาพร้อมกับกลิ่นดอกไม้ Flowerbomb เป็นกลิ่นหอมที่ทรงพลังด้วยการผสมกลิ่นดอกไม้ที่น่าดึงดูดอย่างกุหลาบเซนติโฟเลีย, แซมบัคจัสมิน, กล้วยไม้แคทลียา, ฟรีเซียและออสแมนทัสของอินเดียรวมถึงกลิ่นแพทชูลีและกลิ่นวานิลลาที่เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคนทำให้น้ำหอมโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ จนน้ำหอมรุ่นนี้กลายเป็นสินค้าขายดีอย่างสม่ำเสมอ แถมยังถูกจัดอันดับให้เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก แต่ราคาก็แอบแพงกว่าน้ำหอมผู้หญิงแบรนด์ อื่น ๆอยู่นะคะ
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Philosophy Amazing Grace

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Philosophy Amazing Grace
บรรจุ : 60 ml
ราคาโดยประมาณ : 1,265-1,953 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมที่เรียบง่ายบางเบาและกลิ่นยังคงอยู่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง
Philosophy Amazing Grace เป็นน้ำหอม ประเภท Eau de Parfum จากแบรนด์ Philosophy แบรนด์ความงามเพื่อสุขภาพที่เน้นการผสมผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับแรงบันดาลใจของนักคิดค้น โดยน้ำหอมแบรนด์นี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ผสมผสานกลิ่นดอกไม้และผลไม้เข้าด้วยกันพร้อมกับกลิ่นของมัสค์ ทำให้น้ำหอนรุ่นนี้มีกลิ่นหอมที่เรียบง่ายบางเบาและให้ความรู้สึกสง่างามเหมาะสำหรับใช้ในสำนักงาน แถมกลิ่นยังคงอยู่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Strawberrynet , Cosmeticsnow

Gucci Bloom Eau de Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Gucci Bloom Eau de Parfum
บรรจุ : 50 ml, 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,900-6,400 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมบางเบาไม่ฉุน, กลิ่นสะอาดอ่อนเยาว์และสดชื่น, พกพาง่ายและกลิ่นหอมติดทนนาน 5 ชั่วโมง
Gucci Bloom Eau de Parfum เป็นน้ำหอม จากแบรนด์ดังสุดหรูสัญชาติอิตาลี น้ำหอมรุ่นนี้ได้ผสมผสสารกลิ่นหอมจากดอกไม้และสกัดให้ได้กลิ่นดอกไม้โดยไม่มีกลิ่นหอมหนักมาก กลิ่นสะอาดอ่อนเยาว์และสบายๆ สดชื่น พร้อมกับกลิ่นหอมติดทนนานประมาณ 5 ชั่วโมง เมื่อใช้น้ำหอมรุ่นนี้จะให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในสวนดอกไม้ที่เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งแพ็คเกจที่บรรจุยังพกพาสะดวก
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online , Kingpower

Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray
บรรจุ : 50 ml, 100 ml, 200 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,700 บาท, 6,600 บาท, 10,600 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมหรูหรา, กลิ่นหอมหวาน และกลิ่นไม่แรงเกินไป
Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray เป็นน้ำหอม กลิ่นดอกไม้แบบตะวันออกสำหรับผู้หญิง น้ำหอมรุ่นนี้มีกลิ่นหอมที่ทันสมัยพร้อมทั้งผสมผสานกลิ่นของซิตรัสกับโน้ตดอกไม้สีขาวของดอกมะลิเมืองกลาสส์และอาจมีการเพิ่มกลิ่นของแพทชูลี่และหญ้าแฝก ทำให้น้ำหอม Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray มีกลิ่นที่หอมหรูหรามีระดับและให้ความรู้สึกร่ำรวยดูแพงมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกกลุ่มอายุ
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum
บรรจุ : 90 ml
ราคาโดยประมาณ : 5,400 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมที่แข็งแกร่งและเพิ่มความมั่นใจ, กลิ่นหอมติดทนนานหลายชั่วโมง
Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum น้ำหอมสำหรับผู้หญิงจากแบรนด์ Yves Saint Laurent เป็นน้ำหอม ที่มีส่วนผสมของกลิ่นกาแฟที่ซับซ้อนพร้อมกับกลิ่นลูกแพร์และพริกไทยสีชมพูรสเผ็ด ซึ่งช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับกลิ่นน้ำหอม และยังผสมผสานกับกลิ่นดอกมะลิและดอกส้ม อีกทั้งเมล็ดกาแฟและกลิ่นวานิลลาที่ผสมลงไปยังทำให้ได้กลิ่นหอมที่แฝงไปด้วยความเป็นผู้หญิง น้ำหอมสูตรนี้ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งและช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Chanel n°5 Eau De Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Chanel n°5 Eau De Parfum
บรรจุ : 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 6,600 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมคลาสสิกที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์, ขวดบรรจุมีการออกแบบที่เรียบง่ายและปิดผนึกด้วยฟิล์ม Baudruche
Chanel N ° 5 เป็นน้ำหอม ที่มีกลิ่นหอมที่โดดเด่นและได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการน้ำหอมที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิง โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมรุ่นนี้คือมีรสเปรี้ยวเป็นประกายเกือบจะเหมือนแชมเปญ จัดเป็นน้ำหอมที่อยู่ในประเภทกลิ่นดอกไม้ที่ละเอียดอ่อนและนุ่มนวล มีการผสมผสานระหว่างดอกไม้สมัยใหม่กับกลิ่นไม้จันทน์และกลิ่นวานิลลา อีกทั้งยังมีการผสานเข้ากับวัตถุดิบชั้นเลิศ 2 ชนิดอย่าง May Rose และ Jasmine
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Jo Malone English Pear & Freesia

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Jo Malone English Pear & Freesia
บรรจุ : 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,950 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมแบบหวานฉ่ำสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
Jo Malone English Pear & Freesia เป็นน้ำหอม ที่ผสมผสานกลิ่นของผลไม้และดอกไม้ที่เข้ากันอย่างลงตัว โดยน้ำหอมรุ่นนี้จะเน้นไปที่กลิ่นหอมแบบหวานฉ่ำที่สร้างเสน่ห์ให้กับผู้หญิง และกลิ่นหอมแบบหรูหราตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ พร้อมทั้งให้ความรู้สึกสดใสและอ่อนหวานในเวลาเดียวกัน แถมยังทำให้ตัวคุณหอมหวานและสดชื่นตลอดทั้งวัน
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Calvin Klein CK One

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Calvin Klein CK One
บรรจุ : 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 2,850 บาท
จุดเด่น : ราคาไม่แพง, กลิ่นหอมสดชื่นทั้งกลิ่นผลไม้และกลิ่นดอกไม้
Calvin Klein CK One เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ให้ความเรียบง่ายอ่อนเยาว์และสดชื่น น้ำหอมรุ่นนี้ได้มีการผสมผสานกลิ่นหอมสดชื่นของชาเขียว มะละกอ และมะกรูดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของลูกจันทน์เทศและดอกกุหลาบ อีกทั้ง CK One ยังผสานกลิ่นมัสก์ดอกไม้เป็นน้ำหอมที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Dolce & Gabbana Light Blue EDP

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Dolce & Gabbana Light Blue EDP
บรรจุ : 50 ml
ราคาโดยประมาณ : 3,060 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมปลอดโปร่งและบางเบา,ขวดบรรจุมีการออกแบบที่คลาสสิกและน่าหลงใหล
Dolce & Gabbana Light Blue EDP เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่มีสีสันสดใสและมีกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เย้ายวนและให้ความรู้สึกถึงวิถีชีวิตแบบเมดิเตอร์เรเนียน กลิ่นน้ำหอมรุ่นนี้เป็นการผสมผสานของต้นซีดาร์จากซิซิลีกับความสดชื่นของแอปเปิ้ลเขียวและเสน่ห์ของดอกไม้ พร้อมกับกลิ่นของบลูเบลล์ ซึ่งเป็นกลิ่นชั้นนำที่เหมาะกับฤดูร้อน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสดชื่นของกลิ่นต้นไผ่อ่อน กลิ่นช่อดอกมะลิ และกลิ่นดอกกุหลาบสีขาวที่เหมาะกับผู้หญิงสุดๆ นอกจากนี้ขวดที่บรรจุ Dolce & Gabbana Light Blue EDP ยังได้รับการออกแบบที่ได้ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำหอม Dolce & Gabbana แบบคลาสสิกรูปทรง Light Blue ที่มีความทันสมัย น่าหลงใหล และดูมีความมั่นใจในแบบฉบับผู้หญิงแกร่ง
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Dior Miss Dior EDP

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Dior Miss Dior EDP
บรรจุ : 50 ml, 100 ml, 150 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,700 บาท, 6,600 บาท, 8,100 บาท
จุดเด่น : กลิ่นเหมือน Natalie Portman, ให้ความรู้สึกถึงเสน่ห์อันเย้ายวน
Dior Miss Dior เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Parfum กลิ่นกุหลาบและโรสวู้ดที่ผสมผสานกับความงามของกลิ่นกุหลาบกราสส์และความโดดเด่นของดอกกุหลาบดามัสกัส พร้อมกับความหอมสดชื่นของกลิ่นมะกรูดคาลาเบรียนและกลิ่นโรสวู้ดจากฝรั่งเศส เจือด้วยกลิ่นพริกไทยสีชมพูเพื่อสร้างบุคลิกที่แตกต่างตามแบบฉบับของ Miss Dior เผยให้เห็นถึงเสน่ห์อันเย้ายวนในแบบฉบับหญิงสาว
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

เคล็ดลับฉีดน้ำหอม ยังไงให้ติดทนนานทั้งวัน

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังประสบปัญหาน้ำหอม จางหายระหว่างวัน วันนี้ผู้เขียนก็มีเคล็ดลับเกี่ยวกับการฉีดน้ำหอมยังไงให้กลิ่นหอมติดทนนานตลอดทั้งวันมาฝากจะมีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ความชุ่มชื้นช่วยทำให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนาน

กลิ่นน้ำหอมจะเกาะติดกับผิวมันหรือมีความชุ่มชื้นได้ดีกว่าผิวแห้ง เพราะผิวที่ชุ่มชื้นจะกักขังกลิ่นหอมไว้ได้ยาวนาน ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งควรเลือกน้ำหอมในรูปแบบครีมหรือใช้โลชั่นที่ไม่มีกลิ่นก่อนแล้วตามด้วยการฉีดสเปรย์ แต่ก่อนที่คุณจะแต่งตัวควรรอสักครู่ก่อนเพื่อให้น้ำหอมแห้งเกาะบนผิว

ใช้น้ำหอมบริเวณจุดชีพจร

การใช้น้ำหอมบริเวณจุดชีพจร เช่น บริเวณข้อมือ หลังใบหูที่ด้านล่างของลำคอ ด้านในของข้อศอกและหลังหัวเข่า จะช่วยทำให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานตลอดทั้งวัน เพราะอุณหภูมิความร้อนในร่างกายจะช่วยกระตุ้นให้น้ำหอมส่งกลิ่นหอมออกมาตลอดทั้งวัน

ห้ามถูน้ำหอมลงบนผิว

บางคนมีความรู้ว่าการ “ถู” น้ำหอมลงบนผิวจะช่วยทำให้ผิวอบอุ่นและกระจายกลิ่นได้ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำแบบนั้นเป็นการการสลายโครงสร้างของน้ำหอมทำให้กลิ่นน้ำหอมจางเร็วขึ้นและทำให้กลิ่นน้ำหอมไม่ติดทนนานในที่สุด

จัดเก็บน้ำหอมไว้ในพื้นที่ที่เหมาะสม

อีกหนึ่งข้อสำคัญที่ไม่ควรพลาดนั้น คือ การเก็บรักษาน้ำหอม คุณควรน้ำหอมให้ห่างจากแสงแดด และไม่ควรเก็บไว้ในห้องน้ำ เนื่องจากความร้อนจากแสงแดดและความชื้นจากห้องน้ำ สามารถสลายสารประกอบในน้ำหอมส่งผลให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมน้องลง และเพื่อน้อยลง ให้กลิ่นหอมยาวนานและไม่เปลี่ยนแปลงควรเก็บขวดน้ำหอมไว้ในที่เย็นห่างจากแสงแดดโดยตรงและความชื้น นอกจากนี้ไม่ควรเขย่าขวดน้ำหอมเพราะจะทำให้อากาศเข้าและคุณภาพน้ำหอมลดลงได้

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคนสำหรับ 10 น้ำหอม แบรนด์ดังระดับโลกที่สาวๆทั่วโลกต่างก็ชื่นชอบ ซึ่งน้ำหอมไม่เพียงแค่เพิ่มกลิ่นหอมให้ตัวเราเท่านั้น แต่น้ำหอมยังช่วยเสริมสร้างเสน่ห์และสร้างความประทับใจให้กับสาวๆ และคนรอบข้างอีกด้วย อีกทั้งน้ำหอมเหล่านี้ยังเป็นน้ำหอมยอดนิยมที่ได้มีการรีวิวมากมายว่ามีกลิ่นหอมติดทนนานตลอดทั้งวัน และคุณสามารถหาซื้อน้ำหอมแบรนด์ดังเหล่านี้ได้ที่หน้าเคาน์เตอร์ขายน้ำหอมของแต่ละแบรนด์และร้านออนไลน์ชั้นนำ ก็ขอบอกเลยนะคะว่าต้องเลือกร้านดีๆ ไม่อย่างนั้นคุณอาจได้น้ำหอมปลอมมาแทนได้นะคะ น้ำหอมที่เราได้นำมาแนะนำทั้ง 10 แบรนด์นี้ยังมีประโยชน์ที่นอกเหนือจากความหอมอีกด้วย อย่างเช่น กลิ่นหอมแต่ละกลิ่นจะบ่งบอกตัวตนของคุณ และบางกลิ่นอาจช่วยบำบัดให้คุณรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ และทำให้สมองปลอดโปร่งสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเสริมความมั่นใจในการทำงานแถมยังมีส่วนช่วยให้คลายความเครียดจากการทำงานอีกด้วยค่ะ

ใคร ๆ ก็อยากมีสุขภาพผิวที่ดี ซึ่งหลายคนก็มีการบำรุงดูแลผิวที่แตกต่างกัน ในปัจจุบันมีการแชร์เคล็ดลับความงามของศิลปิน K-pop ออกมามากมายอย่างเรื่องการดูแลผิวด้วย “โทนเนอร์” ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยปกติแล้วเราจะใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าหรือสบู่ในการทำความสะอาดผิวหน้าซึ่งอาจยังไม่สะอาดหมดจดหรืออาจทำให้ผิวหน้าศูนย์เสียค่าความสมดุล pH และหากปล่อยไว้นานก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาไม่ว่าจะเป็น สิว ริ้วรอยและความหมองคล้ำ ดังนั้นหลายคนจึงนิยมใช้โทนเนอร์เพื่อทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดล้ำลึก และปรับสมดุล pH ของผิวหน้า Rebecca Kazin แพทย์ผิวหนังในวอชิงตันดีซีกล่าวว่า “ตอนนี้เนื่องจากโทนเนอร์มีค่า pH ที่สมดุลและอ่อนโยนมากขึ้นจึงทำให้โทนเนอร์พัฒนาไปสู่หมวดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างแท้จริง”

แน่นอนว่าทุกคนก็อยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง เพื่อช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพผิวที่แข็งแรงและอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือการทำความสะอาดผิวที่ล้ำลึกอย่างการใช้โทนเนอร์ ในปัจจุบันมีโทนเนอร์หลายประเภทที่ให้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน และส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบน้ำ แต่จะเลือกใช้ toner ตัวไหนดีล่ะ? ซึ่งสิ่งนี้ดูจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม ดังนั้นบทความนี้เราจะพูดถึงการเลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวและโทนเนอร์มีประโยชน์อย่างไรกับผิวบ้าง พร้อมทั้งแนะนำ10 อันดับ ยี่ห้อโทนเนอร์ถูกและดี ในราคาหลักร้อยมาฝากทุกคน จะเป็นอย่างไรกันบ้างตามมาดูเลยค่ะ

โทนเนอร์คืออะไร?

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าโทนเนอร์คืออะไร? จริงๆแล้วโทนเนอร์” คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าชนิดหนึ่งที่ใช้เช็ดหน้า หลังจากล้างหน้าด้วยโฟมหรือคลีนซิ่ง ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆสีขาวหรือสีต่างๆตามที่เต็มลงไป มีไฮโดรเจนและออกซิเจนมากมาย อาจมีกรดกลีเซอรีนสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบด้วยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ใส่ลงไป โดยโทนเนอร์จะช่วยทำความสะอาดผิวและหดลักษณะของรูขุมขนมักจะใช้กับใบหน้า นอกจากนี้ยังเพิ่มความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน ช่วยยับยั้งการเกิดสิว และฟื้นฟูผิวหน้า แถมยังเป็นตัวช่วยให้ผิวหน้าพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป

ในอดีตโทนเนอร์มีส่วนผสมของแอลกอออล์เป็นระยะเวลานาน และยิ่งใช้ร่วมกับสบู่หรือโฟม จะยิ่งทำให้ใบหน้ามีความแห้ง เกิดผิวระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นในปัจจุบันจึงได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของโทนเนอร์ทั้งส่วนผสมและรูปแบบการใช้งาน โดยจะเน้นใช้ส่วนผสมที่ปราศจากแอลกอฮอล์ และเปลี่ยนจากการใช้ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นเน้นการบำรุงผิวในขั้นตอนแรกมากกว่า เพื่อการทาเซรั่มและครีมบำรุงผิวหลังการใช้โทนเนอร์นั้น จะทำให้เซรั่มและครีมบำรุงผิวจะซึมลงสู่ผิวมีประสิทธิภาพได้ดี โดยเฉพาะถ้าผิวนั้นมีความชุ่มชื้นที่เหมาะสมพอดี เซรั่มและครีมก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ในปัจจุบันโทนเนอร์จะเข้ามามีบทบาทหลักในการเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิว นอกจากนี้ส่วนประกอบที่แนะนำให้เลือกใช้คือต้องไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

โทนเนอร์ ผลิตภัณฑ์ช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดใส ไร้สิว

โทนเนอร์”เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์และจำเป็นที่สุดสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นสิวง่ายหรือสำหรับผู้ที่ต้องการทำความสะอาดเป็นพิเศษ หลังจากแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหนักอื่น ๆ เช่น เครื่องสำอางกันน้ำ ครีมกันแดด เป็นต้น ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ ของโทนเนอร์ที่เราหยิกยกมาฝากที่ทั้งหมด 6 อย่าง แน่นอนว่าทุกคนอาจอยากหันมาใช้เจ้าผลิตภัณฑ์นี้มาขึ้นแน่ ๆ เลยค่ะ

ทำให้ลักษณะรูขุมขนหดตัว

การใช้โทนเนอร์กระชับรูขุมขนเล็กน้อยบนสำลีหรือแผ่นนุ่ม ๆ แล้วซับเบา ๆ หรือเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์จะช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าและช่วยทำให้ลักษณะรูขุมขนเล็กลง

ช่วยคืนความสมดุลของค่า pH ของผิว

ปกติแล้วผิวของเรามีสภาพเป็นกรดตามธรรมชาติโดยทั่วไปจะมีค่า pH สมดุลระหว่าง 5 ถึง 6 (ในระดับ 0 ถึง 14) แต่ความสมดุลนั้นอาจหมดไปหลังจากทำความสะอาด เนื่องจากลักษณะของสบู่หรือโฟมที่สถานะเป็นด่าง ที่ส่งผลทำให้ผิวของคุณต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อกลับสู่ระดับปกติ (และอาจส่งผลให้เกิดน้ำมัน) แต่การใช้โทนเนอร์จะช่วยคืนความสมดุลนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ช่วยเพิ่มชั้นการป้องกันให้แก่ผิว

โทนเนอร์สามารถช่วยลดรูขุมขนและกระชับช่องว่างของเซลล์หลังการทำความสะอาด ลดการตกค้างของสิ่งสกปรกและสิ่งปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ผิวหนัง อีกทั้งยังสามารถปกป้องและกำจัดคลอรีนและแร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำประปาได้อีกด้วย

ทำหน้าที่เหมือนมอยส์เจอร์ไรเซอร์

โทนเนอร์บางชนิดเป็นสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ซึ่งหมายความว่าโทนเนอร์จะช่วยในการจับความชุ่มชื้นให้กับผิว เหมือนกับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น

ทำให้ผิวสดชื่น

ในวันที่คุณยุ่งวุ่นวายในทุก ๆ เช้า คุณสามารถใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าแทนการล้างหน้าในตอนเช้าได้ หรือเมื่อผิวมันหรือสกปรกได้ เจ้าโทนเนอร์จะช่วยทำให้ผิวของคุณได้รับการฟื้นฟูแม้ในขณะเดินทาง แต่หลังจากนั้นอย่าลืมบำรุงด้วยโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวต่าง ๆ ด้วยนะคะ

สามารถป้องกันขนคุด

ทุกคนฟังไม่ผิดหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วโทนเนอร์ที่มีกรดไกลโคลิกหรือกรดอัลฟาไฮดรอกซีอื่น ๆ ที่สามารถช่วยป้องกันขนคุดได้ดังนั้นโทนเนอร์จึงยังช่วยในการดูแลขนของคุณอีกด้วยค่ะ

วิธีการเลือกใช้โทนเนอร์อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

การดูแลผิวให้มีสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน การเลือกใช้ toner ให้เหมาะกับสภาพผิวก็เช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีการแบ่งประเภทของโทนเนอร์”หลากหลาย โดยส่วนใหญ่เราจะเลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ซึ่งแต่ละคนก็มีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน แต่ก่อนที่เราจะไปดูประเภทโทนเนอร์ เรามาทำความรู้จักก่อนดีกว่าว่าผิวของคุณเป็นแบบไหน เพื่อจะได้เลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ

• ผิวบอบบางระคายเคืองง่าย : ลักษณะสภาพผิวที่ไวต่อสารต่างๆเป็นอย่างมาก และมีอาการระคายเคือง แดง ได้ง่าย
• ผิวมัน ผิวผสม ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย : ลักษณะสภาพผิวมันสามารถสังเกตได้ง่ายๆ โดยจะเห็นว่าใบหน้าดูมีความลื่น มันเป็นเงา มีความเยิ้ม หน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส ไม่สว่าง มีปัญหารูขุมขนกว้าง และความมันก่อให้เกิดปัญหาสิวได้ และที่สำคัญหลายๆคนที่มีผิวมัน มักมีปัญหาผิวขาดน้ำร่วมด้วย เนื่องจากเมื่อสมดุลของน้ำมันสูญเสียไป ส่งผลต่อปราการผิวตามไปด้วย ทำให้ปราการผิวไม่แข็งแรงเกิดการระเหยของน้ำออกจากผิวมากจนเกินไป
• ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ : ลักษณะสภาพผิวแห้ง จะให้ความรู้สึกว่าผิวของเราไม่ชุ่มชื้น ไม่เปล่งปลั่ง นอกจากนี้ปัญหาผิวแห้งยังเป็นปัญหาหลัก ปัญหาแรกที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยตามมาได้ง่ายอีกด้วยนะคะ

โทนเนอร์ที่ขายในท้องตลาดมีให้เลือกทุกสภาพผิว ซึ่งเราควรเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะสมตามสภาพผิว โดยเรามีเคล็ดลับในการเลือกโทนเนอร์มาฝากดังนี้ค่ะ

โทนเนอร์สำหรับผิวบอบบางระคายเคืองง่าย

ใครที่มีสภาพผิวที่บอบบางระคายเคืองง่ายควรเลือกใช้โทนเนอร์รักษาสิวที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และMenthol and SOS (Sodium Lauryl Sulphate) รวมทั้งควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนประกอบที่ช่วยปลอบประโลมผิวที่ได้รับการยืนยันถึงประโยชน์อย่างชัดเจน และส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยน

โทนเนอร์สำหรับผิวมัน ผิวผสม ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย

สำหรับหลายๆคนที่มีสภาพผิวมันอาจคิดว่าผิวหนังมีความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว ทำให้หลายคนมองข้ามการบำรุงในส่วนของการเติมน้ำให้ผิวไป แต่ในความเป็นจริงผิวหนังยังคงต้องการความชุ่มชื้นเพื่อให้การทำงานของเซลล์ผิวเป็นไปอย่างปกติ เนื่องจากเซลล์ผิวหนังมีทั้งส่วนที่เป็นน้ำ และน้ำมัน ผู้ที่มีผิวมัน ผิวผสม ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่ายควรเน้นโทนเนอร์ที่มีสารสำคัญที่ช่วยลดความมันบนใบหน้าที่มีส่วนประกอบของ Salicylic Acid หรือ BHA รวมทั้งช่วยเติมน้ำให้แก่เซลล์ผิว

โทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

หากคุณมีสภาวะผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่ประกอบด้วยสารที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ และหลายคนคงทราบกันดีว่าเมื่ออายุคุณเพิ่มขึ้น ผิวจะผลิตน้ำมันได้น้อยลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ดังนั้นเราจึงควรเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาผิวแห้งนี้ โดยส่วนผสมหลักที่ควรจะเลือกใช้เป็นสารในกลุ่ม humectant ที่จะเติมความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว เช่น ไฮยาลูโรนิค แอซิด หรือ ไฮยาลูรอน กลีเซอรีน Propylene glycol รวมทั้งเป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดี มีการกระตุ้นการสร้างท่อน้ำในผิว รวมทั้งสารที่กระตุ้นการสร้างน้ำมันจำเป็นบนผิวได้ด้วย

10 อันดับ ยี่ห้อโทนเนอร์ถูกและดี หาซื้อได้ง่าย

สำหรับใครที่กำลังมองหาโทนเนอร์ที่ถูกและดี เราก็ได้รวบรวม 10 อันดับ ยี่ห้อโทนเนอร์ราคาหลักร้อยที่วางจำหน่ายในปัจจุบันที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดล้ำลึก และทำให้หน้าใสกิ๊ง ฉ่ำวาวสุขภาพดีดังนี้ค่ะ

1. Thayers rose petal witch hazel toner
2. Acqua Distillata Alle Rose Tonico
3. Anua Heartleaf 77% Soothing Toner
4. Clean & Clear Essentials Oil- Control Toner
5. Neutrogena Alcohol-Free Toner
6. The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution
7. Eucerin DermatoClean Clarifying Toner
8. ETUDE HOUSE Soon Jung pH5.5 Relief Toner
9. Pixi Beauty Glow Tonic Exfoliating Toner
10. Smooth E Acne Clear Whitening Toner

Thayers rose petal witch hazel toner

ยี่ห้อ	Thayers rose petal witch hazel toner
ปริมาณ	355ml.
ราคา	599 บาท
ส่วนผสมหลัก	Witch Hazel Extract, Aloe Vera, Rose Water
เหมาะกับสภาพผิว	ทุกสภาพผิว

Thayers rose petal witch hazel toner เป็นโทนเนอร์แบรนด์ดังจากอเมริกา โทนเนอร์สูตรนี้ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยสมานแผล และช่วยต่อต้านการเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยปลอบประโลมและล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่ในผิวได้ยาวนาน ลดอาการผิวขาดน้ำ และช่วยฟื้นฟูผิวที่ขาดน้ำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดอาการอักเสบของผิวและช่วยต้านอนุมูลอิสระ สาเหตุของริ้วรอย นอกจากนี้โทนเนอร์สูตรนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, พาราเบน, พาทาเลต และกลูเตน แถมยังใช้สารกันเสียจากธรรมชาติอย่าง Grapefruit Seed Extract จึงมั่นใจได้เลยว่าโทนเนอร์ตัวนี้จะไม่ก่อให้เกิดการแพ้ การระคายเคือง เหมาะสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่ายสุด ๆ

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Watsons online Konvy Lazada และ Shopee

Acqua Distillata Alle Rose Tonico

ยี่ห้อ	Acqua Distillata Alle Rose Tonico
ปริมาณ	300ml.
ราคา	339 บาท
ส่วนผสมหลัก	Canine Rose , CentifoliaRose , Damascen Rose
เหมาะกับสภาพผิว	ผิวบอบบางระคายเคืองง่าย, ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

Acqua Distillata Alle Rose Tonico เป็นโทนเนอร์ที่ถูกคิดค้นโดยนักเภสัชศาสตร์ชาวอังกฤษที่ผสมผสานไปด้วยน้ำกลั่นกุหลาบ 3 สายพันธุ์ (Canine Rose , CentifoliaRose , Damascen Rose) ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ มีคุณสมบัติเด่นในการฟื้นฟูผิว ให้ผิวกระชับเนียนนุ่มชุ่มชื้น ดูอ่อนเยาว์ และลดการระคายเคือง ลักษณะโทนเนอร์เป็นน้ำกลั่นใส ๆ หอมกลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายอ่อนโยน และที่สำคัญโทนเนอร์สูตรนี้เป็นที่นิยมมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันยาวนานกว่า 150 ปี และมียอดขายเป็นอันดับ1ในอิตาลี

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Watsons online Konvy และ Shopee

Anua Heartleaf 77% Soothing Toner

ยี่ห้อ	Anua Heartleaf 77% Soothing Toner
ปริมาณ	40 / 250 / 500ml.
ราคา	129 – 1,059 บาท
ส่วนผสมหลัก	Heartleaf ถึง 77%
เหมาะกับสภาพผิว	ผิวบอบบางระคายเคืองง่าย, ผิวมัน ผิวผสม ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย

Anua Heartleaf 77% Soothing Toner คือโทนเนอร์ที่หลายๆคนรู้จักกันดีในชื่อ “โทนเนอร์พี่จุน” เป็นโทนเนอร์ที่พี่จุน หรือ ซูโฮ EXO แนะนำ และมีกระแสมาแรง แถมรีวิวแน่น โทนเนอร์สูตรนี้มีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ บางเบา ซึมเข้าผิวไว ไม่เหนียว ไม่หนึบ มีคุณสมบัติช่วยเติมความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวให้พร้อมรับสกินแคร์อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง สิวอักเสบ ผดผื่น และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ที่สำคัญสูตรนี้ไม่มีน้ำหอม ซิลิโคน แอลกอฮอล์ และพาราเบนด้วยค่ะ

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Watsons online Konvy และ Shopee

Clean & Clear Essentials Oil- Control Toner

ยี่ห้อ	Clean & Clear Essentials Oil- Control Toner
ปริมาณ	50 / 100 ml.
ราคา	49 – 98 บาท
ส่วนผสมหลัก	Water, Alcohol Denat Glycereth-26, Panthenol Salicylic Acid, Allantoin Sodium Hydroxide Polysorbate 20, Fragrance Polyquatemium-7 Benzophenone-4 Cl42090
เหมาะกับสภาพผิว	ผิวมัน ผิวผสม ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย

Clean & Clear Essentials Oil- Control Toner เป็นโทนเนอร์ที่วัยรุ่นหลายๆคนชื่นชอบเพราะมีราคาที่ถูกในราคาหลักสิบ โดยสูตรนี้ปราศจากน้ำมัน มีคุณสมบัติที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรก เช่น น้ำมันส่วนเกิน ฝุ่นละออง หรือเมคอัพตกค้างที่โฟมล้างออกไม่หมด พร้อมส่วนผสมสารซาลิไซลิก เอซิด ที่ช่วยลดและป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย พร้อมควบคุมความมันส่วนเกินต้นเหตุสำคัญของการเกิดสิวโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และกำจัดสิวเสี้ยน ช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากครีมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเคลียร์ผิวให้สวยใส

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Watsons online Lazada และ Shopee

Neutrogena Alcohol-Free Toner

ยี่ห้อ	Neutrogena Alcohol-Free Toner
ปริมาณ	150 ml.
ราคา	186 บาท
ส่วนผสมหลัก	Glycerin, Salicylic Acid
เหมาะกับสภาพผิว	ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

Neutrogena Alcohol-Free Toner เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือทำให้รู้สึกตึง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว เป็นสูตรที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน โทนเนอร์มีลักษณะเป็นสีใส เหมือนน้ำเปล่า มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่คล้ายกับกลิ่นแป้งเด็กมาก ๆ ช่วยให้ความรู้สึกสดชื่นได้ดี เพราะมีส่วนผสมจากตัวทำความสะอาดผิวแบบอ่อน ๆ ที่จะช่วยปรับสภาพผิวของคุณและขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิวของคุณได้อย่างดี

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Watsons online Lazada และ Shopee

The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution

ยี่ห้อ	The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution
ปริมาณ	240ml.
ราคา	689 บาท
ส่วนผสมหลัก	Glycolic acid Tasmanian Pepperberry Aloe Vera and ginseng
เหมาะกับสภาพผิว	ผิวมัน ผิวผสม ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย, ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยปรับสภาพผิว เพื่อผิวขาวกระจ่างใส เนื้อโทนเนอร์มีลักษณะเป็นน้ำ สีเหลืองอ่อน ๆ เนื้อบางเบา ซึมซาบไว พร้อมเข้าขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน พร้อมลดสิวอุดตัน ยับยั้งการก่อตัวของเม็ดสีเมลลานิน ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ ความหมองคล้ำทำให้ผิวเรียบเนียน เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม อ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ คืนความสดใสให้ผิวในทันที อีกทั้งยังช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Konvy และ Lazada

Eucerin DermatoClean Clarifying Toner

ยี่ห้อ	Eucerin DermatoClean Clarifying Toner
ปริมาณ	200ml.
ราคา	450 บาท
ส่วนผสมหลัก	APG complex สารทำความสะอาดอ่อนโยน Gluco-gycerol และ Hyaluronic acid เติมออกซิเจนสู่ผิว 150 ยูนิต
เหมาะกับสภาพผิว	ทุกสภาพผิว

Eucerin DermatoClean Clarifying Toner โทนเนอร์สูตรน้ำแบรนด์ดัง ปราศจากแอลกอฮอล์ และน้ำหอม จึงไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองเวลาใช้ นอกจากนี้ยังช่วยทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนและคงสมดุลความชุ่มชื้นเปิดผิวรับออกซิเจน และทำให้ผิวรู้สึกสดชื่น รูขุมขนกระชับ เพิ่มประสิทธิการเปิดรับความชุ่มชื่นสู่ผิว พิสูจน์แล้วว่าเหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Shopee และ Lazada

ETUDE HOUSE Soon Jung pH5.5 Relief Toner

ยี่ห้อ	ETUDE HOUSE Soon Jung pH5.5 Relief Toner
ปริมาณ	80 / 120 ml.
ราคา	350 – 620 บาท
ส่วนผสมหลัก	Panthenoside™ Cooling Relief™ ค่า pH เป็นกรดอ่อนๆ
เหมาะกับสภาพผิว	ทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย

ETUDE HOUSE Soon Jung pH5.5 Relief Tonerเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผิวแพ้ง่ายและช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้าย พร้อมทำหน้าที่เป็นเกราะช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะภายนอกให้กลับมาสุขภาพดี เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไร้สารก่อให้เกิดการแพ้และไร้สารก่อมะเร็ง โทนเนอร์สูตรนี้ช่วยปลอบประโลมผิวที่ถูกทำร้ายจากมลภาวะ ด้วย Panthenoside™ ปลอดภัยด้วยสารจากธรรมชาติ 93% ปราศจากแอลกอฮอล์ มีค่า pH 5.5 อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และช่วยลดอุณหภูมิผิว อีกทั้งยังเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงอีกด้วย

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Konvy Shopee และ Lazada

Pixi Beauty Glow Tonic Exfoliating Toner

ยี่ห้อ	Pixi Beauty Glow Tonic Exfoliating Toner
ปริมาณ	100 / 250 / 500 ml.
ราคา	390 – 1,160 บาท
ส่วนผสมหลัก	Glycolic 5% , Aloe Vera และ Ginseng
เหมาะกับสภาพผิว	ทุกสภาพผิว

Pixi Beauty Glow Tonic Exfoliating Tonerเป็นแบรนด์มาจากอังกฤษที่มาโด่งดังในไทยมาก ๆ โทนเนอร์สูตรนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน ช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน และช่วยยับยั้งการอักเสบของสิว ลดสิวผด และสิวเสี้ยน และช่วยให้รอยสิวรอยดำรอยแดงดูจางลง เพื่อผิวกระจ่างใส อีกทั้งยังช่วยเสริมให้ผิวหน้าของคุณพร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไป เป็นสูตรไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Konvy Shopee และ Lazada

Smooth E Acne Clear Whitening Toner

ยี่ห้อ	Smooth E Acne Clear Whitening Toner
ปริมาณ	150ml.
ราคา	295 บาท
ส่วนผสมหลัก	10-HDA Analogue Sebacic Acid Willow Bark Extract (Natural Salicylic Acid)
เหมาะกับสภาพผิว	ผิวมัน ผิวผสม ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย

Smooth E Acne Clear Whitening Toner เป็นโทนเนอร์เช็ดทําความสะอาดผิวหน้าที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรก สลายสิ่งอุดตัน ความมันส่วนเกินที่รูขุมขน ลดการสะสมของแบคทีเรีย P.acne สาเหตุของสิว อ่อนโยนต่อผิว ลดการอักเสบของต่อมไขมันขณะเกิดสิว เหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย แถมยังลดการกลับมาเป็นสิวซ้ำซากเนื่องจากแบคทีเรียและไขมันอุดตัน สร้างความกระชับให้รูขุมขน ปรับสมดุลความมันและคืนความชุ่มชื่น ให้กับผิวด้วย pH ที่อ่อนโยน ให้ความรู้สึกสะอาดได้อย่างล้ำลึก ผสานกับ Vitamin B3 & Vitamin E ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

โทนเนอร์แบรนด์นี้มีขายที่ Watsons online Konvy Shopee และ Lazada

ควรใช้โทนเนอร์เมื่อใด

หลายคนอาจกำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่าเราควรใช้โทนเนอร์เมื่อใด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คำตอบสั้น ๆ คือ “หลังจากล้างทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว” ตามที่ Amy Wechsler แพทย์ผิวหนังในนิวยอร์กกล่าว เธอได้แนะนำว่าคุณควรใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าหลังจากทำความสะอาดผิวใช้วันละ 2 ครั้ง (ตอนหลังล้างหน้าช่วงเช้า และช่วงเย็น) และการทำความสะอาดอย่างหมดจดจะช่วย ‘ล้าง’ สิ่งสกปรกเครื่องสำอางและเซลล์ผิวที่ตายแล้วเพื่อให้ส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อผิวในโทนเนอร์ไปถึงผิวหนังของคุณได้อย่างเต็มที หลังจากใช้โทนเนอร์แล้วคุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการบำรุงรักษาผิวได้ เช่นเซรั่ม SPF และอายครีม เป็นต้น

สำหรับวิธีการใช้โทนเนอร์ก็ง่าย ๆ แค่คุณต้องเตรียมสำลีแผ่น สำหรับใช้กับใบหน้าให้พร้อมไว้ก่อนเลยค่ะ โดยหลังล้างหน้าเสร็จแล้ว ก็ใช้โทนเนอร์ หยดลงบนสำลีแผ่นให้ชุ่ม จากนั้นก็นำมาเช็ดใบหน้าทวนรูขุมขนขึ้นไปด้านบนใบหน้า ที่ละส่วน จนเช็ดทั่วใบหน้า ต่อมาค่อยลงครีมบำรุงรักษาผิวที่คุณต้องการ

บทส่งท้าย

โทนเนอร์ ฉบับใหม่ล่าสุดปี 2021 ที่เรานำมาแนะนำถือเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำความสะอาดผิวหน้าและสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าที่สามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิง ทำให้เวลาทาครีมบำรุงผิว ผิวหนังจะซึมซับคุณสมบัติครีมได้อย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งโทนเนอร์ส่วนใหญ่ยังช่วยกระชับรูขุมขน ขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้าและปรับสภาพผิวใหม่ให้สดชื่นไม่หมองคล้ำ นอกจากนี้ใครที่มีปัญหาเรื่องสิว การใช้โทนเนอร์ ก็สามารถช่วยรักษาผิวหน้าสำหรับคนเป็นสิวได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณต้องโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน และเมื่อใช้เป็นประจำผิวหน้าจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

10 อันดับโทนเนอร์ที่ถูกและดี เพื่อผิวหน้ากระจ่างใส ไร้สิว ประจำปี 2022

ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องความรัก ไม่ว่าจะอกหักรักคุดหรือโสดมานานจนจำไม่ได้ว่าครั้งล่าสุดมีแฟนตอนไหน? บางครั้งก็นกแล้วนกอีก อาจไม่ใช่เพราะคุณไม่มีเสน่ห์ แต่เสน่ห์ของคุณอาจไม่พอก็ได้ แต่อย่าเพิ่งถอดใจนะคะ เพราะวันนี้เราได้รวบรวมทริคสายมู “เสริมดวงคนโสด” ที่อาจช่วยเสริมเสน่ห์ให้คุณ บอกเลยว่าลืมคำว่า “นก” ไปได้เลยค่ะ จะมีทริคอะไรบ้างตามเรามาดูเลยค่ะ

สีลิปสติกเสริมดวงคนโสด

ลิปสติกกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน สาว ๆแต่ละต้องมีครอบครองมากกว่าหนึ่งแท่งอย่างแน่นอน แต่คุณรู้ไหม? ว่านอกจากลิปสติกจะมอบเสน่ห์ให้กับริมฝีปากแล้ว สีของมันยังช่วยเสริมดวงคนโสดอีกด้วย ซึ่งสีที่ช่วยเสริมดวงความรักก็คือ “โทนสีชมพู” เพราะสีชมพูเปรียบเสมือนพลังแห่งการเชื้อเชิญอันเป็นมิตรหรือเรียกง่ายๆ ว่าทอดสะพาน แสดงให้เห็นถึงความอ่อนหวานและพร้อมที่จะปรับตัวเข้าหาคนรอบข้างอย่างอ่อนโยน

เสริมดวงคนโสดด้วยการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

บางคนมีความเชื่อว่าเลขเบอร์โทรศัพท์จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งเชื่อว่าพลังของตัวเลขช่วยเรื่องของเงินทอง หน้าที่การงาน ความรักความมั่นคง สุขภาพ และอำนาจบารมี หากมีเลขคู่ก็จะช่วยเสริมดวงคนโสดได้เป็นอย่างดี ได้แก่ เลขคู่ 23 เหมาะสำหรับคนโสด ขาดเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม, เลขคู่ 24 เหมาะสำหรับเรื่องของการสื่อสารดึงดูดสิ่งดี ๆมีคนรักคนเมตตา, เลขคู่ 26 ให้ทรัพย์สินเงินทอง แถมได้ความรักดี ๆ เข้ามาในชีวิตอีกด้วย

เครื่องรางของขลัง เสริมดวงคนโสด

มาต่อกันที่วิธีเสริมดวงคนโสด ด้วยเครื่องรางของขลัง ที่สามารถเป็นเครื่องประดับเพิ่มความสวยงามได้ เป็นเครื่องรางจากวัดดังที่ถูกนำมาปรับเปลี่ยนให้ดูเป็นแฟชั่นและเข้าถึงง่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นไอเทมเสริมดวงความรัก การงาน การเงิน ฯลฯ

น้ำหอมเพิ่มเสน่ห์และเสริมดวงคนโสด

น้ำหอมเป็นอีกไอเทมเสริมดวงคนโสดที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์และเพิ่มความมั่นใจให้กับสาวๆ ถ้าคุณเป็นสาวหวาน เราแนะนำให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นฟลอรัลผสมกลิ่นของผลไม้เพื่อตัดความเลี่ยน หากคุณเป็นสาวเท่ให้เลือกกลิ่นแนวสปอร์ตที่มีกลิ่นซิตรัสเพื่อช่วยเพิ่มความสดชื่น ถ้าคุณไม่ชอบน้ำหอมที่เราแนะนำข้างต้น ให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุนจนเกินไป อาจจะเลือกเป็นโคโลญจน์หรือบอดี้สเปรย์แทนก็ได้

ไหว้พระเสริมดวงคนโสดเรื่องความรัก

มากันที่วิธีเสริมดวงคนโสดยอดฮิตของหลายๆคน ซึ่งทริคนี้เป็นการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องความรัก สำหรับคนที่มีแฟนก็จะช่วยให้ความรักดำเนินไปอย่างราบรื่น ส่วนคนโสดก็จะช่วยให้เจอเนื้อคู่หรือแฟนในอนาคต โดยสถานที่ที่คนนิยมไปไหว้ขอพรมีหลากหลายที่ เช่น พระแม่ลักษมี ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า, ศาลพระตรีมูรติ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์, พระแม่อุมาเทวี วัดแขก หรือแม้แต่วัดหวังต้าเซียน ประเทศฮ่องกง

สังคมไทยกับความเชื่อศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติเป็นของคู่กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรียกว่าแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ บางคนใส่เสื้อผ้าสีมงคลออกจากบ้านหรือนำเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลต่างๆ มาบูชา เพราะเชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ สามารถคุ้มครองกันภัย และสามารถบันดาลสิ่งดีๆ ให้เกิดกับชีวิตของผู้ที่มีไว้ครอบครองหรือผู้ที่บูชาได้ สำหรับคนโสดที่กำลังมองหาหรือสนใจอยากลองบูชาเครื่องรางของขลังมาพกติดตัวเพื่อ เสริมดวง ทั้งเรื่องหน้าที่การงานและความรัก วันนี้เราขอแนะนำ 5 ไอเทมสายมูที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมาฝากทุกคน จะมีแบบไหนบ้าง ตามเรามาดูกันเลยค่ะ

ไอเทมเสริมดวง “เทพจําแลงภมร”

วิธีเสริมดวงให้ตัวเองด้วยไอเทมเสริมดวง ชิ้นแรก เทพจําแลงภมร เป็นวัตถุมงคลที่มีลวดลายคล้ายผีเสื้อกำลังกางปีก บางชิ้นมีการเพนต์สีเพื่อให้เข้ากับลวดลาย บางชิ้นมีการฝังพลอยหรืออัญมณี ด้านหน้าเป็นเทพสององค์ที่ปรากฏ คือ พระพักตร์พระศิวะมหาเทพหันหน้าเข้าหาพระพักตร์พระแม่อุมาเทวี ผู้ที่ได้บูชาจะบังเกิดแต่โชคลาภ ใช้ผลดีด้านความรัก เมตตามหานิยม ค้าขายดี พุทธคุณดีเลิศ โดดเด่นในสายงานของตนเอง

ไอเทมเสริมดวง “แหวนหินนำโชค”

มาต่อกันที่ไอเทมเสริมดวง อย่างแหวนหินนำโชคเสริมสิริมงคล ใส่แล้วช่วยเสริมดวงในเรื่องต่าง ๆ ช่วยดึงดูดความรัก เสริมการเงิน โชคลาภ และอื่น ๆ อีกมากมาย หินที่นำมาดีไซน์มีหลายแบบความหมายดี แถมสวย เก๋ ไม่ซ้ำใคร มีไซส์ให้เลือกมากมาย จะใส่เป็นเสริมดวงหรือใส่เป็นเครื่องประดับชิค ๆ ก็ได้ นอกจากแหวนแล้วก็ยังมีต่างหูและกำไล ส่วนราคาก็ไม่แรงมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันต้น ๆค่ะ

ไอเทมเสริมดวง “ตะกรุดเครื่องราง”

ถ้าพูดถึงไอเทมเสริมดวง ที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่หลายคนต้องนึกถึงตะกรุดเครื่องรางแน่ ๆค่ะ เพราะเป็นเครื่องรางที่เหล่าดารา เซเลบชื่อดังนิยมบูชา เช่นสาวลิซ่า Blackpink ก็มีนะ โดยแบรนด์อย่าง Leila amulets ได้นำเครื่องรางของขลังที่ปลุกเสกจากวัดต่าง ๆ มาดีไซน์ให้ทันสมัยถูกใจสาว ๆ สายแฟชั่น ซึ่งตะกรุดเป็นเครื่องรางเสริมดวงการเงิน การงาน ค้าขาย ความรัก ความเมตตา รวมถึงโชคลาภและการคุ้มครองภัยอันตรายต่าง ๆ

ไอเทมเสริมดวง “หน้าพรานบุญ”

แต่ละภาคของประเทศไทยมักมีเครื่องรางของขลังที่คนในพื้นที่นิยมบูชากัน โดยแต่ละภาคก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าจะให้พูกถึงสุดยอดไอเทมเสริมดวง แห่งวิชาเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โภคทรัพย์ คงก็ยกให้เครื่องรางของขลังทางสายปักษ์ใต้ อย่างหน้าพรานบุญ ที่นิยมใช้เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้ตนเอง เหมาะที่จะใช้ในการค้าขายการเจรจา การเข้าหาผู้คน

ไอเทมเสริมดวง “ด้ายแดง”

มาต่อกันที่ไอเทมเสริมดวงสุดท้ายที่เรานำมาแนะนำอย่าง ด้ายแดงนำโชค เครื่องรางยอดฮิตจากฮ่องกง ช่วยเสริมดวงหลัก ๆ อยู่ 3 ด้าน คือด้านความรัก ความโชคดี และชะตารุ่งโรจน์ โดยด้านที่แต่ละเส้นได้นำมาจากการไหว้ขอพรกับเทพเจ้าหยกโหลว วัดหวังต้าเซียน ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรด้านความรัก ใส่แล้วช่วยเสริมโชคลาภ เพิ่มแต้มบุญ แถมดีไซน์ยังน่ารักเก๋ ๆ ราคาไม่แพงมากเริ่มต้นที่หลักร้อย

เรื่องความรักไม่เข้าใครออกใครเลยจริง ๆ บางคนพยายามแค่ไหนก็ยังผิดหวังกับความรักอยู่ตลอด แต่บางครั้งความพยายามอย่างเดียวก็คงไม่พอ เพราะความรักบางทีก็ต้องพึ่งดวงด้วย บางคนทำบุญกับคนไม่ขึ้นทำดีแทบตายแต่ไม่เคยได้อะไรกลับมา อย่าเพิ่งท้อนะคะ เพราะอาจมีสิ่งที่มองไม่เห็นปิดบังคุณงามความดีทำให้เสน่ห์คุณลดลง วันนี้เราได้รวบรวม 5 เครื่องรางเสริมดวงความรัก ที่ช่วยสร้างเสริมเสน่ห์ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความรัก ความเมตตา ทำให้โชคชะตาชีวิตก้าวหน้าขึ้น บอกเลยงานนี้สายมูไม่ควรพลาดค่ะ

เครื่องรางเเสริมดวงความรัก “เก็นจิ”

เริ่มกันที่เครื่องรางเที่โด่งดังมากจากเรื่องราวความรักสุดคลาสสิกในยุคเฮอันอย่าง “เก็นจิโมโนกาตาริ ” แห่งศาลเจ้า Nonomiya Jinja เป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ นี้ตั้งอยู่ใกล้กับป่าไผ่ในอาราชิยามะ คนท้องถิ่นจะทราบดีว่าเป็นศาลเจ้าแห่งการจับคู่ ทำให้เป็นสถานที่ที่คนโสดมักมาเยือนเป็นจำนวนมาก ตัวเครื่องรางช่วยให้สมหวังเรื่องคู่ครอง ได้พบเจอแต่คนดี ๆ

เครื่องรางเสริมดวงความรัก “โคยเคียว” มหาเสน่ห์

มาต่อกันที่เครื่องรางชื่อแปลกอย่าง “โคยเคียว ” เชื่อกันว่าเป็นสุดยอดเครื่องรางมหาเสน่ห์ ดึงดูดคนให้เข้าหา และยังขึ้นชื่อด้านเรียกจิตด้วย คนโสดที่แอบหลงรักใคร หรือคนมีคู่ที่อยากให้แฟนหลง ให้เขียนชื่อเราและชื่อเขาใส่กระดาษ เอากระดาษห่อตะกรุดแล้วซ่อนไว้ใต้หมอน แล้วสวดคาถาจนหลับไป เชื่อว่าดวงจิตเราจะไปผูกกับดวงจิตเขา

เครื่องรางเเสริมดวงความรัก “โรสควอตซ์ (Rose Quartz)” เสริมเสน่ห์

หินสีชมพูหวานใส หรือ โรสควอตซ์ เป็นได้ทั้งเครื่องรางเและเครื่องประดับ เชื่อกันว่าหินที่ใช้ทำเป็นหินแห่งเทพวีนัส ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความรักและการให้อภัย เมื่อนำมาสวมใส่จะดึงดูดความรัก เสริมเสน่ห์ สร้างมิตรภาพที่ดี ใครเห็นก็รักใคร่เอ็นดู แถมโรสควอตซ์ยังมีพลังขจัดความโกรธเกลียด รักษาแผลใจ ถือว่าเป็นหินที่เพิ่มพลังบวกให้คุณเลยก็ว่าได้

เครื่องรางเเสริมดวงความรัก “ด้ายแดง”

เครื่องรางเยอดฮิตขวัญใจคนโสด “ด้ายแดง ” เป็นความเชื่อของประเทศแถบตะวันออกอย่างญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ที่เชื่อว่าคนที่เป็นเนื้อคู่กันจะมีด้ายแดงที่มองไม่เห็นผูกอยู่ที่นิ้วก้อยของทั้งคู่ จนนำพาให้มาเจอกัน จากนั้นด้ายแดงก็กลายเป็นเครื่องรางเสริมความรัก ถ้าคนที่สวมใส่เป็นคนโสดก็จะได้พบเจอกับคนรัก ส่วนคนมีคู่อยู่แล้ว ความรักก็จะมั่นคง

เครื่องรางเเสริมดวงความรักจากศาลเจ้า Tokyo Daijingu

มากันที่เครื่องรางเชิ้นสุดท้ายสุดคิวต์จากศาลเจ้า Tokyo Daijingu ประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความรัก เครื่องรางของขลังจากที่แห่งนี้ให้พรเรื่องความรัก ทั้งแบบช่วยเติมเต็มความรัก ดึงดูดคู่รักให้รู้สึกผูกพันกัน ไปจนถึงปลอบใจคนอกหัก

ไหนใครโสดเชิญทางนี้เลยจ้า บางครั้งก็คงรู้สึกเหงาใจทุกทีใช่ไหมคะ? แต่ต่อไปนี้ทุกคนจะไม่นกอีกต่อไป เพราะวันนี้เราได้รวบรวมแหล่ง เครื่องรางความรัก มาฝากทุกคน ซึ่งเครื่องรางความรัก เป็นอีกหนึ่งไอเทมเด็ดที่คนโสดสายมูควรมีติดตัวไว้ เพราะช่วยเสริมดวงความรัก เสริมเสน่ห์ ใครพบเห็นก็รักใคร่เอ็นดู โดยแหล่งเครื่องรางที่เรานำมาแนะนำเป็นแหล่งที่ได้รับความนิยมกันในหมู่ชาวสายมู จะมีที่ไหนกันบ้างตามเรามาดูกันเลยค่ะ

เครื่องรางความรัก “แปดเซียนราชาโชค” จากร้าน Leila Amulets

เครื่องรางความรักที่กำลังมาแรงอีกหนึ่งคือ “แปดเซียนราชาโชค ” ที่เป็นได้ทั้งเครื่องราง เสริมดวงความรัก หรือนำไปใช้เป็นเครื่องประดับก็เก๋ โดยแหล่งที่เรานำมาแนะนำเป็นคือร้าน Leila Amulets ที่โดดเด่นในการนำความเชื่อเรื่องเครื่องราง ของขลัง และวัตถุมงคล มาออกแบบเติมความเป็นแฟชั่นระดับไฮเอนด์ที่สวยงามเรียบหรู สามารถนำมาสวมใส่ได้ทุกวันทุกโอกาส ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงสวมก็ดูดี

เครื่องรางความรัก “ด้ายแดงนำโชค” วัดหวังต้าเซียนจากร้าน Sattha.amulet

มาต่อกันที่เครื่องรางความรัก ที่กำลังเป็นที่นิยมที่สุดในตอนนี้อย่าง “ด้ายแดง ” แห่งวัดหวังต้าเซียน ฮ่องกง ในวันแห่งนี้มีรูปปั้นเทพจันทรา หรือ เทพเจ้าหยุคโหลว ซึ่งท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก บรรดาคนโสดหรือคนที่ผิดหวังในความรัก ก็ต่างมารวมตัวทำพิธีไหว้ขอเนื้อคู่กันที่นี้ ส่วนด้ายแดงก็เป็นเครื่องรางที่ช่วยให้สมหวังในเรื่องความรัก มีการรีวิวกันปากต่อปากถึงความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เครื่องรางด้ายแดงจากวัดหวังต้าเซียนเป็นที่นิมยมากขึ้นเรื่อยๆ

เครื่องรางความรัก “ตะกรุดพิศมรร้อยไหม” จากร้าน Devagachanam

ถึงคิวเครื่องรางของไทยกันบ้าง “ตะกรุดพิศมรร้อยไหม ” เป็นเครื่องรางความรัก ที่มีคุณด้านเมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ ใครพบเห็นก็รักใคร่เอ็นดู โดยถูกสร้างโดยพระเกจิชื่อดัง เช่น หลวงปู่รวย อาจาโร วัดคลองขนอน จ.ราชบุรี, หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน จ.เพชรบูรณ์ เป็นต้น หากใครที่ต้องการมีติดตัวไว้เราขอแนะนำร้าน Devagachanam ซึ่งมีหน้าร้านอยู่ที่ห้างเจเจมอลล์ ชั้น.2 (หลังเคอรี่เอ็กซ์เพรส)

เครื่องรางความรัก “เทพจำแลงภมร” จากร้าน Vikanda_amulets

มาต่อกันที่เครื่องรางความรักชิ้นสุดท้ายจากร้าน Vikanda_amulets ที่เรานำมาแนะนำ “เทพจำแลงภม ” เป็นหนึ่งในเครื่องรางที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่ชาวไทย ชาวจีน มาเลเซีย สิงค์โปร์ ไต้หวันฯ ช่วยในเรื่องความรัก คาวมเมตตามหานิยม การค้าขายรุ่งเรือง สร้างโดย ครูบากฤษณะ อิณทวัณโณ มีลักษณะเหมือนผีเสื้อกางปีก ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นเป็นหน้าของพระศิวะ และพระแม่อุมาเทวีหันหน้าเข้าหากัน และมีอักษรโบราณที่เรียกว่า เทวะนาคีล้อมรอบมีรูปทรงเป็นทรงกระบอกจนนำมาสวมใส่เป็นเครื่องประดับได้ในปัจจุบัน