เดือน: ธันวาคม 2023

สำหรับ สิวที่หลัง นั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และแน่นอนว่าสามารถแก้ไขได้หลายทางเช่นเดียวกัน ซึ่งถึงแม้ว่าอาจเป็นส่วนที่สามารถปกปิดได้ แต่การที่มีผิวเนียนสวยสุขภาพดีก็ย่อมช่วยเสริมความมั่นใจให้กับคุณได้มากกว่า ดังนั้นใครเจอปัญหานี้อยู่ ถึงเวลามาแก้ไขให้หายขาดกันแล้ว

สาเหตุของการเกิด สิวที่หลัง

ทำไม สิว ที่หลัง ถึงได้แวะเวียนมาทักทายคุณได้ โดยความจริงแล้วสิว ที่ หลัง เกิด จากหลายสาเหตุ ซึ่งหลัก ๆ จะเป็นความเครียด นอนน้อย ฮอร์โมนเปลี่ยน ยาบางชนิด การกินอาหารไขมันสูงหรือรสหวานบ่อย ๆ และการเป็น สิว ที่ หลังยังรวมไปถึงการสวมเสื้อผ้าที่ไม่ระบายเหงื่อ ทำให้เกิดเป็นความอับชื้นหมักหมม และสุดท้ายแม้แต่เรื่องของพันธุกรรม กับการแพ้สกินแคร์ก็สามารถทำให้เกิดสิว ขึ้น หลังได้เช่นกัน

อยากรักษา สิวที่หลัง ต้องทำอย่างไร

เมื่อเกิดสิวที่หลัง ขึ้นทางที่ดีคือ การรักษา สิว ที่ หลังนั่นเอง แต่จะมีวิธีการรักษาแบบไหนบ้างที่น่าสนใจ และคุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ วันนี้เรารวมมาไว้ให้คุณที่นี่เรียบร้อยแล้ว

• เหงื่ออกให้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า

สิว หลังนั้นจะลดการเกิดลงได้ถ้าไม่เจอความสกปรก หรือการอับชื้นเข้ามากระตุ้น การรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อมีเหงื่อสามารถช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้ เช่น หลังออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมที่เหงื่อออกเยอะ การเตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนเสมอช่วยแก้ไขเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี และต้องไม่ลืมเลือกเสื้อผ้าที่มีการระบายอากาศได้ดีมาใส่กันอีกด้วย

• ใช้เลเซอร์เข้ามาช่วย

วิธีการนี้เหมาะทั้งกำจัดสิว และรอย สิว ที่ หลัง โดยจะต้องพึ่งให้แพทย์ผิวหนังเฉพาะทางใช้เลเซอร์ที่เหมาะสมให้กับคุณ โดยเลเซอร์สามารถเข้าไปฆ่าเชื้อ พร้อมทั้งลบรอยได้ ถือว่าเป็นการรักษา รอย สิว ที่ หลัง ภายใน 7 วันที่น่าสนใจ แต่อาจต้องใช้งบประมาณมากกว่าวิธีอื่น ๆ

• ทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน

ถ้าตอนนี้คุณกำลังเจอกับหลัง เป็น สิวนั้นควรเลี่ยงการขัดถูหลังที่แรงเกินไป เพราะอาจเข้าไปรบกวนผิว แต่การทำความสะอาดด้วยผลิตภภัณฑ์ที่อ่อนโยน พร้อมทั้งขัดถูเพียงเบา ๆ นั้นสามารถเป็นวิธี รักษา สิว ที่ หลังที่ดีกว่า เพราะไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเพิ่มนั่นเอง

• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมัน

ความมันส่วนเกินทำให้เกิดสิวได้ ดังนั้นเลี่ยงเอาไว้ก่อนดีกว่า หากต้องใช้อะไรกับผิวที่หลังแนะนำให้เลือกแบบที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน จะลดการอุดตันของรูขุมขนได้ และยังช่วยลดการระคายเคืองได้อีกด้วย ทั้งหมดต้องทำร่วมกันไปเพื่อไม่ให้คุณต้องเจอปัญหาสิวมากวนใจ

รวมไอเท็มรักษาสิวที่หลัง ยอดนิยม

ใครที่ต้องการรักษาสิวที่หลังในชีวิตประจำวัน แนะนำว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมมาดูแลจะช่วยให้คุณแก้ปัญหากวนใจนี้ได้เร็วมากขึ้น มีอะไรบ้างมาดูกัน

1. DERMEDY BETTER BACK ACNE SPRAY

ใครมองหาตัวช่วยดูแลหลังแบบใช้งานง่ายต้องไม่พลาด เพียงฉีดลงบนหลังที่เป็นสิวก็จะเข้าไปช่วยยับยั้งการเกิดสิวด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติกันได้แล้ว แถมยังไม่ทำให้ระคายเคืองเพิ่มอีกด้วย

2. OXE’ CURE BODY ACNE SPRAY

สเปรย์ขวดเขียวยอดนิยม ขึ้นชื่อเรื่องการกำจัดสิวที่หลัง เมื่อฉีดลงไปที่หลังแล้วจะได้ความรู้สึกเย็น และจี๊ดที่หลังหากโดนสิวอักเสบ สิ่งเหล่านี้จะเข้ามาช่วยกำจัดสิว และปกป้องผิวไปพร้อมกัน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ แถมยังใช้กำจัดสิวในส่วนอื่นของร่างกายทั้งแขน ขา อก ได้อีกด้วย

วันนี้เราได้รู้จักกับเรื่องราวของ สิว ที่หลัง กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือก็คือการเริ่มตามหาแนวทางการรักษาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และความสะดวกของคุณ แต่บอกเลยว่าเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นอย่าปล่อยเอาไว้นาน เพราะอาจทำให้เกิดรอยฝังลึก พร้อมทั้งยังลดความมั่นใจให้กับคุณได้ บางรายอาจมีอาการเจ็บสิวร่วมด้วย แบบนี้ไม่ดีแน่ มาเริ่มกำจัดไปพร้อมกันเลยดีกว่า

อ่านบทความอื่นๆ:

• ปัญหาผิวที่เกิดจากสิว ครีม ลดรอยสิว ผู้ช่วยผิวตัวจริง
• แชร์ 8 เจลล้างหน้า ยอดนิยม ลดสิว หน้าสะอาดใสอย่างล้ำลึก

ใครกำลังเจอกับปัญหา ขอบตาดำ อยู่บ้างยกมือขึ้น บอกเลยว่าปัญหานี้เป็นได้จากหลายสาเหตุ และก็มีวิธีแก้ได้หลายทางเช่นเดียวกัน เราลองมาเข้าใจปัญหานี้ให้มากขึ้น และหาวิธีแก้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งใช้ธรรมชาติมากที่สุดกันดีกว่า

ขอบตาดำ เกิดจากอะไร

ปัญหา ขอบตา ดำ หรือหมีแพนด้านั้นเกิดมาจากอะไรได้บ้าง หลายคนน่าจะอยากรู้ โดยขอบ ตา ดำ เกิด จากเส้นเลือกรอบดวงตาไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้หลอดเลือดดำขยายตัว เกิดเป็นรอยคล้ำที่ใต้ตา ซึ่งมาได้จากการอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ อายุที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ไปจนถึงการมีอาการภูมิแพ้ ก็สามารถทำให้เกิดขอบ ตา ดำได้เช่นกัน

วิธีแก้ ขอบตาดำ ทำอย่างไรได้บ้างให้เห็นผลเร็ว

ถึงเวลามาเก็บเทคนิคการแก้ไขขอบตาดำกันแล้ว ใครที่เจอปัญหาใต้ ตา ดำกันอยู่ไม่ต้องกังวล เพราะเราเตรียมเทคนิคที่ทำง่าย ปรับใช้ได้กับทุกไลฟ์สไตล์มาฝากกันเรียบร้อยแล้ว

• เติมประโยชน์ให้ร่างกาย

ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ปัญหาใต้ ตา คล้ำที่มาจากกรรมพันธุ์ การหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้นสามารถช่วยคุณได้ เริ่มต้นจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่างผักผลไม้ เพื่อเติมวิตามินและเกลือแร่เข้าไปช่วยต้านอนุมูลอิสระ ดื่มน้ำให้เพียงพอ เลี่ยงการปะทะแดด พักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อคืน เมื่อทำรวมกันอย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น และรอยคล้ำจะค่อย ๆ หายไป

• มาส์กตา

บำรุงเฉพาะจุดที่รอบดวงตา ช่วยแก้ ขอบ ตา ดำได้ เน้นการใช้ธรรมชาติเข้ามาช่วย เช่น แตงกวา ว่านหางจระเข้ มะเขือเทศ นำไปหั่นบาง ๆ แล้วมาประคบ นอกจากจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวแล้ว ยังเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายไปพร้อมกัน

• นวดเพิ่มการไหลเวียน

ส่วนนี้คุณสามารถทำเอง หรือจะให้ทางการแพทย์ช่วยก็ได้เช่นกัน โดยถ้านวดและดูแลอย่างถูกจุดจะสามารถแก้ ขอบ ตา ดำ เร่ง ด่วนให้กับคุณได้ วิธีการนวดง่าย ๆ คือ หลังตื่นใช้นิ้วชี้กดเบา ๆ ใต้ตาจากซ้ายไปขวาประมาณ 10 ครั้ง เพื่อช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด หรือจะประบคบน้ำอุ่นประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจะเพิ่มความสดชื่น ปิดท้ายที่การนำถุงชาอุ่น ๆ มาประคบ 5-10 นาที ก็สามารถช่วยลดรอยคล้ำได้

• ใช้ความเย็นเข้ามาช่วย

แผ่นปิดตาแบบเจลเย็นสามารถหาซื้อได้ไม่ยาก นำไปแช่ตู้เย็นเอาไว้ จากนั้นนำมาวางประคบตา 5-10 นาที มีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดอาการขอบตาดำจากหลอดเลือดดำขยายตัวได้

• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หากต้องการแก้อย่างรวดเร็วให้แพทย์ช่วยกันดีกว่า การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีแก้ไขที่เร็วและตรงจุด แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะมีความเสี่ยงเนื่องจากเป็นส่วนที่บอบบาง

สิ่งที่ควรทำเพื่อให้ห่างไกลขอบตาดำ

เข้าใจสาเหตุของการเกิดขอบตาดำพร้อมทั้งวิธีแก้กันไปแล้ว แต่จะป้องกันอย่างไรถ้าไม่ต้องการเจอกับปัญหานี้ เราเตรียมเทคนิคการดูแลตัวเองมาฝากกันแล้ว

1. เลี่ยงการขยี้ตา

การขยี้ตาอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ตาแดง ทำลายผิวรอบดวงตา ถ้าคุณมีความรู้สึกคันตา แนะนำว่าให้ประคบเย็นหรือใช้ยาหยอดตาจะดีกว่า

2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน

การบำรุงผิวรอบดวงตาต้องการความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก แนะนำว่าต้องใช้สิ่งที่ออกแบบมาเพื่อผิวรอบดวงตาเท่านั้น

3. รักษาสมดุลความชุ่มชื้น

การขาดน้ำมากเกินไปทำให้ความแห้งกร้านบนผิวเกิดขึ้น และยังมีรอยคล้ำ ริ้วรอย ตามมาอีกด้วย ดังนั้นหมั่นบำรุง เติมความชุ่มชื้น ดื่มน้ำ เติมวิตามิน สิ่งเหล่านี้เติมความชุ่มชื้นและดีกับร่างกายหลายส่วน

ถ้าตอนนี้ปัญหาขอบตาดำกำลังตามกวนใจและทำให้คุณเสียความมั่นใจ การแก้เฉพาะหน้าที่เร็วที่สุดคือการแต่งหน้ากลบไปก่อน จากนั้นค่อย ๆ ดูแลบำรุงเพื่อการฟื้นฟูตามที่เราได้แนะนำไป เมื่อทำอย่างต่อเนื่องมั่นใจได้เลยว่าผิวใต้ตาของคุณจะกลับมาสดใสสุขภาพดีอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าลืมที่จะดูแลตัวเองเป็นประจำ เพื่อให้คุณมั่นใจจากภายในสู่ภายนอก

อ่านบทความอื่นๆ:

• ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมาสว่างกระจ่างใสด้วย Vaseline Super Vitamin
• รวม 5 เซรั่มวิตซี สูตรเข้มข้น บำรุงผิว ลดรอยดำ หน้าสว่างกระจ่างใส

ถ้าพูดถึง สิวฮอร์โมน นั้นไม่ว่าชายหรือหญิงก็ต้องเจอกับปัญหานี้กวนใจไม่แพ้กัน และถึงแม้จะแก้ยาก แต่ก็ยังเป็นปัญหาผิวที่แก้ได้ ดังนั้นวันนี้เรามาเก็บข้อมูลเพิ่มเพื่อรักษาสิวประเภทนี้ไปพร้อมกันดีกว่า รับรองว่าปัญหากวนใจคุณจะหมดไป คืนความมั่นใจให้ผิวหน้าได้อย่างแน่นอน

สิวฮอร์โมน คืออะไร

ก่อนที่จะแก้ต้องเข้าใจกันก่อนว่า สิว ฮอร์โมน คืออะไรกันแน่ โดยสิว ฮอร์โมน คือ สิวที่เกิดในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เมื่อฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานที่ต่อมไขมัน ทำให้มีเชื้อแบคทีเรียออกมามากขึ้น เกิดเป็นการอุดตัน และกลายเป็นสิวประเภทต่าง ๆ ช่วงที่มักเกิดคือ สิว ประจำเดือน ช่วงที่ใกล้หมดประจำเดือน ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ และช่วงตั้งครรภ์ เป็นต้น

อยากจัดการ สิวฮอร์โมน ต้องทำอย่างไร

ใครที่โดนเรื่องสิวฮอร์โมน กวนใจอยู่ ต้องการวิธี รักษา สิว ฮอร์โมน วันนี้เรามาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปปรับใช้ และจัดการสิว ฮอร์โมนให้หมดไปกันดีกว่า เพราะมีไว้ทำให้ทั้งเจ็บผิวหน้า และเสียความมั่นใจอย่างแน่นอน

• สิว ฮอร์โมน รักษา แบบ ธรรมชาติ

เชื่อว่าเป็นวิธีที่คนต้องการรักษากันมากที่สุด โดยคุณสามารถใช้ TEA TREE OIL ทาเฉพาะที่เพื่อลดการอักเสบ หรือขัดผิวแบบอ่อนโยนขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กินน้ำมันปลาเพื่อลดการอักเสบและเติมความชุ่มชื้น และใช้กรดอัลฟาไฮดรอกซี ที่มาจากสารสกัดผลไม้ เพื่อช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และช่วยลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ยา รักษา สิว ฮอร์โมน

สำหรับยานั้นมีทั้งแบบกินแบบทา โดยถ้าเป็นแบบทาจะมีหลายกลุ่มทั้ง ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ และกรดอะซีลาอิก ส่วนถ้าเป็นแบบกินก็อาจได้รับเป็นยา รักษา สิว ฮอร์โมน อย่างยาปฏิชีวนะแบบรับประทาน ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน รวมทั้งการใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์เท่านั้น

• การรักษาด้วยหัตถการ

การรักษาด้วยวิธีนี้มีทั้งการใช้เคมีลอกผิว เพื่อป้องกันการอุดตัน ส่วนใหญ่จะทำกับหญิงตั้งครรภ์ เพราะไม่สามารถใช้ยาบางชนิดได้ หรืออาจเป็นการทำเลเซอร์ เพื่อเข้าไปช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย มีหลายแบบให้คุณได้เลือกทำตามความต้องการและงบประมาณ สุดท้ายเลือกที่จะทำการฉีดสิว เป็นการลดการอักเสบแบบตรงจุด ให้ผลที่ดีแต่ควรทำไปคู่กับวิธีการอื่นด้วย

ความแตกต่างของสิวฮอร์โมน ผู้หญิงกับผู้ชาย

เรามาดูกันดีกว่าเวลาผู้หญิงกับผู้ชายเป็นสิวฮอร์โมน นั้นมีความเหมือนหรือว่าต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจการรักษาที่เหมาะสมให้มากขึ้น

1. สิว ฮอร์โมน ชาย

สิวฮอร์โมนในผู้ชายนั้นเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน หรือปริมาณฮอร์โมนที่ไม่สมดุลภายในร่างกาย โดยเฉพาะผู้ชายที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชายที่มีชื่อว่า เทสโทสเตอโรน เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกระตุ้นการผลิตไขมันส่วนเกิน ส่งผลให้ผิวหน้ามันเยิ้ม และนำไปสู่ปัญหาสิวฮอร์โมนนั่นเอง ยิ่งถ้าเป็นวัยรุ่นผู้ชายที่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยแล้ว อาจกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สิวนั้นเพิ่มมากขึ้นจากเรื่องสุขอนามัยได้

2. สิว ฮอร์โมน หญิง

ผู้หญิงมักต้องเจอกับปัญหานี้บ่อยกว่า และกลับมาเป็นซ้ำบ่อย ถ้าคิดว่าส่งผลรุนแรงมากการปรับฮอร์โมนด้วยยาคุมแบบกินที่ไม่ส่งผลกระทบกับส่วนอื่นของร่างกาย ช่วยปรับสมดุลให้คุณได้เป็นอย่างดี และดูแลตัวเองเป็นพิเศษช่วงก่อนมีรอบเดือน และหลังมีรอบเดือน เพราะถือเป็นช่วงที่สิวบุกเข้ามาทำร้ายกันบ่อยที่สุด

สิว ฮอร์โมน เป็นเรื่องที่กวนใจใครหลายคนอย่างแน่นอน แต่คุณก็สามารถค่อย ๆ หาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับคุณได้ ซึ่งการหมั่นดูแลความสะอาดเป็นพื้นฐาน และการลดความเครียด เข้าใจธรรมชาติของร่างกายมีส่วนช่วยในการลดสิวให้กับคุณได้เช่นกัน ดังนั้นใครที่รู้สึกว่ากำลังกังวลมากเกินไปขอแนะนำให้ลองปล่อยวาง แล้วสนุกไปกับการรักษากันดีกว่า เพื่อลดความเครียดที่เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดสิวลงนั่นเอง

อ่านบทความอื่นๆ:

• กำจัดสิวด้วยวิธีธรรมชาติไปกับ ผลไม้ลดสิว มีอะไรบ้างมาดูกัน
• แนะนำ 7 ครีมลดสิว สิวยุบ หายเกลี้ยง ผิวเรียบเนียน เปล่งปลั่ง