Categories
lucky item

10 น้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกของสาวๆ ที่ติดทนนานไม่มีวันเบื่อ

เราเชื่อว่าสมัยนี้ไอเท็มยอดฮิตอีกหนึ่งอย่างที่สาวๆหลายคนไม่ควรพลาด นั่นคือน้ำหอม ซึ่งน้ำหอมนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรยมากเพราะมันสามารถสะท้อนบุคลิกภาพตัวตนของคุณออกมาได้อย่างชัดเจน แต่มันก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น น้ำหอมยังมีหลากหลายกลิ่นที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป รวมถึงความเข้มข้นของกลิ่นน้ำหอมที่ยากจะลืมเลือนด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันน้ำหอมมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์มากมายในท้องตลาด โดยน้ำหอมสมัยนี้มักประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและสังเคราะห์เพื่อให้ได้กลิ่นที่หลากหลาย ซึ่งการเลือกกลิ่นที่เหมาะสมกับคุณนั้นอาจเป็นเรื่องท้าทายของคุณสุดๆเลยค่ะ เพราะหากคุณเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นที่เหมาะกับคุณ มันอาจสามารถสร้างความประทับใจให้แก่คนที่เข้าใกล้คุณได้ดี ซึ่งวันนี้เราก็มีเคล็ดลับการเลือกน้ำหอมยังไงให้เข้ากับบุคลิกของคุณมาฝากทุกคน

นอกจากนี้การฉีดน้ำหอมให้ได้กลิ่นหอมที่ยาวนานนั้นก็ยากพอๆกับการถูกลอตเตอรี่เลยล่ะค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะยากเกินความสามารถทางการผลิตของ 10 แบรนด์ดังระดับโลกที่เราได้รวบรวมมาแนะนำกับสาวๆทุกคนในวันนี้ ซึ่งน้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกเหล่านี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่าน ทำให้เกิดเป็นกระแสความนิยมและได้รับการยอมรับจากสาวๆทั่วโลกมากมาย ส่วนจะมีแบรนด์ไหน? รุ่นไหน? กันบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

ทำความรู้จักกับน้ำหอม มากขึ้น

น้ำหอม เป็นส่วนผสมที่ทำมาจากน้ำมันหอมระเหยหรือสารประกอบให้กลิ่น, สารฟิกเซทีฟ (fixative) ที่มีกลิ่นหอม และสารตัวทำละลายที่มักจะอยู่ในรูปของเหลว ถูกนำมาใช้เพื่อให้ร่างกายมนุษย์, สัตว์, อาหาร, สิ่งของ หรือพื้นที่อยู่อาศัยมีกลิ่นหอมที่น่าพึงพอใจ โดยน้ำหอมมีมาตั้งแต่ยุคแรกสุดของเคมีวิทยาศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งน้ำหอมสมัยใหม่เริ่มขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยมีการสังเคราะห์สารประกอบ aroma ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเคมีอินทรีย์ในแง่ของวิธีการการจำแนกอย่างเป็นระบบและทฤษฎี

หลายคนคงเข้าใจว่าต้นกำเนิดของน้ำหอมมาจากฝรั่งเศส แต่ความจริงแล้วศิลปะการทำน้ำหอมเริ่มในสมัยโบราณของอียิปต์ที่อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ และได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปีค.ศ. 1221 ศิลปะการปรุงน้ำหอมได้เป็นที่รู้จักในยุโรปตะวันตกถือเป็นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลี ต่อมาในศตวรรษที่ 16 Catherine de’ Medici ได้นำการปรับแต่งน้ำหอมของอิตาลีมายังห้องปฏิบัติการของฝรั่งเศสที่เชื่อมต่อกับอพาร์ทเมนต์ของเธอด้วยทางเดินลับ ดังนั้นสูตรการทำน้ำหอมของเธอจึงเป็นสูตรลับที่ไม่สามารถขโมยได้ ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางในยุโรปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้น้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ก็มีจุดกำเนิดมาจากที่แห่งนี้เช่นกันค่ะ

ประเภทน้ำหอม มีอะไรบ้าง?

แน่นอนว่าสูตรการผลิตน้ำหอม ของแต่ละแบรนด์ดังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและถูกเก็บไว้เป็นความลับของบริษัท ถึงแม้จะมีการตีพิมพ์เผยแพร่ออกมาอย่างกว้างขวาง แต่วัตถุดิบที่ใช้ก็ยังมีความซับซ้อนที่ทำให้ยากต่อการอธิบาย แต่สำหรับการแยกประเภทน้ำหอมโดยทั่วไปจะมีอยู่ทั้งหมด 5 ประเภทตามความเข้มข้น ได้แก่

  1. Parfum : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยสูงสุด ทำให้น้ำหอมประเภทนี้มีราคาแพงที่สุด โดยปกติ Parfum มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 15 ถึง 40% ซึ่งทำให้น้ำหอมมีกลิ่นที่ติดทนนานตลอดทั้งวันแม้จะใช้เพียงแค่นิดเดียว
  2. Eau de parfum : เป็นประเภทน้ำหอมที่บางครั้งจะเรียกง่ายๆว่า Parfum แต่สิ่งที่ทำให้ Eau de parfum แตกต่างจากประเภทแรกคือความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหย โดย Eau de parfum มีมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 10 ถึง 20% ดังนั้นจึงเป็นประเภทน้ำหอมที่มีความเข้มข้นที่บางเบาและมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์กับน้ำมากกว่าเมื่อเทียบกับประเภท Parfum น้ำหอมประเภท Eau de parfum มีกลิ่นหอมติดทนนานเป็นเวลา 6 ถึง 8 ชั่วโมง
  3. Eau de Toilette : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 5 ถึง 15% โดยปกติน้ำหอมประเภทนี้จะอยู่ในขวดสเปรย์เนื่องจากมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยค่อนข้างต่ำและมีปริมาณแอลกอฮอล์สูง น้ำหอม Eau de Toilette มีกลิ่นหอมที่ติดทนนานประมาณ 2 ถึง 4 ชั่วโมง นั้นหมายความว่าคุณต้องฉีดน้ำหอมประเภทนี้ในบางจุดระหว่างวัน
  4. Eau de cologne : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีการพัฒนาสูตรไปสู่กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายมากขึ้น แต่คุณยังสามารถพบในน้ำหอมผู้หญิงบางชนิดที่ระบุว่าเป็น Eau de cologne ที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยประมาณ 2 ถึง 5% และมีกลิ่นหอมติดทนนาน 2 ถึง 4 ชั่วโมง โดยน้ำหอมประเภทนี้มักจะถูกวางขายในรูปแบบน้ำหอมแบบสเปรย์หรือน้ำหอมหลังโกนหนวด
  5. Eau de fraiche : เป็นประเภทน้ำหอมที่มีราคาแพงที่สุด แต่มีความเข้มข้นน้อยที่สุด โดยปกติแล้ว eau de fraiche จะมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยระหว่าง 1 ถึง 3% เนื่องจากความเข้มข้นที่บางเบาเป็นพิเศษและมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์สูง จึงมักพบเห็นน้ำหอมประเภทนี้บรรจุอยู่ในขวดสเปรย์และมีกลิ่นหอมติดทนนานประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมที่ละเอียดอ่อน

เคล็ดลับการเลือกน้ำหอม ยังไงให้เข้ากับบุคลิกของคุณ

น้ำหอม เป็นมากกว่าตัวช่วยที่ทำให้คุณมีกลิ่นกายหอม แต่มันยังช่วยบ่งบอกตัวตนความเป็นคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมละมุน หอมสดชื่น หอมสปอร์ต หรือหอมคลาสสิกดูหรูหรา กลิ่นน้ำหอมเหล่านี้ก็ต่างสร้างบุคลิภาพที่แตกต่างกันออกไป โดยน้ำหอมผู้หญิงมีให้เลือกหลากหลายกลิ่น แต่กลิ่นไหนล่ะที่จะเข้ากับบุคลิกของคุณ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการเลือกน้ำหอมมาบอกสาวๆกันค่ะ

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวแบบคลาสสิก

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวแบบคลาสสิกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความเป็นมืออาชีพด้วยเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อคลุมแบบมีกระดุม ผู้เขียนแนะนำให้เลือกน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและความเย้ายวนแบบคลาสสิก อย่างเช่น กลิ่นหอมของมะลิ กุหลาบ ไอริสและลิลลี่ เป็นต้น
ตัวอย่างน้ำหอม : Arpege by Lanvin, Blanche by Byredo, White Diamond โดย Elizabeth Taylor และ Chanel No. 5

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวสบาย ๆ

p>สำหรับสาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวสบาย ๆ ไม่โอ้อวดและไม่จุกจิก ด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและใช้งานได้จริง ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกสดใหม่เป็นธรรมชาติ อย่างกลิ่นหอมของผลไม้ตระกูลซิตรัสและลาเวนเดอร์ นอกจากกลิ่นหอมเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ทำน้ำหอมแล้ว มันยังถูกนำมาใช้ผสมโลชั่นบำรุงผิว
ตัวอย่างน้ำหอม : Aqua Allegoria โดย Guerlain, Gris Clare โดย Serge Lutens, Walk On Air โดย Kate Spade, Chance Chanel Au Fraiche

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นและน่าตื่นเต้น

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นและน่าตื่นเต้น ด้วยการใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสและมีลวดลายที่คมชัด ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่มีในความรู้สึกกล้าหาญและเย้ายวน อย่างเช่น กลิ่น Oriental, กลิ่น Amber, กลิ่น Heavy Florals นอกจากนี้น้ำหอมกลิ่นเหล่านี้มักถูกนำมาใช้ทำน้ำมันอาบน้ำและโลชั่นบำรุงผิวที่มีกลิ่นหอมยาวนาน
ตัวอย่างน้ำหอม : Opium โดย Yves Saint Laurant, Carnal Flower โดย Frederic Malle, Habit Rouge by Guerlain, Flowerbomb Nectar โดย Viktor & Rolf

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่แปลกตาและแตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่สร้างสรรค์แปลกตาและแตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย ผู้เขียนแนะนำให้เลือกใช้น้ำหอมแบบไดนามิกที่กระตุ้นอารมณ์ให้น่าสนใจอย่างน้ำหอมจากตระกูลต่างๆ เช่น สไปซี่ วู้ดดี้ และฟลอรัล กลิ่นน้ำหอมเหล่านี้สามารถจับคู่กับเสื้อผ้าของคุณ เพื่อความพลิดเพลินได้อีกด้วย
ตัวอย่างน้ำหอม : B Balenciaga by Balenciaga, Eau de Lierre by Diptique, Devin by Aramis, Vent Vert by Balmain

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่ดื้อรั้นแหวกแนวและไม่เหมือนใคร

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่ดื้อรั้นและแสดงออกถึงความต้องการที่แหวกแนวและไม่เหมือนใคร ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่โดดเด่นและฉูดฉาด อย่างเช่น กลิ่นวานิลลาและกลิ่นตองก้าบีน ที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับรสชาติอาหาร
ตัวอย่างน้ำหอม : Cuir de Ruisse by Chanel, Lolita Lempicka by Lolita Lempicka, Angel by Thierry Mugler, Coffeeze by JUS

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่อ่อนหวานน่าทะนุถนอม

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานน่าทะนุถนอมด้วยเสื้อผ้าเนื้อนุ่มลายพิมพ์ดอกไม้และเสื้อผ้าที่อวดรูปร่างของผู้หญิง ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมของดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน อ่อนหวาน และโรแมนติกนุ่มนวล อย่างเช่น กลิ่นกุหลาบ, กลิ่นมะลิ, กลิ่นลิลลี่, กลิ่นไลแล็ค และกลิ่นฟลอรัล
ตัวอย่างน้ำหอม : Pleasures by Estee Lauder, Iris Poudre by Frederic Malle, Bluegrass by Elizabeth Arden, Elixir Pour Femme Essence by Roja Parfums

สาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวสวยเก๋และหรูหรา

สำหรับสาวๆที่มีสไตล์การแต่งตัวที่เก๋ไก๋ และหรูหราดูมีความซับซ้อน ด้วยเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ อย่างเช่น ผ้าไหมและผ้าแคชเมียร์ที่ให้ภาพลักษณ์ที่เรียบหรูและดูใส่ใจในรายละเอียดในการดูแลตัวเอง ผู้เขียนแนะนำให้เลือกกลิ่นน้ำหอมที่มีสไตล์ที่โดดเด่น อย่างเช่น กลิ่นมะกรูด, กลิ่นโอ๊คมอส และกลิ่นแพทชูลี่ กลิ่นน้ำหอมเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณดูดีมีเสน่ห์และมีสไตล์ที่เรียบง่าย
ตัวอย่างน้ำหอม : Know by Estee Lauder, French Affair by Ex Nihilo, No.19 by Chanel, Bottega Veneta Knot Aeau Absolue by Bottega Veneta

10 น้ำหอม แบรนด์ดังระดับโลกติดทนนานที่สาวๆไม่ควรพลาด

สาวๆหลายคนมักมีเหงื่อออกหรือต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดกลิ่นกายที่น่ารำคาญระหว่างวัน แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะเรามีตัวช่วยที่สามารถกลบกลิ่นเหล่านี้ได้มาแนะนำ นั่นคือน้ำหอม โดยวันนี้เราก็มี 10 น้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกมาแนะนำทุกคน ซึ่งน้ำหอมที่เรานำมานี้ต่างก็ได้รับการรีวิวน้ำหอมจากสาวๆทั่วโลกว่ามีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและกลิ่นหอมติดทนนานทั้งวัน รับรองว่ากลิ่นหอมของแบรนด์สุดหรูเหล่านี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ

  1. Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum
  2. Philosophy Amazing Grace
  3. Gucci Bloom Eau de Parfum
  4. Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray
  5. Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum
  6. Shanel N°5 Eau De Parfum
  7. Jo Malone English Pear & Freesia
  8. Calvin Klein CK One
  9. Dolce & Gabbana Light Blue EDP
  10. Dior Miss Dior EDP

Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum
บรรจุ : 50 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,000 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมคลาสสิกและติดทนนานเป็นเวลาหลายชั่วโมง, กลิ่นหอมหวานน่ารักแบบฉบับผู้หญิง
สาวๆหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของแบรนด์ Viktor & Rolf มาแล้วบ้าง สำหรับน้ำหอม รุ่น Viktor & Rolf Flowerbomb Eau De Parfum เป็นน้ำหอมที่มาพร้อมกับกลิ่นดอกไม้ Flowerbomb เป็นกลิ่นหอมที่ทรงพลังด้วยการผสมกลิ่นดอกไม้ที่น่าดึงดูดอย่างกุหลาบเซนติโฟเลีย, แซมบัคจัสมิน, กล้วยไม้แคทลียา, ฟรีเซียและออสแมนทัสของอินเดียรวมถึงกลิ่นแพทชูลีและกลิ่นวานิลลาที่เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคนทำให้น้ำหอมโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ จนน้ำหอมรุ่นนี้กลายเป็นสินค้าขายดีอย่างสม่ำเสมอ แถมยังถูกจัดอันดับให้เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก แต่ราคาก็แอบแพงกว่าน้ำหอมผู้หญิงแบรนด์ อื่น ๆอยู่นะคะ
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Philosophy Amazing Grace

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Philosophy Amazing Grace
บรรจุ : 60 ml
ราคาโดยประมาณ : 1,265-1,953 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมที่เรียบง่ายบางเบาและกลิ่นยังคงอยู่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง
Philosophy Amazing Grace เป็นน้ำหอม ประเภท Eau de Parfum จากแบรนด์ Philosophy แบรนด์ความงามเพื่อสุขภาพที่เน้นการผสมผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับแรงบันดาลใจของนักคิดค้น โดยน้ำหอมแบรนด์นี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ผสมผสานกลิ่นดอกไม้และผลไม้เข้าด้วยกันพร้อมกับกลิ่นของมัสค์ ทำให้น้ำหอนรุ่นนี้มีกลิ่นหอมที่เรียบง่ายบางเบาและให้ความรู้สึกสง่างามเหมาะสำหรับใช้ในสำนักงาน แถมกลิ่นยังคงอยู่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Strawberrynet , Cosmeticsnow

Gucci Bloom Eau de Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Gucci Bloom Eau de Parfum
บรรจุ : 50 ml, 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,900-6,400 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมบางเบาไม่ฉุน, กลิ่นสะอาดอ่อนเยาว์และสดชื่น, พกพาง่ายและกลิ่นหอมติดทนนาน 5 ชั่วโมง
Gucci Bloom Eau de Parfum เป็นน้ำหอม จากแบรนด์ดังสุดหรูสัญชาติอิตาลี น้ำหอมรุ่นนี้ได้ผสมผสสารกลิ่นหอมจากดอกไม้และสกัดให้ได้กลิ่นดอกไม้โดยไม่มีกลิ่นหอมหนักมาก กลิ่นสะอาดอ่อนเยาว์และสบายๆ สดชื่น พร้อมกับกลิ่นหอมติดทนนานประมาณ 5 ชั่วโมง เมื่อใช้น้ำหอมรุ่นนี้จะให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในสวนดอกไม้ที่เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งแพ็คเกจที่บรรจุยังพกพาสะดวก
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online , Kingpower

Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray
บรรจุ : 50 ml, 100 ml, 200 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,700 บาท, 6,600 บาท, 10,600 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมหรูหรา, กลิ่นหอมหวาน และกลิ่นไม่แรงเกินไป
Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray เป็นน้ำหอม กลิ่นดอกไม้แบบตะวันออกสำหรับผู้หญิง น้ำหอมรุ่นนี้มีกลิ่นหอมที่ทันสมัยพร้อมทั้งผสมผสานกลิ่นของซิตรัสกับโน้ตดอกไม้สีขาวของดอกมะลิเมืองกลาสส์และอาจมีการเพิ่มกลิ่นของแพทชูลี่และหญ้าแฝก ทำให้น้ำหอม Coco Mademoiselle by Chanel Eau de Parfum Spray มีกลิ่นที่หอมหรูหรามีระดับและให้ความรู้สึกร่ำรวยดูแพงมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกกลุ่มอายุ
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum
บรรจุ : 90 ml
ราคาโดยประมาณ : 5,400 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมที่แข็งแกร่งและเพิ่มความมั่นใจ, กลิ่นหอมติดทนนานหลายชั่วโมง
Yves Saint Laurent Black Opium Eau De Parfum น้ำหอมสำหรับผู้หญิงจากแบรนด์ Yves Saint Laurent เป็นน้ำหอม ที่มีส่วนผสมของกลิ่นกาแฟที่ซับซ้อนพร้อมกับกลิ่นลูกแพร์และพริกไทยสีชมพูรสเผ็ด ซึ่งช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับกลิ่นน้ำหอม และยังผสมผสานกับกลิ่นดอกมะลิและดอกส้ม อีกทั้งเมล็ดกาแฟและกลิ่นวานิลลาที่ผสมลงไปยังทำให้ได้กลิ่นหอมที่แฝงไปด้วยความเป็นผู้หญิง น้ำหอมสูตรนี้ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งและช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Chanel n°5 Eau De Parfum

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Chanel n°5 Eau De Parfum
บรรจุ : 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 6,600 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมคลาสสิกที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์, ขวดบรรจุมีการออกแบบที่เรียบง่ายและปิดผนึกด้วยฟิล์ม Baudruche
Chanel N ° 5 เป็นน้ำหอม ที่มีกลิ่นหอมที่โดดเด่นและได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการน้ำหอมที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิง โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมรุ่นนี้คือมีรสเปรี้ยวเป็นประกายเกือบจะเหมือนแชมเปญ จัดเป็นน้ำหอมที่อยู่ในประเภทกลิ่นดอกไม้ที่ละเอียดอ่อนและนุ่มนวล มีการผสมผสานระหว่างดอกไม้สมัยใหม่กับกลิ่นไม้จันทน์และกลิ่นวานิลลา อีกทั้งยังมีการผสานเข้ากับวัตถุดิบชั้นเลิศ 2 ชนิดอย่าง May Rose และ Jasmine
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Jo Malone English Pear & Freesia

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Jo Malone English Pear & Freesia
บรรจุ : 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,950 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมแบบหวานฉ่ำสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
Jo Malone English Pear & Freesia เป็นน้ำหอม ที่ผสมผสานกลิ่นของผลไม้และดอกไม้ที่เข้ากันอย่างลงตัว โดยน้ำหอมรุ่นนี้จะเน้นไปที่กลิ่นหอมแบบหวานฉ่ำที่สร้างเสน่ห์ให้กับผู้หญิง และกลิ่นหอมแบบหรูหราตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ พร้อมทั้งให้ความรู้สึกสดใสและอ่อนหวานในเวลาเดียวกัน แถมยังทำให้ตัวคุณหอมหวานและสดชื่นตลอดทั้งวัน
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Calvin Klein CK One

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Calvin Klein CK One
บรรจุ : 100 ml
ราคาโดยประมาณ : 2,850 บาท
จุดเด่น : ราคาไม่แพง, กลิ่นหอมสดชื่นทั้งกลิ่นผลไม้และกลิ่นดอกไม้
Calvin Klein CK One เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ให้ความเรียบง่ายอ่อนเยาว์และสดชื่น น้ำหอมรุ่นนี้ได้มีการผสมผสานกลิ่นหอมสดชื่นของชาเขียว มะละกอ และมะกรูดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของลูกจันทน์เทศและดอกกุหลาบ อีกทั้ง CK One ยังผสานกลิ่นมัสก์ดอกไม้เป็นน้ำหอมที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Dolce & Gabbana Light Blue EDP

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Dolce & Gabbana Light Blue EDP
บรรจุ : 50 ml
ราคาโดยประมาณ : 3,060 บาท
จุดเด่น : กลิ่นหอมปลอดโปร่งและบางเบา,ขวดบรรจุมีการออกแบบที่คลาสสิกและน่าหลงใหล
Dolce & Gabbana Light Blue EDP เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่มีสีสันสดใสและมีกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เย้ายวนและให้ความรู้สึกถึงวิถีชีวิตแบบเมดิเตอร์เรเนียน กลิ่นน้ำหอมรุ่นนี้เป็นการผสมผสานของต้นซีดาร์จากซิซิลีกับความสดชื่นของแอปเปิ้ลเขียวและเสน่ห์ของดอกไม้ พร้อมกับกลิ่นของบลูเบลล์ ซึ่งเป็นกลิ่นชั้นนำที่เหมาะกับฤดูร้อน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสดชื่นของกลิ่นต้นไผ่อ่อน กลิ่นช่อดอกมะลิ และกลิ่นดอกกุหลาบสีขาวที่เหมาะกับผู้หญิงสุดๆ นอกจากนี้ขวดที่บรรจุ Dolce & Gabbana Light Blue EDP ยังได้รับการออกแบบที่ได้ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำหอม Dolce & Gabbana แบบคลาสสิกรูปทรง Light Blue ที่มีความทันสมัย น่าหลงใหล และดูมีความมั่นใจในแบบฉบับผู้หญิงแกร่ง
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

Dior Miss Dior EDP

รายละเอียดสินค้า
ชื่อแบรนด์ : Dior Miss Dior EDP
บรรจุ : 50 ml, 100 ml, 150 ml
ราคาโดยประมาณ : 4,700 บาท, 6,600 บาท, 8,100 บาท
จุดเด่น : กลิ่นเหมือน Natalie Portman, ให้ความรู้สึกถึงเสน่ห์อันเย้ายวน
Dior Miss Dior เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Parfum กลิ่นกุหลาบและโรสวู้ดที่ผสมผสานกับความงามของกลิ่นกุหลาบกราสส์และความโดดเด่นของดอกกุหลาบดามัสกัส พร้อมกับความหอมสดชื่นของกลิ่นมะกรูดคาลาเบรียนและกลิ่นโรสวู้ดจากฝรั่งเศส เจือด้วยกลิ่นพริกไทยสีชมพูเพื่อสร้างบุคลิกที่แตกต่างตามแบบฉบับของ Miss Dior เผยให้เห็นถึงเสน่ห์อันเย้ายวนในแบบฉบับหญิงสาว
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Central Online

เคล็ดลับฉีดน้ำหอม ยังไงให้ติดทนนานทั้งวัน

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังประสบปัญหาน้ำหอม จางหายระหว่างวัน วันนี้ผู้เขียนก็มีเคล็ดลับเกี่ยวกับการฉีดน้ำหอมยังไงให้กลิ่นหอมติดทนนานตลอดทั้งวันมาฝากจะมีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ความชุ่มชื้นช่วยทำให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนาน

กลิ่นน้ำหอมจะเกาะติดกับผิวมันหรือมีความชุ่มชื้นได้ดีกว่าผิวแห้ง เพราะผิวที่ชุ่มชื้นจะกักขังกลิ่นหอมไว้ได้ยาวนาน ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งควรเลือกน้ำหอมในรูปแบบครีมหรือใช้โลชั่นที่ไม่มีกลิ่นก่อนแล้วตามด้วยการฉีดสเปรย์ แต่ก่อนที่คุณจะแต่งตัวควรรอสักครู่ก่อนเพื่อให้น้ำหอมแห้งเกาะบนผิว

ใช้น้ำหอมบริเวณจุดชีพจร

การใช้น้ำหอมบริเวณจุดชีพจร เช่น บริเวณข้อมือ หลังใบหูที่ด้านล่างของลำคอ ด้านในของข้อศอกและหลังหัวเข่า จะช่วยทำให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานตลอดทั้งวัน เพราะอุณหภูมิความร้อนในร่างกายจะช่วยกระตุ้นให้น้ำหอมส่งกลิ่นหอมออกมาตลอดทั้งวัน

ห้ามถูน้ำหอมลงบนผิว

บางคนมีความรู้ว่าการ “ถู” น้ำหอมลงบนผิวจะช่วยทำให้ผิวอบอุ่นและกระจายกลิ่นได้ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำแบบนั้นเป็นการการสลายโครงสร้างของน้ำหอมทำให้กลิ่นน้ำหอมจางเร็วขึ้นและทำให้กลิ่นน้ำหอมไม่ติดทนนานในที่สุด

จัดเก็บน้ำหอมไว้ในพื้นที่ที่เหมาะสม

อีกหนึ่งข้อสำคัญที่ไม่ควรพลาดนั้น คือ การเก็บรักษาน้ำหอม คุณควรน้ำหอมให้ห่างจากแสงแดด และไม่ควรเก็บไว้ในห้องน้ำ เนื่องจากความร้อนจากแสงแดดและความชื้นจากห้องน้ำ สามารถสลายสารประกอบในน้ำหอมส่งผลให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมน้องลง และเพื่อน้อยลง ให้กลิ่นหอมยาวนานและไม่เปลี่ยนแปลงควรเก็บขวดน้ำหอมไว้ในที่เย็นห่างจากแสงแดดโดยตรงและความชื้น นอกจากนี้ไม่ควรเขย่าขวดน้ำหอมเพราะจะทำให้อากาศเข้าและคุณภาพน้ำหอมลดลงได้

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคนสำหรับ 10 น้ำหอม แบรนด์ดังระดับโลกที่สาวๆทั่วโลกต่างก็ชื่นชอบ ซึ่งน้ำหอมไม่เพียงแค่เพิ่มกลิ่นหอมให้ตัวเราเท่านั้น แต่น้ำหอมยังช่วยเสริมสร้างเสน่ห์และสร้างความประทับใจให้กับสาวๆ และคนรอบข้างอีกด้วย อีกทั้งน้ำหอมเหล่านี้ยังเป็นน้ำหอมยอดนิยมที่ได้มีการรีวิวมากมายว่ามีกลิ่นหอมติดทนนานตลอดทั้งวัน และคุณสามารถหาซื้อน้ำหอมแบรนด์ดังเหล่านี้ได้ที่หน้าเคาน์เตอร์ขายน้ำหอมของแต่ละแบรนด์และร้านออนไลน์ชั้นนำ ก็ขอบอกเลยนะคะว่าต้องเลือกร้านดีๆ ไม่อย่างนั้นคุณอาจได้น้ำหอมปลอมมาแทนได้นะคะ น้ำหอมที่เราได้นำมาแนะนำทั้ง 10 แบรนด์นี้ยังมีประโยชน์ที่นอกเหนือจากความหอมอีกด้วย อย่างเช่น กลิ่นหอมแต่ละกลิ่นจะบ่งบอกตัวตนของคุณ และบางกลิ่นอาจช่วยบำบัดให้คุณรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ และทำให้สมองปลอดโปร่งสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเสริมความมั่นใจในการทำงานแถมยังมีส่วนช่วยให้คลายความเครียดจากการทำงานอีกด้วยค่ะ

นักเขียน: Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ๆออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Categories
health

ใช้ดีจึงบอกต่อ 10 ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน เพื่อลมหายใจหอมสดชื่น

หากคุณเคยกัดไอศกรีมหรือทานซุปร้อนๆแล้วรู้สึกเจ็บปวดที่เหงือกหรือฟัน นั้นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาโพรงปากที่พบบ่อยในผู้ที่มีอาการเสียวฟัน ซึ่งอาการนี้คือความเจ็บปวดหรือความรู้สึกไม่สบายฟันโดยมีผลมากจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้าบางอย่าง เช่น อุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็น อาการเสียวฟันอาจเป็นปัญหาชั่วคราวหรือเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อฟันซี่เดียว, ฟันหลายซี่หรือฟันทั้งหมดในแต่ละซี่ก็ได้ ซึ่งอาการนี้มีหลากหลายสาเหตุและแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละคน

ผู้ที่มีอาการเสียวฟันจะมีการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นบางอย่างที่อาจส่งผลให้คุณรู้สึกเจ็บปวดบริเวณรากฟัน ซึ่งสิ่งกระตุ้นที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มร้อน, อาหารและเครื่องดื่มเย็น, อากาศเย็น, อาหารหวาน, อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรด, น้ำเย็นโดยเฉพาะการทำความสะอาดฟันด้วยน้ำเย็นเป็นประจำ, การแปรงฟัน, การใช้ไหมขัดฟัน, น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ในกรณีส่วนใหญ่ของอาการเสียวฟันจะได้รับการรักษาได้ที่ง่ายดาย ด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบการดูแลสุขภาพช่องปาก หากคุณมีอาการเสียวฟันที่ไม่รุนแรงคุณสามารถลองการรักษาทางทันตกรรมได้ โดยที่ไม่ต้องรักษาโดยแพทย์ ซึ่งวิธีที่มีความนิยมที่สุดคือการเลือกยาสีฟันที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการเสียวฟันโดยเฉพาะ ยาสีฟันเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจมีส่วนผสมที่ช่วยลดความรู้สึกไม่สบายฟันจากการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นบนเส้นประสาทของฟัน สำหรับใครที่กำลังมีอาการเสียวฟันและกำลังมองหายาสีฟันดีๆใช้ เราก็ได้รวบรวบข้อมูลเกี่ยวกับอาการเสียวฟันและวิธีที่การดูแลรักษา มาพร้อมกับการแนะนำ 10 ยาสีฟันที่ใช้ดี ช่วยลดอาการเสียวฟัน แถมยังช่วยให้ปากสะอาด มีกลิ่นหอมสดชื่นมาฝากทุกคน จะมีสาระสำคัญอะไรบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

อาการเสียวฟันคืออะไร?

อาการเสียวฟัน คือ อาการปวดฟันที่เกิดจากการเสียผิวหน้าฟันหรือชั้นเคลือบฟัน เป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งอาการเสียวฟันเกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นภายนอกของเส้นประสาทฟันที่ไวกว่าปกติ สิ่งกระตุ้นภายนอก อาทิเช่น อาหาร เครื่องดื่มร้อนหรือเย็น รวมไปถึงลม หรือแม้กระทั่งการแปรงฟัน ซึ่งปกติแล้วฟันของเราจะถูกป้องกันจากสิ่งเหล่านี้ด้วยเคลือบฟัน (enamel) และเหงือก เมื่อเคลือบฟันของเราแรกสึก แตกออก หรือเหงือกร้นมากขึ้น จะส่งผลทำให้เนื้อฟัน (dentine) ถูกเปิดออกให้สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นภายนอกทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่ายค่ะ โดยจากการวิจัยพบว่า ผู้คนในร้อยละ 8-57 ประสบปัญหาการเสียวฟันอย่างน้อยครั้งหนึ่งหรือมากกว่า ซึ่งอาการเสียวฟันเป็นอาการที่หลายคนไม่พึงปรารถนา เพราะทำให้เกิดความรําคาญจนยิ้มไม่ออก หรือทำให้การรับประทานอาหารยากลำบากค่ะ

สาเหตุของอาการเสียวฟันคืออะไร?

สำหรับสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการเสียวฟัน หากเกิดในวัยเด็กสาเหตุมาจากฟันผุ ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุนั้น อาการเสียวฟันอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักเกิดจากการที่ชั้นเนื้อฟัน (ที่เคยมีเคลือบฟันอยู่) เปิดออกและได้รับการกระตุ้นจากสิ่งกระตุ้นต่างๆ จากภายนอก เช่น น้ำเย็น อาหารหวาน อาหารเปรี้ยว การแปรงฟัน หรือแม้แต่ลม สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นไปที่โพรงเส้นประสาทฟันจนทำให้เกิดอาการเสียวฟัน ซึ่งอาการนี้เกิดจากการเผยของเนื้อฟันที่เกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่

  • ภาวะเหงือกอักเสบ หรือการแปรงฟันแรงเกินไป ซึ่งอาจมีผลทำให้เหงือกร่นได้ จนเนื้อฟันบริเวณรากฟันโผล่
  • ฟันสึก เนื่องจากรับประทานอาหารรสเปรี้ยวหรือเครื่องดื่มที่เป็นกรด (เช่น โซดา) ซึ่งอาจก่อให้เกิดการกัดกร่อนเคลือบฟันและการเปิดเผยของเนื้อฟัน
  • การแปรงฟันที่ผิดวิธีหรือแรงเกินไปด้วยการขัดถูมากๆ หรือการใช้แปรงสีฟันแข็งเกินไป อาจทำให้เกิดการสูญเสียของสารเคลือบฟัน
  • การเคี้ยวอาหารแข็งเป็นประจำ เช่น การเคี้ยวน้ำแข็ง หรือบางคนอาจเกิดจากภาวะกรดไหลย้อนทำให้ฟันสัมผัสกับกรดและเกิดการสึก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการรู้สึกจี๊ดที่ฟัน
  • ฟันแตก หรือฟันร้าว เนื่องจากอุบัติเหตุ หรือการรับประทานอาหารแข็ง อาจทำให้เกิดการเปิดเผยให้เห็นเนื้อฟัน
  • ฟันผุ เนื่องจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์

ทำไมคุณถึงมีอาการเสียวฟันต่อความเย็น?

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลาฟันของเราโดนความเย็นถึงรู้สึกเสียวฟันจิ๊ดขึ้นมา ซึ่งความเย็นเป็นสิ่งกระตุ้นทำให้เกิดอาการเสียวฟันที่มีสาเหตุมาจากสภาพของฟันที่บอบบางโดยสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่

  • ฟันผุหรือโรคเหงือก : ในช่วงเริ่มต้นของฟันผุหรือโรคเหงือกจะมีการสะสมของคราบจุลินทรีย์บนฟันและเหงือกที่สามารถทำให้ฟันบอบบาง และนำไปสู่ฟันผุและโรคเหงือกถึง 80% ของความไวเริ่มต้นทำให้ฟันของเราต่อความเย็น
  • การแปรงฟันแรงเกินไป หรือแปรงฟันบ่อยเกินไป : ปัจจัยภายนอกที่อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันต่อความเย็น ได้แก่ การแปรงฟันแรงเกินไป การใช้ทรีทเม้นต์ฟอกสีฟันมากเกินไป หรือกรดจากอาหารและเครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ไวน์ กาแฟ และมะเขือเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียเคลือบฟันได้
  • การบดฟันและความเครียด : ฟันที่ไวต่อความเย็น อาจมีสาเหตุที่เกิดขึ้นได้หากการบดฟันมากเกินไป (การนอนกัดฟัน) ทำให้เคลือบฟันสึกกร่อนและทำให้เส้นประสาทถูกสัมผัสได้ง่าย หากคุณกำลังประสบปัญหาการบดฟันควรไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมและสอบถามเกี่ยวกับตัวเลือกในการปกป้องฟันของคุณ
  • รากประสาทสัมผัสความเย็น : สาเหตุทางชีววิทยาที่อยู่เบื้องหลังของอาการเสียวฟัน เริ่มต้นที่เนื้อฟันโดยเส้นประสาทในเนื้อฟันทำให้ฟันไวต่อความเย็น เมื่อรากฟันสัมผัสความเย็นทางท่อเนื้อฟัน โดยภายในอเนื้อฟันจะเต็มไปด้วยของเหลวและเมื่อมีการกระตุ้น เช่น อากาศเย็นหรือของเหลวเย็นที่สัมผัสกับเหลวในท่อจะเคลื่อนที่และกระตุ้นเส้นประสาทฟันให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด
  • รอยแตกในฟัน : รอยแตกเล็ก ๆที่ฟันสามารถพัฒนารอยแตกได้เมื่อฟันของคุณขยายและหดตัวเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิที่ร้อนและเย็น ทำให้รอยแตกเป็นอีกทางหนึ่งไปสู่เส้นประสาทฟันทำให้ฟันไวต่อความเย็น
  • เหงือกร่น : หากฟันของคุณไวต่อความเย็นหรือความร้อนอย่างต่อเนื่อง ให้ลองมองที่ฟันใกล้ ๆ ตรวจดูแนวเหงือกเพื่อดูว่าเหงือกของคุณดึงออกจากฟันหรือไม่ ซึ่งเหงือกร่นสามารถทำให้ความร้อนและเย็นกระตุ้นไปยังเส้นประสาทในฟันได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้การรักษาทางทันตกรรม เช่น การฟอกฟันขาว การทำความสะอาดฟันโดยผู้เชี่ยวชาญทางทันตกรรม การใส่ที่ครอบฟันหรือการอุดฟันแล้วกินน้ำเย็นไม่ได้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟันไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอกอีกด้วยค่ะ

วิธีรักษาอาการเสียวฟันอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เมื่อคุณมีอาการเสียวฟันจากกิจกรรมบางอย่าง เช่น การแปรงฟัน การรับประทานอาหารและการดื่มน้ำที่อาจทำให้เกิดอาการปวดฟันได้ อาการเสียวฟันมักเป็นผลมาจากเคลือบฟันสึกหรือรากฟันสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น อย่างไรก็ตามบางครั้งความรู้สึกจี๊ดที่ฟันอาจเกิดจากหลายปัจจัย และหากคุณรู้สึกหงุดหงิดกับอาการเสียวฟันให้ไปพบทันตแพทย์ โดยวิธีรักษาอาการเสียวฟันที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำมีดังนี้

  • ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน : เป็นผลิตภัณฑ์ลดอาการเสียวฟัน หลังจากใช้งานหลายครั้งยาสีฟันจะช่วยลดความรู้สึกเสียวฟัน และบางยี่ห้อก็สามารถช่วยป้องกันอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับอาการเสียวฟันได้ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีวางจำหน่ายมากมายโดยไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ และหากคุณยังไม่ทราบว่าจะใช้ยาสีฟันยี่ห้อไหน เราแนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ว่าผลิตภัณฑ์ยีห้อใดที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
  • ฟลูออไรด์ : การฟลูออไรด์ในบริเวณที่บอบบางของฟันโดยทันตแพทย์ เพื่อให้
  • เคลือบฟันแข็งแรงและลดอาการเสียวฟัน แต่แนะนำให้ใช้ฟลูออไรด์ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น
  • Desensitizing : ในบางครั้งพื้นผิวรากที่สัมผัสสามารถรักษาได้โดยการใช้เรซินพันธะกับพื้นผิวรากที่บอบบาง แต่อาจจำเป็นต้องใช้ยาชาเฉพาะที่โดยทันตแพทย์
Desensitizing
  • การปลูกถ่ายเหงือก : หากรากฟันของคุณสูญเสียเนื้อเยื่อเหงือกไป การปลูกถ่ายเหงือกโดยการนำเนื้อเยื่อเหงือกจำนวนเล็กน้อยมาจากที่อื่นในปากของคุณและยึดติดกับบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งวิธีนี้สามารถป้องกันรากที่สัมผัสและลดความไวต่อความเย็นได้ดี
  • การรักษารากฟัน : หากอาการเสียวฟันของคุณทำให้เกิดอาการปวดฟันอย่างรุนแรงและการรักษาอื่น ๆ ไม่ได้ผล ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำการรักษารากฟัน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้ในการรักษาปัญหาในแกนอ่อนของฟัน (เนื้อฟัน) แม้ว่าวิธีนี้อาจดูเหมือนเป็นการรักษาที่สำคัญ แต่ก็ถือเป็นเทคนิคที่ประสบความสำเร็จที่สุดในการกำจัดอาการเสียวฟันได้ดีที่สุด

เมื่ออาการเสียวฟันของคุณดีขึ้นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันซ้ำให้แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มกับยาสีฟันลดอาการเสียวฟันผสมฟลูออไรด์ พร้อมกับใช้ไหมขัดฟันทุกวัน แต่ต้องใช้จังหวะที่นุ่มนวลแทนที่จะขัดถูแรง ๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หากคุณบดฟัน (นอนกัดฟัน) ให้ปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันช่องปาก การบดฟัน อาจทำให้ฟันแตกหักและทำให้เกิดอาการเสียวได้ อีกอย่างการเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลม ผลไม้รสเปรี้ยว และไวน์ ซึ่งอาหารประเภทเหล่านี้สามารถขจัดเคลือบฟันได้เมื่อรับประทานเป็นเวลานาน

10 ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน เพื่อสุขภาพฟันที่แข็งแรง

เราทุกคนที่เคยรับมือกับอาการเสียวฟันมาแล้วในช่วงหนึ่งของชีวิต แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะโชคร้ายที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้ สำหรับการกำจัดความเจ็บปวดจากอาการเสียวฟันทำได้ง่ายๆ อย่างการใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดอาการเสียวฟันที่หลายๆคนเลือกใช้ ซึ่งยาสีฟันมีหลากหลายรูปแบบ และไม่ใช่ทุกชนิดจะออกแบบมาเพื่อรับมือกับอาการเสียวฟัน ซึ่งสิ่งสำคัญจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน นั่นคือประสิทธิภาพสำหรับการลดอาการเสียวฟัน และในวันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน พร้อมทั้งดูแลสุขภาพปากและฟันให้แข็งแรง มีกลิ่นหอมสดชื่น มาฝากทุกคนจะยี่ห้อไหนกันบ้างมาดูกันเลยค่ะ

  1. Sensodyne multi care
  2. Colgate sensitive salt minerals
  3. Sensodyne extra whitening
  4. Colgate Sensitive Pro-Relief
  5. Tom’s of Maine Natural Fluoride-Free Natural Rapid Relief Sensitive
  6. Dentiste ‘Nighttime Toothpaste
  7. Hi-Herb Day & Night Care Toothpaste
  8. ยาสีฟันสมุนไพร ภูมิพฤกษา
  9. Colgate Naturals PanjaVed
  10. Himalaya Hiora-K

Sensodyne multi care

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Sensodyne multi care
ปริมาณ: 100-160 g.
ราคาโดยประมาณ: 125-185 บาท
คุณสมบัติ: ลดการเสียวฟัน, ลดการสะสมของคราบพลัค, ป้องกันฟันผุ, ปกป้องเหงือก และลมหายใจหอมสดชื่น

Sensodyne multi care เป็นยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟันสำหรับใช้เป็นประจำทุกวัน โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญอย่าง Potassium nitrate, Sodium fluoride ที่จะแทรกเข้าสู่ท่อเนื้อฟัน เพื่อลดการเสียวฟันที่ตรงจุด อีกทั้งยังมีสารแอนตี้แบคทีเรีย ช่วยลดการสะสมของคราบพลัคที่เป็นสาเหตุหลักของโรคเหงือก และช่วยขจัดคราบ ชา กาแฟ ให้ฟันขาวสะอาด พร้อมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ พร้อมทั้งมีกลิ่นหอมสดชื่น จากรสมินท์ ช่วยลดกลิ่นปาก ลมปากสะอาด ลมหายใจสดชื่น แนะนำให้ใช้แปรงฟันเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Shopee , Watsons

Colgate sensitive salt minerals

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Colgate sensitive salt minerals
ปริมาณ: 120 g.
ราคาโดยประมาณ: 246 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยลดการเสียวฟันได้ยาวนาน, พัฒนาขึ้นเพื่อฟันและเหงือกของผู้ที่มีอาการเสียวฟันโดยเฉพาะ

Colgate sensitive salt minerals เป็นยาสีฟันช่วยลดอาการเสียวฟัน สูตรเกลือที่พัฒนาขึ้นเพื่อฟันและเหงือกของผู้ที่มีอาการเสียวฟันโดยเฉพาะ ซึ่งมีส่วนผสมของโปตัสเซียมไนเตรท และซอลท์ มิเนอรัลส์ เพื่อช่วยทำให้เข้าถึงบริเวณที่เสียวฟัน ช่วยลดอาการเสียวฟันได้ยาวนาน โดยสูตรนี้ถูกพัฒนามาเพื่อฟันและเหงือกของผู้มีปัญหาการเสียวฟัน แถมโปตัสเซียมไนเตรท ที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญยังผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าช่วยลดอาการเสียวฟันบริเวณเนื้อที่ถูกเปิดออกอีกด้วยค่ะ สูตรนี้มีฟองโฟมละเอียดให้สัมผัสนุ่มนวลต่อเหงือก และอย่าลืมแปรงฟันเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นด้วยนะคะ
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Shopee

Sensodyne extra whitening

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Sensodyne extra whitening
ปริมาณ: 113 g.
ราคาโดยประมาณ: 430 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยทำให้ฟันขาว, ป้องกันการสะสมของหินปูน, ช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่น, ป้องกันฟันผุ, ลดความไวและการป้องกันความไวที่ยาวนาน

Sensodyne extra whitening เป็นยาสีฟันช่วยลดอาการเสียวฟันที่เหมาะสำหรับฟันที่บอบบาง สูตรปราศจากโซเดียมลอริลซัลเฟต เป็นยาสีฟันที่ทันตแพทย์สำหรับการเสริมสร้างและปกป้องเคลือบฟันที่ได้มาตรฐานการผลิตจากอเมริกา มีฟลูออไรด์ที่เหมาะสม เสริมความแข็งแรงของฟัน ช่วยต่อสู้กับฟันผุ ช่วยขจัดคราบสกปรก เพื่อช่วยให้ฟันกลับคืนสู่ความขาวตามธรรมชาติ ช่วยปกป้องฟันตลอดทั้งวัน และช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่น ที่สำคัญมีส่วนช่วยเสริมสร้างชั้นที่ผ่อนคลายรอบ ๆ เส้นประสาทให้การปกป้องและบรรเทาความไวเพื่อบรรเทาอาการเสียวฟันตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada

Colgate Sensitive Pro-Relief

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Colgate Sensitive Pro-Relief
ปริมาณ: 110 g.
ราคาโดยประมาณ: 83 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยป้องกันฟันผุ, ช่วยลดคราบพลัค, ทำให้ลมหายใจสดชื่น, ช่วยทำให้สุขภาพเหงือกดีขึ้น

Colgate Sensitive Pro-Relief เป็นยาสีฟันที่มีนวัตกรรมเพื่อช่องปากจากคอลเกต สูตร Pro-Argin®พิเศษ ช่วยลดอาการเสียวฟันได้อย่างรวดเร็วและสร้างเสริมเกราะป้องกันที่ยาวนาน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนผนึก อีกทั้งยังช่วยขจัดคราบบนผิวฟันอย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ พร้อมทำให้ฟันขาวอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยป้องกันฟันผุ ช่วยลดคราบพลัค ทำให้ลมหายใจสดชื่น แถมยังช่วยทำให้สุขภาพเหงือกดีขึ้น
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Shopee

Tom’s of Maine Natural Fluoride-Free Natural Rapid Relief Sensitive

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Tom’s of Maine Natural Fluoride-Free Natural Rapid Relief Sensitive
ปริมาณ: 113 g.
ราคาโดยประมาณ: 379 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยป้องกันฟันผุ บรรเทาอาการเสียวฟันอย่างรวดเร็วและป้องกันยาวนาน

Natural Fluoride-Free Natural Rapid Relief Sensitive เป็นยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟันของแบรนด์ Tom’s of Maine ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรธรรมชาติที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ ด้วยการใช้ส่วนผสมอันทรงพลังอย่างอาร์จินีนและแคลเซียมคาร์บอเนตจากแหล่งธรรมชาติ ที่ช่วยปิดผนึกช่องทางไปยังเส้นประสาทที่บอบบางของฟัน เพื่อช่วยบรรเทาอาการเสียวฟัน โดยได้รับการจดสิทธิบัตรและได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากการเสียวฟันได้ใน 60 วินาที และปกป้องฟันที่บอบบางของคุณอย่างยาวนานด้วยการใช้อย่างต่อเนื่อง สูตรนี้ปราศจากฟลูออไรด์ ไม่มีรสสีหรือสารกันบูดเทียม ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ และไม่ได้ทำการทดสอบกับสัตว์ หลังจากใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันจะช่วยทำให้อาการเสียวฟันลดน้อยลง และช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นเพื่อให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มได้ทุกวัน
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada

Dentiste ‘Nighttime Toothpaste

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Dentiste ‘Nighttime Toothpaste
ปริมาณ: 100 g.
ราคาโดยประมาณ: 185 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยดูแลทุกปัญหาเหงือกและฟันแบบครบสูตร, ลดคราบพลัค เศษอาหาร ป้องกันฟันผุ และช่วยทำให้ลมหายใจสะอาด หอมสดชื่นทั้งวัน

Dentiste ‘Nighttime Toothpaste เป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ 14 ชนิดรวมถึงน้ำยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ และสารต้านแบคทีเรียที่ช่วยป้องกันแบคทีเรียในช่องปาก ลดกลิ่นปาก และรักษาโรคเหงือกอันเป็นสาเหตุของอาการเสียวฟัน โดยยาสีฟันนี้เป็นสูตรปราศจากฟลูออไรด์ ช่วยทำให้ผู้ใช้มีลมหายใจสดชื่น พร้อมกับดูแลความสะอาดของช่องปากอย่างเหนือชั้น เป็นยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวเป็นประกายใน 2 สัปดาห์ ด้วยเทคโนโลยีไฮดรอกซี่อะพาไทด์ หรือ เทคโนโลยี HAP ซึ่ง HAP เป็นสารที่มีโครงสร้างละเอียดและมีขนาดเล็กมาก ทำให้สามารถเข้าไปเติมเต็มเนื้อฟัน ที่อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน ตลอดจนช่วยขจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากเนื้อฟัน จึงทำให้ฟันมีสุขภาพแข็งแรงและขาวเป็นประกาย
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Shopee

Hi-Herb Day & Night Care Toothpaste

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Hi-Herb Day & Night Care Toothpaste
ปริมาณ: 120 g.
ราคาโดยประมาณ: 79 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยดูแลช่องปากตลอดวัน, ช่วยลดการสะสมของ Biofilm, ให้ความชุ่มชื้นในช่องปาก, ดูแลสุขภาพเหงือก, ช่วยระงับกลิ่นปาก, ช่วยลดการก่อตัวของคราบพลัค, ปกป้องปัญหาสุขภาพเหงือก

Hi-Herb Day & Night Care Toothpaste เป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมช่วยลดสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการเสียวฟัน ด้วยนวัตกรรมจากสมุนไพร ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพ ที่ช่วยดูแลและป้องกันช่องปากตลอดทั้งวัน ด้วยส่วนผสมจาก Herb Guard Green Tea Extract สารสกัดจากใบชาเขียวที่ช่วยลดการสะสมของ Biofilm อันเป็นสาเหตุของฟันผุ, Licorice Extract สารสกัดจากชะเอมเทศmที่ให้ความชุ่มชื้นในช่องปาก พร้อมดูแลสุขภาพเหงือกด้วย Clove oil ที่อุดมไปด้วยสารยูจีนอล ช่วยระงับกลิ่นปาก อีกทั้งยังมี Guava Extract สารสกัดจากใบฝรั่งที่ช่วยลดการก่อตัวของคราบพลัค และ Phellodendron Bark Extract ช่วยปกป้องปัญหาสุขภาพเหงือกที่อาจก่อให้เกิดสาเหตุของอาการเสียวฟัน
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Shopee

ยาสีฟันสมุนไพร ภูมิพฤกษา

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: ยาสีฟันสมุนไพร ภูมิพฤกษา
ปริมาณ: 50 g.
ราคาโดยประมาณ: 79 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยลดอาการเสียวฟัน, ช่วยลดอาการเหงือกอักเสบ, รักษาสุขภาพเหงือก ฟัน หรือช่องปาก, ช่วยลดกลิ่นปาก, ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย, ลดปัญหาคราบเหลืองจากชาและกาแฟ

ยาสีฟันสมุนไพร ภูมิพฤกษา เป็นยาสีฟันสมุนไพรที่ใช้นวัตกรรมใหม่เฉพาะทางที่สามารถดูแลช่องปาก ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดกลิ่นปาก ลดอาการเสียวฟันลดอาการเหงือกอักเสบ รักษาสุขภาพเหงือก, ฟัน หรือช่องปากได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ในระหว่างนอนหลับและระหว่างวันของมื้ออาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคในช่องปาก แถมยังทำให้กลิ่นปากหอม ลมหายใจหอมสดชื่นด้วยรสมิ้นท์ ลดคราบหินปูน, คราบบุหรี่, ชาและกาแฟ ด้วยเหตุนี้ยาสีฟันสมุนไพร ภูมิพฤกษา จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในช่องปาก, ผู้ที่มีแผลร้อนใน หรือแผลอักเสบในช่องปากเป็นประจำ, ผู้ที่มีปัญหาคราบเหลือง และผู้ที่มีเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Shopee

Colgate Naturals PanjaVed

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Colgate Naturals PanjaVed
ปริมาณ: 100 g.
ราคาโดยประมาณ: 99 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก, ช่วยฟื้นฟูเหงือกและฟันให้มีสุขภาพดี, ป้องกันฟันผุ, ทำความสะอาดช่วยลดคราบ, – ลดกลิ่นปากลมหายใจหอมสดชื่น

Colgate Naturals PanjaVed เป็นอีกหนึ่งยาสีฟันที่มีส่วนผสมช่วยลดสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการเสียวฟัน สูตรนี้มีส่วนประกอบของสารสกัดจากสมุนไพรทั้ง 5 ชนิด นั่นคือ กานพลู สะเดา น้ำผึ้ง มะขามป้อม และโหระพา โดยสมุนไพรเหล่านี้ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยฟื้นฟูเหงือกและฟันให้มีสุขภาพดี และช่วยลดอาการฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยาสีฟันหลอดนี้ยังมีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรต และฟลูออไรด์ที่ช่วยเสริมสร้างให้ฟันแข็งแรง และลดอาการเสียวฟันให้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Shopee

Himalaya Hiora-K

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า: Himalaya Hiora-K
ปริมาณ: 50 g.
ราคาโดยประมาณ: 99 บาท
คุณสมบัติ: ช่วยลดอาการเสียวฟัน และเหงื่อร่น, กำจัดแบคทีเรียภายในช่องปาก

Himalaya Hiora-K เป็นยาสีฟันสูตรออร์แกนิกที่ช่วยลดอาการเสียวฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่าง ผักโขม ที่ช่วยยับยั้งการส่งผ่านความเจ็บปวดจากฟันไปสู่เส้นประสาท อีกทั้งยังสร้างชั้นป้องกันให้แก่เนื้อฟันได้ และสารสกัดจากกานพลู ช่วยกำจัดแบคทีเรียภายในช่องปาก ที่สำคัญสูตรนี้มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรตจากธรรมชาติจากเกลือ Suryakshara ที่มีสรรพคุณช่วยออกฤทธิ์ลดอาการเสียวฟันและเลือดออกตามไรฟันได้ และส่วนผสมของยาสมานแผลตามธรรมชาติที่ช่วยกระชับเหงือกและป้องกันไม่ให้ฟันหลุดออก ช่วยให้เหงือกกระชับพอดีกับฟันและป้องกันการสึกกร่อนของเคลือบฟันซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียวฟัน ยาสีฟัน HiOra-K เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันผุ, มีอาการเสียวฟัน, เหงือกร่น เราแนะนำให้แปรงวันละสองครั้งจนกว่าอาการจะบรรเทานะคะ
สามารถหาซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟัน

หากคุณดื่มเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นแล้วรู้สึกว่ามันทำให้ฟันของคุณเจ็บ นั่นอาจเป็นสัญญาณแจ้งว่าคุณกำลังมีอาการเสียวฟัน และควรพบกับทันตแพทย์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจทำให้คุณมีอาการเสียวฟัน วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันมีมากมาย และบางครั้งสิ่งอื่น ๆ ก็ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ เช่น อาหารรสเปรี้ยว หวาน หรือแม้กระทั่งอากาศเย็น ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันมีดังนี้

  • การดูแลเคลือบฟันของคุณ :
    เคลือบฟันคือชั้นป้องกันที่แข็งแรงและช่วยทำให้ฟันของคุณจัดการกับทุกสิ่งที่คุณใส่เข้าไปในปาก เมื่อมันหายไปจะทำให้เกิดความเจ็บปวดจากปลายประสาทฟันของคุณ ซึ่งหากคุณมีอาการเสียวฟันอาจเป็นไปได้ว่าเคลือบฟันของคุณบางส่วนหลุดออกไปค่ะ
  • วิธีป้องกันอาการเสียวฟันจากการรับประทานอาหาร :
    หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรด เช่น โซดา, คาร์โบไฮเดรตที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมเหนียว ถือว่าทั้งหมดนี้ทำร้ายเคลือบฟัน แนะนำให้ทานของว่างอย่าง ผักและผลไม้ที่อุดมด้วยไฟเบอร์, ชีส, นม และโยเกิร์ตธรรมดา สิ่งเหล่านี้จะทำให้ช่องปากของคุณชุ่มชื่นและช่วยต่อสู้กับกรดและแบคทีเรียที่สามารถกัดกินฟันของคุณได้ นอกจากน้ำลายก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จัดการกับพวกมันได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งคุณยังสามารถดื่มชาเขียวและชาดำ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่ไม่มีน้ำตาล เพื่อต่อสู้กับกรดและแบคทีเรียได้ และถ้าคุณกินของที่เป็นกรดอย่าเพิ่งรีบแปรงฟันนะคะ ให้รอประมาณ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นก่อนค่ะ
    • อย่าแปรงฟันแรงเกินไป :
      การแปรงฟันด้วยมือที่หนักเกินไป อาจจะถอดคราบจุลินทรีย์ออกมากกว่าการแปรงจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งตามแนวเหงือก ซึ่งการกระทำแบบนี้สามารถทำให้เคลือบฟันของคุณหลุดออกไปได้เร็วขึ้น แนะนำให้คุณควรใช้แปรงขนนุ่มและทำมุม 45 องศา พร้อมกับการหมั่นหมากฝรั่ง เพื่อให้เคลือบฟันสะอาดและแข็งแรงมากขึ้น
    • หลีกเลี่ยงการบดฟันและความเครียด :
      เมื่อเวลาผ่านไปการบดฟันจะทำให้เคลือบฟันของคุณหลุดออกไปได้ และบางครั้งการจัดการกับความเครียดของคุณสามารถหยุดปัญหาอาการเสียวฟันได้ หากไม่ได้ผลทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้คุณใส่เฝือกหรืออุปกรณ์ป้องกันช่องปาก และหากปัญหารุนแรงคุณอาจต้องทำฟันเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งฟันค่ะ

    บทส่งท้าย

    สำหรับ 10 ยาสีฟันลดอาการเสียวฟันที่เรานำมาแนะนำนี้จะช่วยกำจัดอาการเสียวฟันของคุณ อีกทั้งยาสีฟันเหล่านี้ยังมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพปากและฟัน ทำให้ฟันสะอาดและมีกลิ่นปากที่หอมสดชื่นอีกด้วยค่ะ และเพื่อไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันคุณควรดูแลเคลือบฟันให้ดี เพราะมันคือชั้นป้องกันฟันที่แข็งแรงและช่วยให้ฟันจัดการกับทุกสิ่งที่คุณใส่เข้าไปในปาก หากเคลือบฟันหายไปจะทำให้เนื้อฟันเปิดเผยส่งผลให้สิ่งกระตุ้นภายนอกเข้าไปโดนกับเส้นประสาทฟันทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดบริเวณรากฟัน หรือรู้สึกจี๊ดที่ฟัน และเพื่อไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันซ้ำซากเราแนะนำให้แปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม พร้อมกับยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน อีกทั้งอย่าลืมนำเคล็ดลับการดูแลและป้องกันฟันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันไปใช้กันนะคะ รับรองเลยว่าปัญหาเกี่ยวกับการเสียวฟันจะหมดไปแน่นอนค่ะ

    นักเขียน: Suwanna Preebunpul

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ๆออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Categories
beauty

แชร์ให้โลกรู้ 10 แผ่นมาส์กหน้า ตัวช่วยกู้หน้าหมองคล้ำให้สดใส

ในปัจจุบันผิวหน้าของเราต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม อากาศ มลพิษ และสารก่อพิษจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปโดยไม่ตั้งใจในแต่ละวัน ซึ่งภัยคุกคามเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้ผิวหน้าของเราหมองคล้ำ อีกทั้งสมัยนี้วิถีชีวิตของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ทั้งหน้าที่การงาน รวมถึงค่าครองชีพด้วยเช่นเดียวกัน บางคนต้องทำงานตลอดเวลาหรือพักผ่อนน้อย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลให้ผิวหน้าของคุณอ่อนล้าไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน หลายคนหาวิธีการดูแลรักษาผิวหน้ามากมายโดยวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดอีกหนึ่งวิธีที่สาวๆหลายคนไม่ควรพลาด นั่นคือการมาส์กหน้า โดยการมาส์กหน้าถึงเป็นรากฐานของกิจวัตรการดูแลผิวที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ว่าผิวหน้าของคุณจะเหนื่อยล้าหรือผิวขาดน้ำแค่ไหนการมาส์กหน้าก็สามารถช่วยฟื้นฟูและคืนความเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 แผ่นมาส์กหน้าที่ช่วยกู้หน้าหมองคล้ำให้กลับมาสดใสอีกครั้ง พร้อมทั้งเคล็ดลับการเลือกมาส์กหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของคุณ และวิธีการใช้แผ่นมาส์กหน้าอย่างถูกต้องมาฝากทุกคน จะเป็นอย่างไรบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

การมาส์กหน้าคืออะไร?

มาส์กหน้า

การมาส์กหน้า คือการใช้ผลิตภัณฑ์หรือส่วนผสมมาทาหรือเคลือบผิวด้วยสารบำรุงผิวที่เข้มข้น ซึ่งถือเป็นส่วนส่งเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับขั้นตอนการดูแลผิวหน้า เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และช่วยบำรุงผิวหน้า อีกทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื่น ช่วยทำให้ผิวหน้าผ่อนคลาย ซึ่งผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าเป็นตัวช่วยให้ผิวหน้าของคุณได้พักผ่อนและฟื้นฟูบำรุงผิวหน้าจากอาการอ่อนล้า ขาดการบำรุงและผิวที่ต้องเผชิญมลพิษจากสภาพแวดล้อมเป็นประจำทุกวัน ดังนั้นคนที่รักผิวหน้าจึงนิยมมาส์กหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ค่ะ ซึ่งเราสามารถมาส์กหน้าทุกวันได้ แต่มาส์กที่ใช้ต้องเป็นมาส์กเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเท่านั้น อย่าใช้มาส์กที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวอื่นๆ เช่น ลดจุดด่างดำ หรือเพิ่มความกระจ่างใส เพราะสารบำรุงเหล่านั้นอาจจะทำให้ผิวหน้าของคุณบอบบางได้ค่ะ

การมาส์กหน้ามีกี่แบบแล้วมีอะไรบ้าง? และแบบไหนเหมาะกับสภาพผิวหน้าของคุณ

ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวหน้าแบบไหน คุณก็ต้องบำรุงผิวหน้าเพื่อทำให้เซลล์ผิวเหล่านั้นสมบูรณ์มากขึ้นโชคดีที่มีมาส์กหน้าสำหรับทุกสภาพผิวที่สามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวหน้าจากอาการอ่อนล้าได้ค่ะ แต่มาส์กหน้าแบบไหนล่ะที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของคุณ? ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมรูปแบบมาส์กหน้าที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิวมาแล้วค่ะ

1. มาส์กหน้าแบบครีม (Cream Masks)

มาส์กหน้าแบบครีม (Cream Masks)

มาส์กหน้าแบบครีม เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง ซึ่งมาส์กครีมนี้อุดมไปด้วยน้ำมันและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ซึมลึกและเติมเต็มเซลล์ผิวที่แห้ง เป็นมาส์กที่มีกรดไฮยาลูโรนิกที่มีประโยชน์ช่วยในการดึงดูดและเติมความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิวที่แห้ง ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนกระชับและเต่งตึง

2. มาส์กหน้าแบบโคลน (Clay Masks)

มาส์กหน้าแบบโคลน (Clay Masks)

มาส์กหน้าแบบโคลน เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน มาส์กโคลนนี้มีส่วนช่วยบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นซึ่งช่วยล้างสารพิษจากผิวตามธรรมชาติ โดยปราศจากส่วนผสมอย่างน้ำมันถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวธรรมดาและผิวมันมากๆเลยค่ะ มาส์กโคลนมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ผิวอวบอิ่มตามธรรมชาติ และในขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้ผิวกระชับและที่สำคัญช่วยดีท็อกซ์ผิวหน้าลดสิว หากคุณมีอาการผิวหน้าอักเสบเป็นสิวให้มองหามาส์กโคลนที่มีเอนไซม์หรือกำมะถันที่ให้ความกระจ่างใส เพื่อรักษาสิวและบรรเทารอยแดงจากสิว

3. มาส์กหน้าแบบเจล (Gel Masks)

มาส์กหน้าแบบเจล (Gel Masks)

มาส์กหน้าแบบเจล เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวบอบบาง มาส์กเจลจะให้ความรู้สึกผ่อนคลายด้วยความเย็นจากมาส์กเจลจึงเหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นก่อนการกระชับและการขับสารพิษ มาส์กเจลมักมีส่วนผสมของคอลลาเจนและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว มักมีลักษณะข้นใส เน้นในเรื่องการขจัดเซลล์ผิวเก่าทำให้ความหมองคล้ำบนใบหน้าลดลง ส่วนใหญ่มาส์กชนิดนี้เมื่อทาลงไปแล้วจะติดเป็นฟิล์มบางๆ เมื่อครบเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำก็สามารถลอกออกได้ มีบางชนิดที่สามารถทาทิ้งไว้แล้วตลอดทั้งคืนได้เลย และใช้ได้กับทุกสภาพผิว

4. มาส์กหน้าแบบแผ่น (Sheet Masks)

มาส์กหน้าแบบแผ่น (Sheet Masks)

มาส์กหน้าแบบแผ่น มีลักษณะมาส์กเป็นแผ่นรูปใบหน้าที่ผสมอยู่กับครีมเข้มข้นเพื่อการบำรุงผิวบรรจุในซองพร้อมใช้ โดยปิดแยกกันแผ่นต่อแผ่น เป็นแผ่นมาส์กที่เหมาะกับทุกสภาพผิวตามสูตรที่มี แต่ก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวที่ทนต่อการใช้งานเมื่อจับคู่กับเซรั่ม เมื่อใช้เสร็จให้ดึงเอามาส์กออกแล้วทิ้ง มาส์กแผ่นจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและดึงผิวให้ตึงเรียบขึ้น ช่วยลอกเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออก

5. มาส์กหน้าเอนไซม์

มาส์กหน้าเอนไซม์

มาส์กหน้าเอนไซม์ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว อย่างไรก็ตามหากคุณมีผิวบอบบางให้ลองใช้มาส์กเอนไซม์ มาส์กชนิดนี้เป็นมาส์กขัดผิวที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกและล้างสิ่งสกปรกที่ฝังลึกในรูขุมขนโดยใช้กรดไฮดรอกซี (เช่น กรดไกลโคลิกและกรดแลคติก) และเอนไซม์จากผลไม้ (โดยทั่วไปมาจากมะละกอและสับปะรด) นอกเหนือจากการขัดผิวอย่างอ่อนโยนแล้ว มาสก์ชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติในการปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งจะทำให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดีเปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกที่คุณจะเห็นได้เกือบจะในทันทีหลังใช้ ถึงแม้ว่าบางชนิดจะมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว แต่อย่าใช้มาส์กนี้เกินสัปดาห์ละครั้งนะคะ เพราะมาสก์ชนิดนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการทำให้ผิวแห้ง ดังนั้นอย่าลืมเติมความชื้นให้ผิวในภายหลังด้วยนะคะ

10 แผ่นมาส์กหน้า กู้หน้าหมองคล้ำให้หน้าใส

สำหรับใครกำลังสงสัยว่ามาร์คหน้ายี่ห้อไหนดีที่สุด? ในเรื่องการช่วยบำรุงผิวหน้าที่หมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้ง วันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 แผ่นมาส์กหน้าได้รับการยอมรับว่าสามารถช่วยฟื้นฟูผิวหน้าที่อ่อนล้าและหมองคล้ำให้กลับมาขาวกระจ่างใสดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ส่วนจะมีแผ่นมาส์กหน้ายี่ห้อไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ

  1. Leaves Natural Aloe Essence Mask Sheet
  2. Rojukiss White Poreless Hydrogel Mineral Mask 7
  3. Tatcha Luminous Dewy Skin Mask
  4. Pixi Glow Glycolic Boost
  5. Garnier Skin Natural Serum Mask Hydra Bomb Purifying
  6. Mamonde Rose Moisturizing Flower Lab Essence Mask
  7. SK-II Facial Treatment Mask
  8. Tonymoly I’m Real Avocado Sheet Mask
  9. Garnier Serum Mask Light Complete
  10. Leaders Clinic Regeneration Mask With Snail Extract

Leaves Natural Aloe Essence Mask Sheet

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Leaves Natural Aloe Essence Mask Sheet
ปริมาณ 25 ml/1pcs
ราคาโดยประมาณ 49 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว Aloe Essence, Sodium Hyaluronate, Glutamic Acid
จุดเด่น ผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยฟื้นฟูให้ผิวกลับมาเนียนนุ่ม เต่งตึง และผิวดูกระจ่างใสสุขภาพดี ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้

Leaves Natural Aloe Essence Mask Sheet เป็นแผ่นมาส์กหน้าจากประเทศเกาหลีเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย เพราะปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ถึง 5 ชนิด คือ ไม่มีแอลกอฮอล์, ไม่มีพาราเบน, ไม่มีซิลิโคน, ไม่มีมิเนอรัล ออย, ไม่แต่งสี มาส์กอุดมไปด้วย Aloe Essence ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน ให้กลับมาเนียนนุ่ม เต่งตึง และทำให้ผิวดูกระจ่างใสสุขภาพดีอีกครั้ง แผ่นมาร์กผลิตจากเส้นใย Rayon100% มาส์กมีกลิ่นหอม ซึมง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Konvy

Rojukiss White Poreless Hydrogel Mineral Mask 7

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Rojukiss White Poreless Hydrogel Mineral Mask 7
ปริมาณ 25 ml/1pcs
ราคาโดยประมาณ 79 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว แร่ธาตุบำรุงผิว 7 ชนิด, Jeju Lotus
จุดเด่น แผ่นมาสก์ไฮโดรเจล รักษาผิวหมองคล้ำ และลดจุดด่างดำแก้ยาก ผิวเนียนกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ

Rojukiss White Poreless Hydrogel Mineral Mask 7 เป็นมาส์กหน้าแผ่นมาสก์ไฮโดรเจลที่อุดมไปด้วยอุดมแร่ธาตุบำรุงผิว 7 ชนิด คือ Ferrous ช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้กับผิวหน้า, Copper ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้า, Sodium ช่วยสร้างเกาะป้องกันผิวหน้า, Magnesium ช่วยเรื่องผิวหน้ากระชับ, Zinc ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า, Calcium เข้าไปช่วยบำรุงผิวหน้า, Manganese ช่วยปลอบประโลมผิวหน้า พร้อมผสมผสานพลัง Jeju Lotus จากประเทศเกาหลีที่ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนรอยดำ และทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น เผยให้เห็นผิวดูสุขภาพดี
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Konvy Shopee

Tatcha Luminous Dewy Skin Mask

Tatcha Luminous Dewy Skin Mask

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Tatcha Luminous Dewy Skin Mask
ปริมาณ 20 ml/1pcs
ราคาโดยประมาณ 480 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว น้ำมันพฤกษศาสตร์จากชาเขียว ข้าว และสาหร่าย
จุดเด่น ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นดูสดใสสุขภาพดี ทั้งยังมีส่วนช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย

Tatcha Luminous Dewy Skin Mask เป็นมาส์กหน้าแผ่นไมโครไฟเบอร์ละเอียดอ่อนพิเศษที่บางกว่าเส้นผม มาพร้อมกับน้ำมันพฤกษศาสตร์ที่จำเป็นจากชาเขียว ข้าว และสาหร่าย ซึ่งเป็นสูตรลับตำรับความงามฉบับสาวญี่ปุ่น โดยน้ำมันพฤกษศาสตร์เหล่านี้ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส เผยผิวโกลว์ฉ่ำวาวตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Sephora , Shopee

Pixi Glow Glycolic Boost

Pixi Glow Glycolic Boost

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Pixi Glow Glycolic Boost
ปริมาณ 23 g/1pcs
ราคาโดยประมาณ 400 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว Serum concentrate of glycolic acid, Herbal extract, Ginseng, Witch Hazel and cucumber
จุดเด่น ช่วยทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งมากขึ้นและทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดี เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวรู้สึกเย็นสบาย เผยผิวกระจ่างใส

Pixi Glow Glycolic Boost เป็นแผ่นมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมคล้ายคลึงกับ Pixi Glow Tonic โทนเนอร์แบรนด์ดังที่สาวๆทั่วโลกต่างชื่นชอบ ด้วยส่วนผสมอย่าง Serum concentrate of glycolic acid เซรั่มกรดไกลโคลิกที่เข้มข้นช่วยเพิ่มความสว่างให้กับผิว ช่วยให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น, Herbal extract ช่วยฟื้นฟุผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น, Ginseng ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแบบล้ำลึก ทำให้ผิวเรียบเนียน และยังช่วยปรับสีผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น, Witch Hazel and cucumber ช่วยลดการระคายเคือง ถือได้ว่าเป็นแผ่นมาส์กหน้าที่อ่อนโยนสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ใช้ได้
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Sephora , Shopee

Garnier Skin Natural Serum Mask Hydra Bomb Purifying

Garnier Skin Natural Serum Mask Hydra Bomb Purifying

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Garnier Skin Natural Serum Mask Hydra Bomb Purifying
ปริมาณ 32 g/1pcs
ราคาโดยประมาณ 69 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว ไฮยาลูรอนิค แอซิด, สารสกัดจากชาเขียว
จุดเด่น เป็นเซรั่มมาส์ก ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวสุขภาพดี เปล่งปลั่ง สดชื่นเสมือนการทำดีท็อกซ์ผิวหน้า เหมาะสำหรับผิวมัน บอบบาง และขาดสมดุล

Garnier Skin Natural Serum Mask Hydra Bomb Purifyingเป็นแผ่นมาส์กหน้าเซรั่ม สูตรดีท็อกซ์ผิว อุดมไปด้วยคุณค่าไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่สามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ถึง 1,000 เท่า พร้อมกับผสานคุณค่าสารสกัดจากชาเขียว ทำให้ผิวสุขภาพดี เปล่งปลั่ง สดชื่นราวกับว่าคุณได้ทำการดีท็อกซ์ผิวหน้า เพื่อผิวสะอาด รูขุมขนดูกระชับและเนียนนุ่ม ช่วยดึงสิ่งสกปรกตกค้างจากรูขุมขนเพื่อผิวสะอาดอย่างล้ำลึก อีกทั้งยังช่วยฟื้นบำรุงผิวดั่งทรีทเม้นท์เข้มข้น คืนความสมดุลให้แก่ผิวหน้า หลังจากใช้เพียงแค่ 15 นาที โดยตัวแผ่นเซรั่มมาส์กถูกออกแบบพิเศษเพื่อให้กระชับรับโครงหน้าคนเอเชียโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผิวมันและผิวที่บอบบาง ขาดสมดุล
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Watsons , Shopee , Lazada

Mamonde Rose Moisturizing Flower Lab Essence Mask

Mamonde Rose Moisturizing Flower Lab Essence Mask

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Mamonde Rose Moisturizing Flower Lab Essence Mask
ปริมาณ 25 ml/1pcs
ราคาโดยประมาณ 80 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว Hyaluronic acid, Glycerin, น้ำกุหลาบ
จุดเด่น ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระชับรูขุมขน ช่วยลดความหมองค้ำบนใบหน้า ช่วยฟื้นหู

Mamonde Rose Moisturizing Flower Lab Essence Mask เป็นแผ่นมาส์กหน้าจาก Mamonde ที่ได้รับรางวัล Best of Beauty สำหรับแผ่นมาสก์ให้ความชุ่มชื้นในปี 2019 เป็นมาส์กสูตรดอกกุหลาบ อุดมไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิกและกลีเซอรีนที่อยู่ในทรีตเมนต์ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งขาดน้ำ พร้อมกับการผสมผสานคุณค่าการบำรุงของเอสเซนส์เนื้อเซรั่มจากดอกกุหลาบ ทำให้มีกลิ่นหอมรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความหมองค้ำบนใบหน้า และยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนกระจ่างใส กระชับรูขุมขน สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย เนื้อเอสเซ้นส์ไม่หนักหน้า ซึมเข้าผิวได้ดี ให้ความรู้สึกเย็นสบาย
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Shopee , Lazada

SK-II Facial Treatment Mask

SK-II Facial Treatment Mask

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ SK-II Facial Treatment Mask
ปริมาณ 30 ml/1pcs
ราคาโดยประมาณ 330 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว Pitera มากกว่า 90%
จุดเด่น ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง นุ่มนวล และกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด

SK-II Facial Treatment Mask เป็นแผ่นมาส์กหน้าจากแบรนด์ SK-II ของประเทศญี่ปุ่น เป็นมาสก์แผ่นสูตรทรีทเมนต์เข้มข้นที่มีส่วนประกอบของ Pitera มากกว่า 90% โดย SK-II ค้นพบในโรงกลั่นเหล้าสาเกในยุค 70 ซึ่งของเหลวนี้เต็มไปด้วยอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน และกรดอินทรีย์ที่ช่วยเสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวหน้าได้อย่างเต็มที่ และช่วยในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวตามวงจรธรรมชาติ ทำให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ที่สำคัญยังช่วยคืนความชุ่มชื่นสู่ผิวอย่างล้ำลึก พร้อมกับปรับสมดุลค่า PH ของผิว ตัวมาส์กถูกออกแบบมาเพื่อปรับแต่งพื้นผิวและจัดการกับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ลดความแห้งกร้าน รูขุมขนกระชับและลดความมัน แนะนำให้ใช้มาส์กสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Shopee , Lazada , Konvy

Tonymoly I’m Real Avocado Sheet Mask

Tonymoly I’m Real Avocado Sheet Mask

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Tonymoly I’m Real Avocado Sheet Mask
ปริมาณ 21 ml/1pcs
ราคาโดยประมาณ 29 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว สารสกัดจากอะโวคาโด
จุดเด่น เติมสารอาหารที่จำเป็นให้ผิว ช่วยทำให้ผิวหมองคล่ำ แลดูกระจ่างใส, ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย พร้อมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลง มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

Tonymoly I’m Real Avocado Sheet Mask เป็นแผ่นมาส์กหน้าด้วยสารสกัดจากอะโวคาโด ช่วยให้ผิวหมองคล่ำแลดูกระจ่างใส เติมสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย พร้อมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลง มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แผ่นมาส์กมีกลิ่นหอม แต่ให้ความรู้สึกค่อนข้างละเอียดอ่อน หลังจากทิ้งไว้ 20 นาทีให้ความรู้สึกผิวหน้านุ่มขึ้นและดูสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหมองคล้ำแห้งกร้านและมีอาการเครียด
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Shopee

Garnier Serum Mask Light Complete

Garnier Serum Mask Light Complete

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Garnier Serum Mask Light Complete
ปริมาณ 32 g/1pcs
ราคาโดยประมาณ 69 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว สารสกัดบริสุทธิ์จากมะนาว วิตามินซี และไฮยาลูรอนิค แอซิด
จุดเด่น ช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำให้กับมาขาวสว่างสดใสได้ทันทีหลังใช้ ผิวดูเรียบเนียนและช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า

Garnier Serum Mask Light Complete เป็นแผ่นเซรั่มมาส์กหน้าสูตรเข้มข้น อุดมด้วยคุณค่าไฮยาลูนิค แอซิด ที่สามารถเก็บกักความชุมชื่นได้ถึง 1000 เท่า พร้อมกับการผสมผสานพลังจากสารสกัดบริสุทธิ์จากมะนาว และพลังวิตามินซี ช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวดูเปล่งประกาย กระจ่างใส สีผิวดูสม่ำเสมอ แผ่นมาส์กถูกออกแบบพิเศษเพื่อให้กระชับรับโครงหน้าคนเอเชียโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ ขาดความชุ่มชื่น
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Shopee , Lazada , Watsons

Leaders Clinic Regeneration Mask With Snail Extract

Leaders Clinic Regeneration Mask With Snail Extract

รายละเอียดสินค้า

ชื่อยี่ห้อ Leaders Clinic Regeneration Mask With Snail Extract
ปริมาณ 25 ml/1pcs
ราคาโดยประมาณ 69 บาท
ส่วนผสมของสารบำรุงผิว สารสกัดจากเมือกหอยทาก
จุดเด่น ช่วยลดริ้วรอยและรอยดำจากสิวก็ดูจางลง, ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว, เพิ่มความขาวกระจ่างใส, ปราศจากพาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำแร่ และน้ำหอม

Leaders Clinic Regeneration Mask With Snail Extract เป็นแผ่นมาส์กหน้ายอดฮิตจากประเทศเกาหลี มีการพัฒนาและคิดค้นโดยแพทย์เกาหลี เพื่อดูแลปัญหาผิวมีริ้วรอย รอยดำจากสิว อุดมไปด้วยสารสกัดจากเมือกหอยทากที่ช่วยบำรุงผิวให้ริ้วรอยดูลดลง ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว รอยดำจากสิวดูจางลง ฟื้นบำรุงให้ผิวสวยกระจ่างใสและเรียบเนียน แบบผิวสุขภาพดี ที่สำคัญแผ่นมาส์กหน้าตัวนี้ยังปราศจากพาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำแร่ และน้ำหอม ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้
สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Lazada , Konvy , Watsons

วิธีการใช้แผ่นมาส์กหน้าอย่างถูกต้อง

วิธีการใช้แผ่นมาส์กหน้าอย่างถูกต้อง

หลังจากที่เราได้แนะนำแผ่นมาส์กหน้าแล้ว เราก็มีวิธีใช้แผ่นมาส์กหน้าอย่างถูกต้องมาแนะนำทุกคน เราเชื่อว่ายังมีบางคนที่ใช้แผ่นมาส์กหน้าในทางที่ผิดกันอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วการใช้แผ่นมาส์กหน้าเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือคุณควรล้างหน้าก่อนเริ่มวางแผ่นมาส์กลงบนใบหน้า เพราะการล้างหน้าก่อนมาส์กจะทำให้ส่วนผสมในแผ่นมาส์กซึมเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด และควรมาส์กหน้าสัปดาห์ละครั้งหรือ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ขั้นตอนการมาส์กหน้าแบบแผ่น

  1. หลังจากที่เราล้างหน้าให้สะอาดเรียบร้อยแล้วให้นำแผ่นมาส์กออกจากบรรจุภัณฑ์ แล้วคลี่ออกโดยไม่ฉีกขาด
  2. จัดแผ่นมาส์กให้เข้ากับรูปหน้า ตา จมูก และปาก
  3. ค่อยๆ กดแผ่นมาส์กให้เข้ากับรูปหน้าจนติดกับผิวหน้า
  4. แผ่นมาส์กหน้าส่วนใหญ่มักมีข้อความที่ซองบรรจุภัณฑ์ว่าควรมาส์กหน้าทิ้งไว้ไม่เกิน 20 นาที หากคุณมาส์กนานเกินไปมันจะเริ่มแห้งและทำให้ผิวของคุณแห้งได้
  5. เมื่อครบ 20 นาทีแล้วให้ค่อยๆลอกแผ่นมาส์กออกจากใบหน้า ไม่จำเป็นต้องล้างออก จากนั้นคุณบำรุงผิวหน้าของคุณตามปกติได้เลยค่ะ

บทส่งท้าย

แผ่นมาส์กหน้า

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะทุกคนสำหรับ 10 แผ่นมาส์กหน้า กู้หน้าหมองคล้ำให้หน้าใสที่เรานำมาฝาก ขอบอกเลยว่าแต่ละสูตรได้รับความนิยมจากสาวๆอย่างมาก ไม่เพียงแค่แผ่นมาส์กหน้าทั้งเท่านั้นนะคะเคล็ดลับการเลือกมาส์กหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของคุณ และวิธีการใช้แผ่นมาส์กหน้าอย่างถูกต้องที่เรานำมาฝากก็ล้วนมีประโยชน์ต่อผิวหน้าของคุณมากเลยล่ะค่ะ อีกทั้งการมาส์กหน้ายังถือเป็นขั้นตอนการดูแลรักษาและบำรุงผิวที่พิเศษสุดๆ เพราะส่วนผสมจากมาส์กล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อผิวหน้าของคุณทั้งเสริมประสิทธิภาพของการดูแลผิวให้ดียิ่งขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วนให้ดูกระจ่างใสเปล่งปลั่ง ผิวมีสุขภาพที่ดี แถมยังรวดเร็วใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่ก็อย่าลืมใช้แผ่นมาส์กหน้าให้ถูกวิธีตามที่เราแนะนำด้วยนะคะ เพื่อการดูแลรักษาและบำรุงผิวหน้าที่ดีที่สุดค่ะ

นักเขียน:

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ๆออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Categories
beauty

How to “วิธีเขียนคิ้ว” สวย ไม่ปลิง ไม่หนา เข้ากับรูปหน้า

สาวๆ คงเคยได้ยินประโยคที่ว่าคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า องค์ประกอบที่สำคัญและเห็นได้ชัดเจนบนใบหน้าที่จะต้องตั้งใจในการเมคอัพสุดฤทธิ์ วันนี้เราจะมาบอกวิธีเขียนคิ้ว ทริคที่จะทำให้คิ้วสวยงาม เข้ากับรูปหน้า และที่สำคัญจะต้องไม่เป็นปลิง หลายคนมีใบหน้าโครงหน้าที่สวยงาม แต่เลือกวิธีการใช้บล็อกคิ้วที่เป็นแผ่นพลาสติก ซึ่งตัวบล็อกคิ้วถมคิ้วดังกล่าวนั้นอาจจะไม่ได้เหมาะสมกับใบหน้าทุกคนเสมอไป ดังนั้นวันนี้เราจะมาเริ่มเรียนรู้วิธีเขียนคิ้วไปพร้อมกันค่ะ

วิธีเขียนคิ้วสำหรับสาวๆที่มีใบหน้ารูปไข่

ใบหน้ารูปไข่

ถือว่าใบหน้าลักษณะกลมมนใบหน้ารูปไข่นั้น เป็นใบหน้าที่กำลังพอดี สัดส่วนของใบหน้าในช่วงระหว่างหน้าผากจรดปลายคางนั้นไม่ยาวหรือสั้น วิธีเขียนคิ้วควรเขียนด้วยความยาวที่พอดี ความยาวและโค้งมนของคิ้วในลักษณะที่พอเหมาะ คิ้วควรจะเขียนให้ตรงไปจนถึงกลางตาแล้วจึงเขียนให้โค้ง โก้งขึ้นเล็กน้อย

วิธีเขียนคิ้วสำหรับสาวๆที่มีใบหน้ายาว

ใบหน้ายาว

ผู้หญิงที่มีใบหน้ายาว คือลักษณะของใบหน้าที่มีความยาวตั้งแต่ช่วงของหน้าผากจรดปลายคางค่อนข้างยาว และช่วงกว้างใบหน้าค่อนข้างน้อย ใบหน้าไม่มีมุม ช่วงของหน้าผาก แก้ม และคางมีความยาวเท่าๆ กัน ทริควิธีเขียนคิ้วที่จะทำให้ใบหน้าดูสั้นเล็กลงคือ การเขียนคิ้วตรงแบบเทรนการเขียนอย่างสาวเกาหลี โดยวาดฐานของคิ้วให้มีลักษณะทำมุมของเพียงเล็กน้อย ช่วยให้ใบหน้ามีมิติ และจะต้องระวังไม่เขียนเส้นยาวจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูยาว ช่วงของหางคิ้วควรจะเขียนให้เรียวและเล็ก

วิธีเขียนคิ้วสำหรับสาวๆที่มีใบหน้าเหลี่ยม

ใบหน้าเหลี่ยม

สำหรับผู้หญิงที่มีใบหน้าเหลี่ยม คือลักษณะของคนที่มีใบหน้าได้มุม ช่วงของหน้าผากและกรามมีความยาวเท่าๆ กัน และส่วนนูนสูงของ หน้าผาก โหนกแก้ม สันกรามจะ พอๆ กัน องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้มองเห็นโครงหน้าที่ชัดจนเกินไป วิธีเขียนคิ้วที่ดี จะช่วยให้ใบหน้ามีความสมดุลมากยิ่งขึ้น โดยทริคก็คือจะต้องเขียนคิ้วให้มีลักษณะโก้งโค้งขึ้นเล็กน้อย แล้วจึงเพิ่มความมน ความโค้งในส่วนของหางคิ้ว และหางจะต้องไม่หนาจนเกินไป เพื่อให้พอดีกับสันกราม และที่ควรเลี่ยงเลยคือการเขียนคิ้วให้เห็นเหลี่ยมชัดเพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยมและให้ลุคที่ดูดุ

ทริควิธีเขียนคิ้วเสริมความสวยงามเพิ่มเติม

เทคนิควิธีเขียนคิ้วที่ดี สามารถใช้ได้กับคนทุกโครงหน้า ทุกรูปหน้า คือ เลี่ยงการเขียนคิ้วที่หางคิ้วยาวมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ดูอ่อนล้า อ่อนแรง หางคิ้วที่ดีควรจะเขียนให้สัมพันธ์กับหัวคิ้ว หางไม่ตก อาจใช้แปรงในการทาบวัดเช็คว่ามีความขนานกันหรือไม่ ไม่ควรลงน้ำหนักสีเข้มในส่วนโค้งของคิ้ว ไม่ถมคิ้วหนาเท่ากันทั้งคิ้ว เพราะจะทำให้คิ้วดูเป็นปลิง ไม่ธรรมชาติ หน้าจะดูดุ ในการเริ่มต้นเขียนคิ้วนั้นควรร่างเส้นคมเข้มไว้ช่วงของหางคิ้ว หัวคิ้วเป็นเส้นบาง แล้วจึงใช้แปรงในการเบลนด์ ช่วยให้คิ้วดูบาง และใช้แปรงเพื่อปัดให้ขนคิ้วเรียงสวย ปัจจุบันมีมาสคาร่าคิ้ว ช่วยเสริมให้สาวคิ้วบางดูมีขนคิ้วมากขึ้น อีกเทคนิคสำหรับคนที่ชอบเขียนคิ้วตรง ตามเทรนเกาหลีที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน ควรจะเขียนให้มีช่วงโก้งโค้งเล็กน้อย ด้วยทริคเทคนิคทั้งหมดนี้ เชื่อว่าถ้าหากสาวๆ ฝึกฝนฝีมือทำตามจะสามารถช่วยเสริมความสวยงามในการเมคอัพคิ้วได้อย่างแน่นอนค่ะ

Categories
fashions

เลือก ต่างหู chanel แบบใดให้เข้ากับใบหน้า

Chanel นั้นเป็นแบรนด์แฟชั่นดัง เป็นตำนาน ระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยชื่อเสียงของแบนด์ที่โด่งดังกระจายไปทั่วทั้งโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการการันตรีคุณภาพสินค้าภายในค่าย Chanel ได้เป็นอย่างดี ต่างหู Chanel เป็นอีกหนึ่ง accessory ที่ได้รับความสนใจ ในการซื้อขาย หลายคนก็ซื้อใช้เอง และด้วยมูลค่าของสินค้าที่มีราคาหลายคนก็นิยมซื้อเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกต่างหูในแบนด์ Chanel ให้เข้ากับใบหน้า เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสวมงาม เหมาะสมกับลุค ไม่ว่าคุณกำลังจะซื้อให้ใคร หรือซื้อใส่เองมาศึกษาทริคไปพร้อมกันค่ะ

ต่างหู Chanel สำหรับสาวที่มีใบหน้ายาว

ด้วยลักษณะของโครงหน้าที่มีใบหน้าแคบ หรือใบหน้ายาว นั้น ต่างหู Chanel ที่เหมาะสมกับลุค ควรเลือกลักษณะทรงกลม ทรงเหลี่ยม รูปพัด หรือแบบที่เป็นแป้นติดหู เพราะต่างหูลักษณะดังกล่าวนี้จะช่วยให้ใบหน้าแลดูกว้าง มีมิติขึ้น และแบบที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ลักษณะของต่างหูที่เป็นหยดน้ำ หรือต่างหูที่มีความระย้า เพราะจะยิ่งเน้นให้ใบหน้าดูยาว

ต่างหู Chanel สำหรับสาวที่มีใบหน้ากลม

สำหรับสาวๆ ที่มีโครงหน้า ใบหน้ากลม หากจะเลือกต่างหู Chanelที่ทำให้ใบหน้าดูยาวขึ้น ควรเลือกต่างหูที่มีลักษณะเป็นรูปหยดน้ำ รูปวงรี สี่เหลี่ยมผืนผ้า และหากอยากให้ช่วงคอดูโปร่ง ในคนที่มีช่วงคอค่อนข้างสั้น ควรเลือกต่างหูห้อยระย้า ในแบบที่ควรหลีกเลี่ยง คือแบบทรงกลม ต่างหูที่มีขนาดเล็ก เพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูกลมยิ่งขึ้น

ต่างหู Chanel สำหรับสาวที่มีใบหน้าทรงเหลี่ยม

คนที่ใบหน้าที่มีโครงหน้าค่อนข้างชัดเจน ต่างหู Chanelแบบที่จะช่วยพรางตาลดความเหลี่ยมของใบหน้านั้น ควรเลือกแบบที่มีลักษณะเป็นทรงกลม หรือรูปไข่ ทรงรี และแน่นอนว่าแบบที่ไม่ควรใส่คือแบบเหลี่ยม ที่จะเสริมเน้นให้ใบหน้าทรงเหลี่ยมดูชัดยิ่งขึ้น

สำหรับสาวที่มีใบหน้ารูปหัวใจ

คนที่มีใบหน้าช่วงหน้าผากคล้ายหัวใจ และช่วงคางแคบ ต่างหู Chanel ในแบบที่ควรสวมใส่นั้น ควรเลือกแบบต่างหูที่ช่วยเพิ่มความกว้างของใบหน้าส่วนล่าง ได้แก่ แบบต่างหูที่เป็นรูปสามเหลี่ยมแนวตั้ง หรือต่างหูรูปหยดน้ำ จึงจะเข้ากับใบหน้ารูปหัวใจ แบบที่ควรหลีกเลี่ยงคือ รูปแบบต่างหูชนิดที่ช่วงบนกว้างกว่าช่วงล่าง ซึ่งคล้ายกับลักษณะของใบหน้า ทั้งนี้สาเหตุเพราะจะยิ่งไปเน้นให้มองเห็นช่วงหน้าผากกว้างที่ชัดมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าแม้แต่การเลือกต่างหู ก็มีรายละเอียดที่แตกต่าง มีจุดที่น่าสนใจหลากหลาย หากลองเอาไปปรับใช้กับการเลือกซื้อรับรองว่าจะทำให้คุณได้ต่างหูที่เข้ากับลุค และทำให้ดูดี สวมใส่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น