Categories
beauty fashions health lucky item

10 อันดับยี่ห้อยาย้อมผมที่ถูกและดี สีสวยติดทนนาน ฉบับประจำปี 2022

แนะนำ 10 อันดับยี่ห้อยาย้อมผมที่ถูกและดี สีสวยติดทนนาน ฉบับประจำปี 2022

คุณรู้หรือไม่? การย้อมผมด้วยยาย้อมผมสีอ่อน ๆ สามารถปรับเปลี่ยนโครงหน้าของคุณได้ ซึ่งปกติแล้วคนไทยจะมีพื้นผิวของสีผมเป็นสีดำที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ดูมีความเงางาม แต่บางครั้งก็ให้ความรู้สึกมืดมน จนอาจจะทำให้ใบหน้าของคุณดูหมองลงได้ แต่หากคุณเปลี่ยนสีผมเป็นสีอ่อนก็อาจปรับเปลี่ยนโครงหน้าให้ดูมีมิติและเพิ่มความอ่อนโยนให้กับแววตาของคุณอีกด้วย 

นอกจากนี้การย้อมผมยังสามารถบ่งบอกถึงลุคของคุณได้ง่าย ๆ และแสดงให้เห็นถึงรสนิยมของคุณได้อย่างชัดเจน ทำให้คนอื่น ๆ เข้าใจถึงตัวตนของคุณได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างจุดสนใจหรือจุดดึงดูดให้แก่คุณทั้งในกลุ่มหรือในการทำงานได้เป็นอย่างดี แถมบางครั้งสีผมที่กำลังติดเทรนด์ยังสามารถช่วยให้คุณได้รับการยอมรับจากสังคมมากยิ่งขึ้น

การย้อมผมมีหลากหลายแบบ เช่น การทำสีไฮไลท์ การทำสีโลว์ไลท์ การย้อมแค่ปลายผม การย้อมผมแบบไล่สี เป็นต้น ซึ่งวิธีการย้อมผมของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์สีผมด้วยตัวเองได้อย่างไม่มีขีดจำกัด อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการย้อมผมก็คือยาย้อมผม  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่ประกอบไปด้วยสารเคมีสำหรับกัดสีผม และบางยี่ห้อจะประกอบไปด้วยสมุนไพร เพื่อป้องกันผมเสีย 

โดยทั่วไปยาย้อมผมจะมีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาในรูปแบบของยาย้อมผมแบบครีม ยาย้อมผมแบบโฟมและยาย้อมผมแบบสระ ทำให้คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัด และไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมได้ กล่าวมาถึงตรงนี้หลายคนคงกำลังสงสัยใช่ไหมคะว่ายาย้อมผมมีกี่ประเภท? และยาย้อมผมที่ใช้แล้วดีมีอะไรบ้าง? 

เมื่อปีที่แล้วเราก็ได้พูดถึง 10 ยาย้อมผม ตัวท็อปที่สีติดทนนานฉบับประจำปี 2021 มาแล้ว สำหรับปีนี้เราก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับแนะนำ 10 อันดับยี่ห้อยาย้อมผมที่ถูกและดี สีสวยติดทนนาน ฉบับประจำปี 2022 ใครที่กำลังจะตัดสินใจย้อมสีผมต้องไม่พลาด นอกจากนี้เรายังมีข้อมูลเกี่ยวกับการทำสีผมและวิธีการดูแลผมหลังย้อมสีมาฝากทุกคน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ประเภทของยาย้อมผมมีอะไรบ้าง?

เราเชื่อว่าคนที่ต้องการทำสีผมคงกำลังสับสนเกี่ยวกับประเภทของยาย้อมผม ซึ่งส่วนใหญ่ยาย้อมผมในท้องตลาดมักจะมาในรูปแบบของยาย้อมผมแบบครีม ยาย้อมผมแบบโฟม และยาย้อมผมแบบสระ ซึ่งโดยทั่วไปรูปแบบยาย้อมผมเหล่านี้จะมีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ 

  1. ยาย้อมผมถาวร 
  2. ยาย้อมผมกึ่งถาวรแบบสังเคราะห์
  3. ยาย้อมผมกึ่งถาวรแบบธรรมชาติ  หรือยาย้อมผมสมุนไพร
  4. ยาย้อมผมชั่วคราว 

ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายคนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวสีของยาย้อมผม บางคนเดินเข้าไปในร้านค้า เพื่อซื้อยาย้อมผมสีที่ถูกใจ แต่จบลงด้วยผลลัพธ์ของสีผมที่ไม่ต้องการ ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนประกอบของยาย้อมผมจึงมีความสำคัญต่อผลลัพธ์ของสีผมที่คุณต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ยาย้อมผมแต่ละประเภทจะมีส่วนผสมของสารเคมีที่เรียกว่า P-PHENYLENEDIAMINE (PPD) เป็นส่วนผสมที่มีความสามารถทำให้เส้นผมและสียึดติดกันได้ดี 

ยาย้อมผมถาวร

หากคุณอยากได้สีผมที่ติดทนนาน แนะนำให้เลือกใช้ยาย้อมผมประเภทถาวร เนื่องจากยาย้อมผมถาวรสามารถทำให้สีย้อมผมยึดติดกับเส้นผมของคุณได้อย่างยาวนาน ถึงแม้คุณจะสระผมสีย้อมผมก็จะไม่หลุดออกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยาย้อมผมถาวรยังมีประสิทธิภาพสูงสุดในการช่วยปกปิดผมขาว แต่บางครั้งเฉดสีเข้มนี้อาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติหรือเข้มเกินไป แต่หากใช้กับสีผมธรรมชาติยาย้อมผมประเภทนี้ก็จะทำให้สีผมมีเฉดสีอ่อนกว่าสีผมธรรมชาติ เนื่องจากเส้นผมถูกฟอกด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำให้เกิดสีผมใหม่เข้ามาแทนที่สีผมเดิมของคุณ

อย่างไรก็ตามถึงแม้ยาย้อมผมถาวรจะติดทนนานและไม่สามารถล้างออกได้ แต่ถ้าหากเส้นผมของคุณเจริญเติบโตขึ้นใหม่แนะนำให้ย้อมสีผมใหม่อีกครั้งหลังจากทำสีผมแล้วทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ นอกจากนี้สารเคมี PPD ที่เป็นสารตั้งต้นของยาย้อมผมยังมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้ ดังนั้นสิ่งสำคัญก่อนย้อมสีผมก็คือต้องทำการทดสอบก่อนที่จะใช้ โดยลองใช้ยาย้อมผมบนบริเวณข้อแขน จากนั้นสังเกตดูของปฏิกิริยา เช่น แดง แสบร้อน คัน หรือรู้สึกไม่สบายอื่น ๆ หากไม่มีปฏิกิริยาดังกล่าวใน 48 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้ยาย้อมผมประเภทถาวรได้อย่างปลอดภัย

ยาย้อมผมกึ่งถาวรแบบสังเคราะห์

หากคุณต้องการยาย้อมผมที่มีสารเคมีน้อยกว่ายาย้อมผมถาวร แนะนำให้เลือกใช้ยาย้อมผมกึ่งถาวร เนื่องจากยาย้อมผมประเภทนี้ไม่มีแอมโมเนีย และมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า2% เมื่อเทียบกับ 6% ในยาย้อมผมถาวร ซึ่งหลักการทำงานของสีย้อมผมกึ่งถาวรจะซึมเข้าสู่ไปเปลือกผม 

ยาย้อมผมกึ่งถาวรจะไม่สามารถฟอกสีผมของคุณเหมือนยาย้อมผมถาวรได้ เนื่องจากมันมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในปริมาณน้อย นั่นหมายความว่ายาย้อมผมกึ่งถาวรจะไม่สามารถทำให้สีผมที่มีอยู่แล้วสว่างขึ้นได้ ซึ่งคุณสามารถเลือกเฉดสีที่คล้ายกันหรือสีเข้มกว่าสีผมปัจจุบันของคุณเท่านั้น และยาย้อมผมประเภทสามารถล้างออกได้ด้วยการใช้แชมพู 12-28 ครั้ง

หากคุณมีผมหงอกไม่เกิน 50% และต้องการสีผมที่ใกล้เคียงกับสีผมธรรมชาติ คุณสามารถใช้สีย้อมผมกึ่งถาวรได้ แต่สีผมที่ได้อาจจะไม่สม่ำเสมอเหมือนกับสีผมถาวร นอกจากนี้ยาย้อมผมกึ่งถาวรยังอ่อนโยนกว่าการย้อมผมแบบถาวร เนื่องจากมันไม่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผมและระคายเคืองต่อหนังศีรษะน้อยกว่าแบบถาวร ทำให้คนที่มีผมเสียและเปราะบางสามารถใช้ยาย้อมผมประเภทกึ่งถาวร เพื่อปกปิดผมหงอกได้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ยาย้อมผมกึ่งถาวรจะอ่อนโยนกว่าการย้อมผมแบบถาวร แต่มันก็มีส่วนผสมของ PPD เล็กน้อย ดังนั้นก็ใช้ยาย้อมผมประเภทนี้ให้ลองทำการทดสอบแบบยาย้อมผมถาวรเสียก่อน

ยาย้อมผมกึ่งถาวรแบบธรรมชาติ

หากคุณต้องการยาย้อมผมที่มีความอ่อนโยนทางเคมี แนะนำยาย้อมผมจากธรรมชาติ หรือยาย้อมผมสมุนไพร เนื่องจากยาย้อมผมประเภทนี้ไม่มีสารเคมี PPD จึงมักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และเหมาะกับคนที่มีผมที่บอบบางและผมเสีย แต่ยาย้อมผมธรรมชาติมักจะมีผลลัพธ์ที่จำกัด เพราะสีย้อมผมสามารถล้างออกได้ด้วยแชมพู 4-8 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ยาย้อมผมประเภทกึ่งถาวรแบบธรรมชาติสามารถทำให้สีผมธรรมชาติของคุณเข้มขึ้นเท่านั้น และไม่สามารถทำให้สีผมของคุณอ่อนลงได้

ยาย้อมผมชั่วคราว

โดยทั่วไปยาย้อมผมประเภทชั่วคราวจะประกอบไปด้วยสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงทำให้สีย้อมผมไม่ทะลุเข้าสู่ปล้องเส้นผม ในทางกลับกันสีย้อมผมจะติดอยู่ที่นอกแกนผม ดังนั้นยาย้อมผมชั่วคราวจึงสามารถล้างออกง่ายด้วยการใช้แชมพู 1 ครั้ง แต่หากเส้นผมมีรูพรุนสูงและมีแนวโน้มที่จะแห้งเสีย ถึงแม้จะใช้ยาย้อมผมชั่วคราวก็อาจจะซึมลึกลงไปในเส้นผมได้อีกนาน นอกจากนี้ยาย้อมผมชั่วคราวยังสามารถทำให้สีผมเดิมของคุณสว่างขึ้น และเพื่อเพิ่มสีสันให้แก่คุณ ยาย้อมผมประเภทนี้จึงมีเฉดสีที่สดใสมากมาย เช่น น้ำเงิน ชมพู ม่วง เขียว ทอง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้คนจะนิยมใช้ยาย้อมผมชั่วคราวเพื่อทำไฮไลท์ 

การเลือกสียาย้อมผมให้เหมาะกับโทนสีผิวของคุณ

ก่อนที่คุณจะไปพบกับการเลือกสียาย้อมผมให้เหมาะกับโทนสีผิวของคุณ คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าคุณมีโทนสีผิวเป็นอย่างไร? โดยการสังเกตดูที่เส้นเลือดด้านในข้อมือของคุณ หากเส้นเลือดของคุณดูเป็นสีน้ำเงินแสดงว่าคุณมีโทนสีผิวเย็น แต่ถ้าหากเส้นเลือดของคุณดูเป็นสีเขียว แสดงว่าคุณมีโทนสีผิวอบอุ่น หากคุณเห็นทั้งสีเขียวและสีน้ำเงินในปริมาณที่เท่ากัน แสดงว่าคุณมีโทนสีผิวเป็นกลาง 

การเลือกสีย้อมผมสวย ๆ ให้เหมาะกับคุณนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญบางประการอย่างสีผิวของคุณ ซึ่งโทนสีผิวถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณรู้ว่าสีผมนี้ใช่สำหรับคุณหรือไม่? โดยการเลือกสีผมให้เข้ากับโทนสีผิวของคุณ ดังนี้

  • สีผมที่เหมาะสำหรับคนโทนสีผิวอบอุ่นและปานกลาง: สีบลอนด์ช็อคโกแลต, สีบลอนด์ทอง, สีบลอนด์ทองแดง, สีบลอนด์น้ำผึ้ง, สีสตรอว์เบอร์รีบลอนด์, สีพีชบลอนด์ และสีบลอนด์คาราเมล
  • สีผมที่เหมาะสำหรับคนโทนสีผิวอบอุ่นที่มีผิวสีเข้ม: สีน้ำตาลทอง, สีน้ำตาลช็อกโกแลต, ผมสีทองแดงเข้ม, สีบลอนด์ทอง และสีน้ำตาลเกาลัด
  • สีผมที่เหมาะสำหรับคนโทนสีผิวโทนเย็น: สีบลอนด์เข้ม, สีบลอนด์กลาง, สีบลอนด์หม่น, สีบลอนด์เบจอ่อน, สีบลอนด์อ่อนมาก และสีบลอนด์อ่อนพิเศษประกายหม่น 
  • สีผมที่เหมาะสำหรับคนโทนสีผิวโทนเย็นที่มีผิวสีเข้ม: สีน้ำตาลเข้ม, สีบลอนด์เข้ม และสีดำธรรมชาติ

10 อันดับยี่ห้อยาย้อมผมที่ถูกและดี สีสวยติดทนนาน ฉบับประจำปี 2022 

สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนสีผม หรือกำลังมองหายาย้อมผมที่ถูกและดี แถมสีสวยเด่นชัดและสีติดทนนาน ต้องไม่พลาดกับ 10 อันดับยี่ห้อยาย้อมผมประจำปี 2022 ที่เราได้รวบรวมนำมาไว้ในบทความนี้ คุณเคยสงสัยไหมว่ายาย้อมผมของอะไรดี? ซึ่งหลังจากที่เราได้ทำการสำรวจรีวิวยาย้อมผมของผู้บริโภคในโลกโซเชียลก็พบว่ายาย้อมผมที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อจะมีข้อดีและข้อเสียแต่ต่างกันไป ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 อันดับยาย้อมยาที่ขึ้นชื่อเรื่องสีผมสวยและสีติดทนนานที่สุด แถมราคาไม่แพงมาแนะนำทุกคน อย่ารอช้ามาดูกันเลยค่ะว่าจะมียี่ห้อไหนบ้าง?

  1. L’OREAL PARIS EXCELLENCE FASHION
  2. REVLON COLORSILK BEAUTIFUL COLOR
  3. SCHWARZKOPF FRESHLIGHT
  4. LOLANE PIXXEL COLOR CREAM
  5. MISE EN SCENE HELLO BUBBLE X BLACKPINK
  6. LIESE CREAMY BUBBLE COLOUR
  7. OK HERBAL COLOR CARE SHAMPOO
  8. LOLANE NATURE CODE HERBAL COLOR SHAMPOO
  9. BERINA
  10. GARNIER COLOR NATURALS

 

L’OREAL PARIS EXCELLENCE FASHION

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

L’OREAL PARIS EXCELLENCE FASHION

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบครีม

เฉดสี

15 เฉดสี

ปริมาณ 

200 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

360 บาท/กล่อง

หากคุณกำลังมองหายาย้อมผมสำหรับเปลี่ยนสีผมถาวร เราขอแนะนำยาย้อมผม LOREAL อย่าง L’OREAL PARIS EXCELLENCE FASHION  เป็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสีผมติดทนนานแน่นอนค่ะ ด้วยการใช้เทคโนโลยีไฮ-ชาย คอมเพล็กซ์ที่ประกอบไปด้วยเม็ดสีโทนอบอุ่น ซึ่งช่วยทำให้สีผมสวยชัดเปล่งประกายเงางาม และดูมีชีวิตชีวา 

นอกจากนี้ L’OREAL EXCELLENCE FASHION ยังเป็นสูตรปกป้องและฟื้นฟูเส้นผมด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ 3 ชนิด ได้แก่ CERAMIDE, AMINO ACID และ COLLAGEN ทำให้เส้นผมของคุณดูสุขภาพดี นุ่มลื่น และสีผมเปล่งประกายยิ่งขึ้น พร้อมกับปรับสมดุลค่า PH และทำความสะอาดเส้นผมอย่างอ่อนโยน เหมาะกับคนแพ้ง่าย เพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ อีกทั้งยังไม่ทำร้ายเส้นผมให้เกิดความเสียหายอีกด้วย 

 

 

REVLON COLORSILK BEAUTIFUL COLOR 

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

REVLON COLORSILK BEAUTIFUL COLOR

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบครีม

เฉดสี

9 เฉดสี

ปริมาณ 

130 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

294 บาท/กล่อง


มาต่อกันที่ยาย้อมผมแบรนด์ดังอย่าง REVLON COLORSILK BEAUTIFUL COLOR เป็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมผม สูตรอ่อนโยนที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโนเนีย ไม่ทำให้ผมเสีย เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ เพราะครีมเปลี่ยนสีผมอ่อนโยนต่อเส้นผม พร้อมกับให้เฉดสีผมสวยทำให้สีผมของคุณดูเป็นธรรมชาติและสามารถปิดผมขาวได้ 100%  ด้วยเทคโนโลยี 3D COLOR ช่วยทำให้เส้นผมนุ่มลื่นเปล่งประกายเงางามเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น  ทำให้เส้นผมของคุณดูมีสุขภาพดี และสีผมติดทนนาน มาพร้อมกับชุดทำสีผมที่แสนสะดวกสำหรับย้อมผมเองที่บ้านที่ถูกพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านซาลอน 

 



SCHWARZKOPF FRESHLIGHT

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

SCHWARZKOPF FRESHLIGHT

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบโฟม

เฉดสี

14 เฉดสี

ปริมาณ 

105 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

160 บาท/กล่อง

อีกหนึ่งยาย้อมผมแบรนด์ดังขวัญใจวัยรุ่น SCHWARZKOPF เป็นแบรนด์ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมระดับโลกสำหรับการคิดค้นและพัฒนาสูตรยาย้อมผมโดยเฉพาะ SCHWARZKOPF FRESHLIGHT เป็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมที่เคยคว้ารางวัล BEST HAIR COLOR ในแคมเปญ ELLE BEAUTY STAR AWARDS 2021 มาแล้ว ด้วยเนื้อโฟมแน่นนุ่มละเอียดที่สามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้อย่างรวดเร็วและทำให้การทำสีผมของคุณเป็นเรื่องสะดวกและง่ายดาย จึงไม่แปลกที่ยาย้อมยายี่ห้อนี้จะชนะใจผู้บริโภคจำนวนมาก 

SCHWARZKOPF FRESHLIGH มีเฉดสีสุดฮอตจากญี่ปุ่นให้เลือกหลากหลายสี โดยยาย้อมผมสูตรนี้เป็นสูตรที่ถูกคิดค้นและสร้างสรรค์มาเพื่อเส้นผมของคนเอเชียโดยเฉพาะ อุดมไปด้วยสารบำรุงเส้นผมถึง 8 ชนิดและกลิ่นไม่แรงให้ความรู้สึกสดชื่นกลิ่นหอมผลไม้ มาพร้อมกับอาฟเตอร์ คัลเลอร์ ทรีทเมนท์ เพื่อช่วยปิดเกล็ดผมและช่วยล็อคสีผมให้สวยชัดประกายเงางาม

 

 

LOLANE PIXXEL COLOR CREAM

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

LOLANE PIXXEL COLOR CREAM

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบโฟม

เฉดสี

43 เฉดสี

ปริมาณ 

50 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

28 บาท/กล่อง

มาต่อกันที่ยาย้อมผมแบรนด์ดังของไทยอย่าง LOLANE PIXXEL COLOR CREAM เป็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมผม LOLANE ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย เนื่องจากมันมีสีชัดติดทนนานอย่างสมบูรณ์แบบ แถมกลิ่นไม่ค่อยแรงมาก ด้วยเทคโนโลยี COMPLETE CAPSULE ช่วยทำให้โมเลกุลของเม็ดสีซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้อย่างดี พร้อมทั้งยังมีส่วนผสมของ OMEGA OIL ช่วยทำให้เส้นผมของคุณดูเปล่งประกายเงางามยิ่งขึ้น และยังมีเลซิติน (LECITHIN) เพื่อช่วยกระชับเส้นผมชั้นนอก

 

 

MISE EN SCENE HELLO BUBBLE X BLACKPINK

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

MISE EN SCENE HELLO BUBBLE X BLACKPINK

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบโฟม

เฉดสี

14 เฉดสี

ปริมาณ 

30 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

225 บาท/กล่อง

อีกหนึ่งยาย้อมผมแบรนด์ดังของเกาหลีอย่าง MISE EN SCENE HELLO BUBBLE หรือที่หลายคนเรียกว่า ยาย้อมผม BLACKPINK เนื่องจากสมาชิกทั้ง 4 สาวแห่งวง BLACKPINK เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมนี้มีลักษณะเป็นบับเบิ้ลโฟมเปลี่ยนสีผมที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณสามารถย้อมสีผมด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ โดยไม่ทำร้ายเส้นผม เพราะปราศจากแอมโมเนีย เนื้อฟองโฟมหนานุ่ม และยังอุดมไปด้วยสารสกัดจากน้ำมันบำรุงผมธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผมไม่ให้แห้งเสียหลังจากการย้อมสีผม

 

 

LIESE CREAMY BUBBLE COLOUR

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

LIESE CREAMY BUBBLE COLOUR

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบโฟม

เฉดสี

12 เฉดสี

ปริมาณ 

100 G

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

195 บาท/กล่อง

มาต่อกันที่ยาย้อมผมแบรนด์ดังของญี่ปุ่นอย่างยาย้อมผม LIESE CREAMY BUBBLE COLOUR ซึ่งผลิตโดยบริษัท KAO เป็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมในรูปแบบโฟมนุ่ม ยาย้อมผมยี่ห้อนี้มีเฉดสีสดใสให้เลือกถึง 12 เฉด ซึ่งจะเน้นไปที่การเติมสีสันให้กับลุคของคุณ และช่วยเสริมรูปลักษณ์ของคุณด้วยโทนสีธรรมชาติแบบคลาสสิก ถึงแม้มันจะมีกลิ่นอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติของยาย้อมผมทั่วไป แต่ยาย้อมผม LIESE ก็มีสีที่สดใสตรงปกหน้ากล่อง ทำให้คุณได้สีผมที่น่าพึงพอใจ แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วย

 

 

OK HERBAL COLOR CARE SHAMPOO

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

OK HERBAL COLOR CARE SHAMPOO

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบสระ

เฉดสี

4 เฉดสี

ปริมาณ 

30 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

33 บาท/ซอง

หากคุณอยากย้อมสีผม แต่มีปัญหาผมเสียจากการกัดสีผมจนทำให้ผมแตกปลาย และมีสีผมที่ไม่สม่ำเสมอ เราขอแนะนำให้ลองใช้ยาย้อมผมประเภทกึ่งถาวรแบบธรรมชาติอย่างยาย้อมผม OK HERBAL COLOR CARE SHAMPOO เป็นแชมพูปิดผมขาวที่มีส่วนผสมจากสารสกัดอัญชันและโสมที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะและไม่ทำให้ผมเสีย เนื่องจากปราศจากแอมโมเนีย สามารถปิดผมขาวได้สนิท 100% ทำให้คุณได้สีผมที่เป็นธรรมชาติติดทนนาน มีกลิ่นหอม และใช้งานง่าย ประหยัดเวลา แถมราคาไม่แพงอีกด้วย

 

 

LOLANE NATURE CODE HERBAL COLOR SHAMPOO

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

LOLANE NATURE CODE HERBAL COLOR SHAMPOO

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบสระ

เฉดสี

4 เฉดสี

ปริมาณ 

20 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

135 บาท/กล่อง

อีกหนึ่งยาย้อมผมรูปแบบสระที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ORGANIC 100% อย่าง LOLANE NATURE CODE HERBAL COLOR SHAMPOO เป็นยาย้อมผมในเซเว่น สูตรอ่อนโยนที่ปราศจากแอมโมเนีย ซิลิโคน ซัลเฟตและพาราเบน ช่วยปกปิดผมขาวได้แนบสนิท ทำให้ผมนุ่มชุ่มชื่นและเงางาม สามารถใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม อุดมไปด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพอย่าง 0RGANIC ARGAN OIL ช่วยทำให้ผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม ORGANIC BABASSU OIL และ CORN SUGAR (100% NATURAL)  บำรุงผมทำให้ผมชุ่มชื้น PURPLE BROWN RICE EXTRACT บำรุงเส้นผมให้ดกดำสลวย และ WHITE HEAD EXTRACT & EMBLIC EXTRACT ช่วยทำให้สีผมเป็นธรรมชาติ

 

 

BERINA

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

BERINA

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบครีม

เฉดสี

47 เฉดสี

ปริมาณ 

60 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

24 บาท/กล่อง

อีกหนึ่งตำนานยาย้อมผมที่ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังได้รับความนิยมเรื่อย ๆ อย่างยาย้อมผมเบอริน่า (BERINA) เป็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมที่มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย และสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยทั่วไป เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ เพราะมีสีให้เลือกย้อมสีผมมากมาย ทำให้คุณตามเทรนด์สีผมได้อย่างรวดเร็ว สีผมติดทนนานและเปล่งประกาย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย

 

 

GARNIER COLOR NATURALS

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

GARNIER COLOR NATURALS

รูปแบบยาย้อมผม

ยาย้อมผมแบบครีม

เฉดสี

5 เฉดสี

ปริมาณ 

60 ML

ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ

44 บาท/ซอง

สุดท้ายยาย้อมผมสีติดทนนานและไม่ทำให้ผมเสียอย่างยาย้อนผมการ์นิเย่ หรือ GARNIER COLOR NATURALS เป็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมถาวรที่ตอบสนองความต้องการด้านสีผมของผู้บริโภค สามารถล็อกสีผมให้ดูสวยชัดติดทนนาน ด้วยการผสมผสานวัตถุดิบจากน้ำมันธรรมชาติทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ AVOCADO, OLIVE และ ALMOND ช่วยบำรุงผมให้นุ่มสวยไม่แห้งเสียจากการทำสี นอกจากนี้ยาย้อนผมการ์นิเย่ยังผ่านการทดสอบแล้วว่าเหมาะสำหรับเส้นผมคนเอเชียแน่นอนค่ะ

 

 

เคล็ดลับการดูแลสีผมหลังจากผ่านการใช้ยาย้อมผม  เพื่อสุขภาพของเส้นผมและสีผมติดทนนาน

เมื่อคุณได้ทำการเปลี่ยนสีผมด้วยการใช้ยาย้อมผมและกัดสีผมเรียบร้อยแล้ว หากต้องการให้เส้นผมนุ่ม สวยเงางาม และสีผมติดทนนานสิ่งสำคัญอันดับแรกหลังจากการย้อมสีผมก็คือการดูแลเส้นผม เพื่อทำให้สีผมของคุณสวยสดและดูสุขภาพดี โดยการปฏิบัติตามเคล็ดลับการดูแลสีผมหลังจากผ่านการใช้ยาย้อมผม  เพื่อสุขภาพของเส้นผมและสีผมที่ติดทนนาน ดังนี้

  • การเลือกใช้แชมพู: การย้อมสีผมจะทำให้ผมแห้งเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เติมความชุ่มชื้นด้วยคอนดิชั่นเนอร์ที่ปลอดภัยต่อสีผมอย่างสารอาหารที่สำคัญต่อเส้นผมและซิลค์โปรตีน
  • การเลือกใช้ครีมนวดบำรุงผม: หากคุณต้องการฟื้นฟูสภาพผมอย่างล้ำลึก แนะนำให้ลองใช้ครีมนวดผมแบบไม่ต้องล้างออก เพื่อช่วยทำให้ผมแข็งแรงและป้องกันความร้อนได้ดี แต่ถ้าหากต้องการการบำรุงเป็นพิเศษให้ลองใช้มาส์กผม เพื่อช่วยเปลี่ยนผมที่เสียและแตกหักง่ายให้กลายเป็นผมที่แข็งแรงและได้รับการฟื้นฟูมากขึ้น
  • การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสีผม: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผมที่ผ่านการทำสีโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยป้องกันการซีดจาง ยืดอายุของสี และคืนความเงางามให้แก่เส้นผม 
  • ปกป้องสีผมของคุณจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม: การโดนแสงแดด หรือแม้แต่สารเคมีอย่างคลอรีนก็อาจจะสามารถเปลี่ยนสีย้อมผมของคุณได้และนำไปสู่ผมที่ชี้ฟู การปกป้องผมทำสีด้วยการใส่หมวกหรือใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่สามารถกรองรังสียูวี หรือหลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงด้วยความร้อน และใช้แชมพูสำหรับผมทำสีหลังจากว่ายน้ำก็สามารถช่วยทำให้สีผมของคุณเงางามและสีหลุดออกได้ยาก

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับ 10 อันดับยี่ห้อยาย้อมผมที่ถูกและดี ฉบับประจำปี 2022 ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่ายี่ห้อยาย้อมผมข้างต้นเราได้คัดสรรมาอย่างดีจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในโลกโซเชียล โดยผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมเหล่านี้ล้วนได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แถมราคาถูกสบายกระเป๋า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนสีผม เพื่อเพิ่มสีสันให้กับชีวิต หรือต้องการตามเทรนด์สีผมในปี 2022 แม้กระทั่งคนที่ต้องการปิดผมขาวก็สามารถใช้ย้อมสีผมได้

โดยทั่วไปยาย้อมผมแต่ละยี่ห้อจะมีเฉดสีผมให้เลือกมากมาย หากคุณต้องการทราบว่าสีผมไหนเหมาะกับคุณให้ลองเปรียบเทียบสีผมกับโทนสีผิวของคุณ สำหรับสาวไทย หรือคนเอเชีย เราขอแนะนำให้เลือกสีผมที่ช่วยทำให้ใบหน้าของสาว ๆ ดูสว่างและผ่องกระจ่างใส เช่น ผมสีน้ำตาลธรรมชาติ ผมสีดำประกายแดง ผมสีเทาหม่นประกายเขียว ผมสีเบจ และผมสีน้ำตาลอ่อน เป็นต้น นอกจากนี้หากคุณต้องการให้สีผมอ่อนลง หรืออยากให้ผลลัพธ์ของสีผมเป็นที่พึงพอใจ แนะนำให้ทำการฟอกสีผม หรือกัดสีผมธรรมชาติของคุณก่อน เพื่อทำให้สีผมอ่อนลง และทำให้ยาย้อมผมยึดติดบนเส้นผมคุณได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งหลังจากการทำสีผมที่ต้องใช้สารฟอกขาวหรือสารเคมีอื่น ๆ แน่นอนว่ามันอาจจะทำให้สุขภาพเส้นผมแห้งและมีแนวโน้มที่จะแตกหักสูง ดังนั้นหลังจากย้อมผมให้ลองนำเคล็ดลับการดูแลสีผมหลังการใช้ยาย้อมผมข้างต้นมาใช้เพื่อสุขภาพของเส้นผมที่ดีและสีผมที่ติดทนนานของคุณ

 

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

 

 

 

เว็บบอล

Categories
beauty health lucky item

10 อันดับโทนเนอร์ที่ถูกและดี เพื่อผิวหน้ากระจ่างใส ไร้สิว ประจำปี 2022

10 อันดับโทนเนอร์ที่ถูกและดี เพื่อผิวหน้ากระจ่างใส ไร้สิว ประจำปี 2022

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยขั้นตอนการบำรุงผิวหน้าผิวที่ดีต่อสุขภาพผิวที่ดีตลอดทั้งปี ด้วยการใช้ “โทนเนอร์” ซึ่งเมื่อก่อนต้องยอมรับเลยว่ากระแสโทนเนอร์ยังไม่ดีเท่าตอนนี้ แต่ทุกวันนี้โทนเนอร์กลับได้รับการยอมรับในเรื่องการทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีคุณสมบัติพิเศษที่มีประสิทธิภาพมากกว่ายาสมานแผล หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่มีแอลกอฮอล์บางยี่ห้อ ซึ่งโดยทั่วไปโทนเนอร์ในท้องตลาดมักจะช่วยแก้ไขปัญหาผิวเกือบทุกประเภท และไม่จำกัดเฉพาะการรักษาสิวและผิวมันอีกต่อไป

ความจริงแล้วปัจจัยที่ส่งผลทำให้ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ได้รับความนิยมอย่างสมบูรณ์แบบคงจะหนีไม่พ้นกระแสของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเกาหลี ซึ่งถือเป็นรากฐานความสวยงามของ k-beauty ซึ่งส่วนใหญ่คนเกาหลีมักจะใช้โทนเนอร์หลังจากทำความสะอาดผิวหน้า หรือก่อนทาครีมบำรุงอื่น ๆ โทนเนอร์บางชนิดช่วยในการดูแลผิวทั่วไป ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส และบางชนิดช่วยแก้ไขปัญหาผิวโดยเฉพาะ 

โดยทั่วไปคนเรามักจะมีปัญหาผิวที่เหมือนกันและแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่ปัญหาผิวเหล่านั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ทำให้เกิดคำถามมากมายว่าคุณควรใช้โทนเนอร์แบบไหน? โชคดีที่วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการเลือกโทนเนอร์บำรุงผิวหน้าตามสภาพผิวของคุณ พร้อมกับแนะนำ 10 อันดับโทนเนอร์ที่ถูกและดีต่อสภาพผิวของคุณ ประจำปี 2022 ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้แนะนำเกี่ยวกับ 10 อันดับยี่ห้อโทนเนอร์ถูกและดีฉบับประจำปี 2021 มาแล้ว แต่สำหรับปี 2022 จะมีโทนเนอร์ยี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง? ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

โทนเนอร์คืออะไร?

ก่อนที่จะไปพบกับ 10 โทนเนอร์ที่ถูกและดีประจำปี 2022 คุณเคยสงสัยไหมคะว่าโทนเนอร์คืออะไร? พูดง่าย ๆ โทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในรูขุมขนหลังล้างหน้า พร้อมกับการบำรุงผิวและเติมเต็มความความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหลังทำความสะอาด นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นไพรเมอร์สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขั้นตอนต่อไปของคุณอีกด้วย

โทนเนอร์จะมีลักษณะเป็นของเหลวเหมือนน้ำ แต่อุดมไปด้วยไฮโดรเจนและออกซิเจน พร้อมกับสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อผิวหน้า เช่น กรดกลีเซอรีน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านการอักเสบ เป็นต้น เมื่อก่อนโทนเนอร์จะเป็นผลิตภัณฑ์ขจัดความมันส่วนเกินออกจากผิวที่มีแอลกอฮอล์เข้มข้นสูงจึงทำให้ผิวหน้าแห้ง แต่ตอนนี้โทนเนอร์ส่วนใหญ่มีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลม เพิ่มความชุ่มชื้นและความกระจ่างใส และต่อต้านริ้วรอยก่อนวัย บางสูตรปราศจากแอลกอฮอล์และไม่มีส่วนผสมของสารที่ต่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

วิธีการเลือกโทนเนอร์บำรุงผิวหน้าตามสภาพผิว

อย่างที่เราทราบกันดีว่าโทนเนอร์มีหลากหลายสูตร โดยแต่ละสูตรจะช่วยแก้ไขปัญหาผิวของคุณ ซึ่งวิธีการเลือกโทนเนอร์ที่ดีที่สุดคือการเลือกโทนเทอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ และโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถขจัดน้ำมันธรรมชาติออกจากผิว นำไปสู่สาเหตุของผิวแห้งและการระคายเคืองผิว โดยทั่วไปคนเราจะมีประเภทผิวทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ สภาพผิวผสม, สภาพผิวมัน, สภาพผิวเป็นสิวง่าย, สภาพผิวแห้ง และสภาพผิวแพ้ง่าย ซึ่งแต่ละสภาพผิวก็จะมีปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป แล้วโทนเนอร์แบบไหนที่เหมาะกับผิวของคุณ? นี่คือลักษณะของโทนเนอร์ที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิว

คนที่มีสภาพผิวผสม

สำหรับคนที่มีผิวหน้ามันเป็นบางส่วน และบางส่วนเป็นผิวแห้ง แนะนำให้ลองใช้โทนเนอร์ที่ช่วยขจัดความมันส่วนเกินอย่างอ่อนโยน พร้อมกับช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว คนผิวผสมควรมองหาโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมของกุหลาบ วิตามินซี วิตามินอี หรือกรดไกลโคลิก

คนที่มีสภาพผิวมัน

หากคุณเป็นคนที่มีผิวหน้าที่ผลิตน้ำมันส่วนเกินมากเกินไป แนะนำให้ลองใช้โทนเนอร์ที่ช่วยกระชับรูขุมขนและผลัดเซลล์ผิว คนผิวมันควรมองหาโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่มีความเข้มข้นต่ำ เช่น ทรีออยล์ (Tea Tress Oil) กรดซาลิไซลิก กรดเบตาไฮดรอกซี (BHA) และกรดอัลฟา-ไฮดรอกซี (AHA)

คนที่มีสภาพผิวเป็นสิวง่าย หรือคนเป็นสิว

สำหรับคนที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวง่าย แนะนำให้ลองใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากน้ำมันที่มีกรดซาลิไซลิก หรืออีกหนึ่งทางเลือกที่แพทย์ผิวหนังแนะนำสำหรับคนเป็นสิวก็คือให้เลือกใช้โทนเนอร์ที่เป็นยารักษาสิวควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีอ่อนโยนและปราศจากสารที่ต่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

คนที่มีสภาพผิวแห้ง

สำหรับใครที่มีสภาพผิวแห้งหยาบเป็นขุยได้ง่าย ไม่กระจ่างใส และมีแนวโน้มแพ้ง่าย แนะนำให้ลองใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของสารที่เหมาะกับคนผิวแห้ง เช่น กรดไฮยาลูโรนิก สารสกัดจากแตงกวา วิตามินอี หรือกลีเซอรีน นอกจากนี้ โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกยังมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและการผลัดเซลล์ผิวแบบสองขั้นตอน

คนที่มีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย

สำหรับผิวที่มีอาการระคายเคืองได้ง่าย และมักแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย หรือมีอาการแดงและคันได้ง่าย แนะนำให้ลองใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เนื่องจากส่วนผสมจากธรรมชาติมักจะอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายเป็นสิว เช่น กุหลาบ ดอกคาโมไมล์ หรือว่านหางจระเข้ และอีกสิ่งสำคัญที่แพทย์ผิวหนังแนะนำก็คือคนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์

 

10 อันดับโทนเนอร์ที่ถูกและดี ประจำปี 2022

เมื่อคุณทราบแล้วว่าคุณมีสภาพผิวและปัญหาผิวอย่างไร ต่อไปนี้คุณก็จะสามารถเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะกับคุณได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมียี่ห้อโทนเนอร์หลากหลายยี่ห้อที่เหมาะกับสภาพผิวแบบคุณ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าโทนเนอร์ของอะไรดี? โชคดีที่วันนี้เราได้รวบรวม10 อันดับโทนเนอร์ที่ถูกและดี ประจำปี 2022 ซึ่งโทนเนอร์เหล่านี้ถูกจัดให้เป็นโทนเนอร์ที่ใช้ดีจนต้องบอกต่อ เพราะมีผู้ใช้จริงจำนวนมากให้การยอมรับถึงผลลัพธ์ที่ประสิทธิภาพและสามารถพิสูจน์ได้ โดยมีรายชื่อโทนเนอร์ทั้งหมด ดังนี้

1. ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner

2. Kiehl’s Calendula Herbal Extract Toner Alcohol-Free

3. BRYG VC Sweet Orange Toner

4. Thayers Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel Toner

5. Some By Mi AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Toner

6. Garnier Light Complete Milky Lightening Dew Toner

7. Smooth E Acne Clear Whitening Toner

8. The Ordinary Direct Acids Glycolic Acid 7% Toning Solution

9. Bioderma Hydrabio Toner

10. Plantnery Tea Tree First Toner

 

ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner

ปริมาณ

40ml, 250ml

ราคาโดยประมาณ

119 – 520 บาท

ส่วนผสมหลัก

Houttuynia Cordata Extract (77%)

เหมาะกับสภาพผิว

ทุกสภาพผิว

 

มาเริ่มต้นกันที่โทนเนอร์ชื่อดังตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ก็ยังได้รับความนิยมเรื่อย ๆ อย่าง ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner หรือที่หลายคนเรียกว่าโทนเนอร์พี่จุน เป็นโทนเนอร์สัญชาติเกาหลีที่กระแสโด่งดังในโลกโซเชียลด้วยส่วนผสมที่อุดมไปด้วยสารสกัด Houttuynia Cordata Extract (77%) ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยลดการระคายเคืองผิว พร้อมกับเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวของคุณต่อสู้กับมลภาวะได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้โทนเนอร์พี่จุนยังสามารถช่วยลดอาการอักเสบของผิวและช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำ และรอยสิว ที่สำคัญยังปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม ซิลิโคน และพาราเบน คนผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวก็สามารถใช้ได้

 

Kiehl’s Calendula Herbal Extract Toner Alcohol-Free

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

Kiehl’s Calendula Herbal Extract Toner Alcohol-Free

ปริมาณ

40ml, 75ml, 250ml, 500ml

ราคาโดยประมาณ

279 – 2430 บาท

ส่วนผสมหลัก

สารสกัดจากกลีบดอกคาเลนดูล่า (ดาวเรือง)

เหมาะกับสภาพผิว

ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย

 

มาต่อกันที่อีกหนึ่งโทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้อย่าง Kiehl’s Calendula Herbal Extract Toner Alcohol-Free เป็นโทนเนอร์จาก Kielh’s แบรนด์ชื่อดังจากนิวยอร์ก โดยโทนเนอร์ kiehl’s สูตรนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากกลีบดอกคาเลนดูล่า (ดาวเรือง), สารสกัดจากรากสมุนไพรคัมฟรี (comfrey) และเกรท เบอร์ด็อก (พืชตระกูลหญ้าเจ้าชู้) ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดผิว พร้อมกับช่วยปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยนและลดการระคายเคืองผิว ทำให้คุณรู้สึกสบายผิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการจัดการแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และที่สำคัญยังเป็นโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์

 

BRYG VC Sweet Orange Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

BRYG VC Sweet Orange Toner

ปริมาณ

500ml.

ราคาโดยประมาณ

229 บาท

ส่วนผสมหลัก

วิตามินซีจากผลส้ม

เหมาะกับสภาพผิว

ผิวแห้ง

 

หากพูดถึงโทนเนอร์สำหรับคนผิวแห้งหลายคนคงจะนึกถึง โทนเนอร์ vc หรือชื่อเต็ม ๆ คือ BRYG VC Sweet Orange Toner เป็นโทนเนอร์ทำความสะอาดผิวหน้าไปพร้อม ๆ กับบำรุงผิวด้วยสารสกัดจากผลส้มที่ช่วยปรับสมดุลผิว และปกป้องผิวจากมลภาวะ ทำให้ผิวหน้าขาวใส ลดจุดด่างดำ และทำให้ผิวดูชุ่มชื่นอิ่มน้ำ เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

Thayers Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

Thayers Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel Toner

ปริมาณ

89ml, 355ml

ราคาโดยประมาณ

232 – 569 บาท

ส่วนผสมหลัก

สารสกัดจากวิชฮาเซล ว่านหางจระเข้ และกลีบกุหลาบ

เหมาะกับสภาพผิว

ผิวผสม-ผิวแห้งบอบบางแพ้ง่าย

 

มาต่อกันที่อีกหนึ่งโทนเนอร์ขวัญใจสาว ๆ หลายคนอย่างโทนเนอร์ thayers หรือที่หลายคนเรียกว่าโทนเนอร์กุหลาบ ซึ่งเป็นโทนเนอร์สูตรกลีบกุหลาบจากสหรัฐอเมริกาที่มีอุดมไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและวิตามินซีจากสารสกัดจากวิชฮาเซล ว่านหางจระเข้ และกลีบกุหลาบ ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมกับความชุ่มชื่นให้ผิว เสริมความแข็งแรง และลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวของคุณดูกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่หมองคล้ำและอิดโรยให้กระจ่างใสและเปล่งปลั่งมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดการอักเสบของสิว ลดความมันส่วนเกิน และกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน

 

Some By Mi AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

Some By Mi AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Toner

ปริมาณ

30ml, 100ml, 150ml

ราคาโดยประมาณ

169 – 480 บาท

ส่วนผสมหลัก

AHA, BHA, PHA และสารสกัดจากทีทรี 10,000 ppm

เหมาะกับสภาพผิว

ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย

 

หากพูดถึงโทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิวอีกหนึ่งตัวเลือกยอดฮิตคงจะหนีไม่พ้น Some By Mi AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Toner เป็นโทนเนอร์ลดสิว สูตรอ่อนโยนที่ปรับสมดุลความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ด้วยค่า pH 5.5 ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส เรียบเนียน และอุดมไปด้วยส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อผิวอย่าง AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน BHA ช่วยลดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง PHA ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าดูอิ่มน้ำยาวนาน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากสารสกัดทีทรี 10,000 ppm ที่ช่วยปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมกับช่วยฆ่าเชื้อโรคและลดอาการอักเสบ ที่สำคัญปราศจากสารที่ทำให้ระคายเคือง 20 ชนิด เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ และมิเนรัลออยล์

 

Garnier Light Complete Milky Lightening Dew Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

Garnier Light Complete Milky Lightening Dew Toner

ปริมาณ

150ml

ราคาโดยประมาณ

195 บาท

ส่วนผสมหลัก

สารสกัดบริสุทธิ์จากมะนาว

เหมาะกับสภาพผิว

ทุกสภาพผิว

 

มาต่อกันที่โทนเนอร์แบรนด์ดังในไทยอย่างโทนเนอร์การ์นิเย่ หรือ Garnier Light Complete Milky Lightening Dew Toner เป็นโทนเนอร์ทำความสะอาดผิวที่อุดมไปด้วยสารสกัดบริสุทธิ์จากมะนาว ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งยังเติมเต็มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผิวของคุณสำหรับการบำรุงผิวในขั้นตอนถัดไป ทำให้ผิวของคุณซึมซาบสารบำรุงเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

 

Smooth E Acne Clear Whitening Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

Smooth E Acne Clear Whitening Toner

ปริมาณ

150ml

ราคาโดยประมาณ

249 บาท

ส่วนผสมหลัก

10-HDA Analogue, Sebacic Acid, Willow Bark Extract, Niacinamide, Vitamin B3, Vitamin E และ Tocopherol

เหมาะกับสภาพผิว

ผิวมัน-ผิวแพ้ง่าย

 

หากพูดถึงโทนเนอร์ที่ถูกและดีที่ได้รับความนิยมตลอดมา หลายคนคงจะนึกถึง Smooth E Acne Clear Whitening Toner เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์ 7-11 ที่ดีที่สุดเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายด้วยส่วนผสมที่ช่วยจัดการกับต้นตอของสิว พร้อมกับช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กระจ่างใส และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยโทนเนอร์ Smooth E สูตรนี้อุดมไปด้วยส่วนผสมมีประโยชน์ต่อผิวมากมาย เพื่อช่วยลดการสะสมแบคทีเรีย P.acne ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ลดการอักเสบของต่อมไขมัน ป้องกันปัญหาสิวอักเสบและช่วยขจัดความมันส่วนเกินในรูขุมขน นอกจากนี้ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน และผิวกระจ่างใสขึ้น พร้อมทั้งเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ที่สำคัญผ่านการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 100% Non-ionic surfactant

 

The Ordinary Direct Acids Glycolic Acid 7% Toning Solution

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

The Ordinary Direct Acids Glycolic Acid 7% Toning Solution

ปริมาณ

240ml

ราคาโดยประมาณ

689 บาท

ส่วนผสมหลัก

กรดไกลโคลิก และสารสกัดจากพริกไทยแทสเมเนีย (Tasmannia lanceolata)

เหมาะกับสภาพผิว

ทุกสภาพผิว

 

มาต่อกันที่โทนเนอร์ที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวอย่าง The Ordinary Direct Acids Glycolic Acid 7% Toning Solution เป็นโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ Glycolic Acid ซึ่งเป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซิลที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวถึง 7% ผสมผสานกับสารสกัดจากพริกไทยแทสเมเนีย (Tasmannia lanceolata) ที่ช่วยลดการระคายเคืองผิว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของรากโสมและว่านหางจระเข้ที่ช่วยทำความสะอาดผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และความหมองคล้ำ ให้ผิวเรียบเนียน และที่สำคัญปราศจากซิลิโคน (Silicone-free) ไม่มีแอลกอฮอล์ (Alcohol-free) ไม่มีน้ำมัน (Oil-free) ไม่มีกลูเตน (Gluten-free) และไม่ได้ทดลองกับสัตว์ (Cruelty-free)

 

Bioderma Hydrabio Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

Bioderma Hydrabio Toner

ปริมาณ

250ml

ราคาโดยประมาณ

890 บาท

ส่วนผสมหลัก

สารสกัดจากน้ำมันเมล็ดแอปเปิ้ล และวิตามีน B3

เหมาะกับสภาพผิว

ผิวแห้ง-ผิวบอบบางแพ้ง่าย

 

มาต่อกันที่อีกหนึ่งโทนเนอร์ที่เหมาะสำหรับคนผิวแห้งอย่าง Bioderma Hydrabio Toner เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกให้แก่ผิวขาดน้ำ เพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้สดชื่นและบางเบาจนสัมผัสได้ ด้วยนวัตกรรม Aquagenium ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งผ่านความชุ่มชื่นตามธรรมชาติของเซลล์ผิว ทำให้ผิวของคุณกักเก็บน้ำได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวลขึ้น พร้อมทั้งคืนความสมดุลและเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวอย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ยังปราศจากน้ำหอม ไม่อุดตันรูขุมขน และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

 

Plantnery Tea Tree First Toner

ชื่อยี่ห้อ/สูตร

Plantnery Tea Tree First Toner

ปริมาณ

250ml

ราคาโดยประมาณ

129 บาท

ส่วนผสมหลัก

สารสกัดเข้มข้นพิเศษจากทีทรี

เหมาะกับสภาพผิว

ผิวมัน-ผิวเป็นสิวง่าย

 

สุดท้ายโทนเนอร์ถูกและดีจากแบรนด์ของคนไทยอย่าง Plantnery Tea Tree First Toner เป็นโทนเนอร์ลดสิวที่ช่วยปรับสภาพผิว และขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า อุดมไปด้วยสารสกัดสูตรเข้มข้นจากทีทรีจากธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิวและขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบริเวณรูขุมขน ลดปัญหาสิว เช่น ลดสิวอักเสบ สิวอุดตัน พร้อมกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน นอกจากนี้ยังปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน สีสังเคราะห์ ซิลิโคน และ SLS

 

ควรใช้โทนเนอร์เมื่อไหร่?

หลังจากที่คุณเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณเคยสงสัยไม่ว่าโทนเนอร์ใช้ตอนไหน? ซึ่งจากคำแนะนำของ Amy Wechsler แพทย์ผิวหนังในเมืองนิวยอร์ก เธอได้แนะนำไว้ว่า โทนเนอร์สามารถใช้ได้วันละสองครั้งไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิวระหว่างวัน หรือการดูแลผิวก่อนนอน และเพื่อการบำรุงผิวที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น คุณควรใช้โทนเนอร์หลังจากการทำความสะอาดผิวของคุณ เนื่องจากการใช้โทนเนอร์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง เซลล์ผิวที่ตายแล้วที่หลงเหลือในรูขุมขนของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยเตรียมผิวของคุณให้พร้อมรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปอีกด้วย

โดยปกติคุณควรใช้โทนเนอร์ไม่เกินหนึ่งนาทีหลังทำความสะอาดผิวหน้า เนื่องจากโมเลกุลส่วนใหญ่จะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นเมื่อผิวเปียกหรือผิวมีความชุ่มชื้น ดังนั้นการใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ทันทีหลังทำความสะอาดจึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลังจากใช้โทนเนอร์คุณสามารถเริ่มขั้นตอนการบำรุงผิวขั้นตอนต่อไปได้เลย เช่น การทาครีมบำรุง การทาครีมกันแดด และการทาครีมบำรุงรอบดวงตา เป็นต้น

วิธีการใช้โทนเนอร์อย่างถูกต้อง

สิ่งสำคัญของการใช้โทนเนอร์ก็คือคุณต้องใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้าและก่อนลงมอยส์เจอไรเซอร์บนผิวหน้า ซึ่งโดยทั่วไปขั้นตอนการใช้โทนเนอร์ที่จะช่วยทำให้ผิวของคุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ได้แก่

  • ขั้นตอนที่ 1: ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน เพื่อการเริ่มต้นขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากผิวของคุณ
  • ขั้นตอนที่ 2: การ ใช้โทนเนอร์เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสารตกค้างที่เหลือหลังจากการทำความสะอาดผิวหน้า ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเตรียมผิวของคุณให้พร้อมสำหรับการลงมอยส์เจอไรเซอร์
  • ขั้นตอนที่ 3: ลงมอยส์เจอไรเซอร์บนผิวหน้าเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นและปกป้องผิวของคุณ หรือคุณอาจทาเซรั่มก่อนก็ได้

ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าโทนเนอร์ใช้ยังไง? วิธีทั่วไปสำหรับการเช็ดโทนเนอร์ให้ทั่วใบหน้าก็คือการใช้สำลีก้อนหรือแผ่น โดยการหยดโทนเนอร์ใส่สำลีประมาณ 2-3 หยด เพื่อให้สำลีชื้น แต่ไม่เปียก จากนั้นก็เริ่มเช็ดหน้าโดยเริ่มจากกึ่งกลางใบหน้าและค่อย ๆ เช็ดออกด้านนอก แนะนำให้หลีกเลี่ยงริมฝีปากและบริเวณรอบดวงตาที่บอบบาง นอกจากนี้ขอแนะนำให้เช็ดโทนเนอร์ให้ทั่วลำคอและเนินอกด้วย เนื่องจากบริเวณเหล่านี้อาจจะมีสิ่งสกปรกและน้ำมันสะสมอยู่

ในปัจจุบันมีโทนเนอร์บางตัวที่บรรจุในขวดสเปรย์สำหรับพ่นให้ทั่วใบหน้า แต่การพ่นโทนเนอร์ให้ทั่วใบหน้านั้นอาจจะช่วยแค่เจือจางสิ่งตกค้างบนผิวเท่านั้น ดังนั้นการพ่นละอองน้ำให้ทั่วใบหน้าจึงเหมาะที่สุดสำหรับการเติมความสดชื่นให้ผิวหรือเพิ่มความชุ่มชื้นหลังจากที่คุณใช้สำลีแผ่นเช็ดหน้าแล้ว

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? สำหรับ 10 อันดับโทนเนอร์ที่ถูกและดี ประจำปี 2022 ขอบอกเลยว่าโทนเนอร์แต่ละยี่ห้อที่เราได้ทำการรวบรวมมาไว้ในบทความนี้ล้วนได้รับการรีวิวโทนเนอร์จากผู้ใช้จริงจำนวนมากในโลกโซเชียล รับรองได้เลยว่าtoner ถูกและดีเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและช่วยแก้ไขปัญหาผิวของคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะคนที่มีสภาพผิวมัน และมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวง่ายหรือคนที่ชอบแต่งหน้าบ่อย ๆ เนื่องจากโทนเนอร์จะช่วยทำความสะอาดผิวของคุณและกระชับรูขุมขนทำให้เล็กลง การใช้โทนเนอร์ถือเป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่สำคัญในกิจวัตรประจำวันของคุณ 

โทนเนอร์เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ได้ ยิ่งถ้าหากคุณเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวก็จะยิ่งช่วยทำให้ผิวของคุณได้รับประโยชน์จากโทนเนอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบพอ ๆ กับการใช้เซรั่ม (Serum) สูตรเข้มข้น ซึ่งการใช้โทนเนอร์จะให้ประโยชน์มากมายในระยะยาว ทำให้ผิวหน้าของคุณสะอาดและสดชื่น แถมยังช่วยคืนความสมดุลของค่า pH ทำให้ปกป้องผิวจากแบคทีเรียและสารมลพิษได้

อย่างไรก็ตาม จากคำแนะนำของ Amy Wechsler คุณจะเห็นได้ว่าคุณสามารถใช้โทนเนอร์ได้วันละสองครั้งทั้งเช้าและก่อนนอน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ผิวแห้งหรือระคายเคืองง่ายให้ลองใช้วันละครั้งหรือวันเว้นวัน หรือถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่ผลิตมาเพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เนื่องจากโทนเทอร์มีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์หลากหลายที่อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อคนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย

Suwanna Preebunpul
สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Categories
beauty lucky item

มือใหม่หัดแต่งหน้า กับ 5 ไอเทมที่ต้องมี

มือใหม่หัดแต่งหน้า กับ 5 ไอเทมที่ต้องมี

     สาว ๆ กับความสวยความงามเป็นของคู่กัน ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเท่านั้นที่จะเสริมลุคให้เราดูดี การมีเครื่องสำอางบนใบหน้า ก็ช่วยเพิ่มสีสันและสร้างเสน่ห์ให้กับคุณได้เช่นกัน สำหรับสาว ๆ มีแต่งหน้าเป็นประจำก็อาจจะไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่ แต่กับสาว ๆ มือใหม่ อาจจะยังงง ๆ อยู่ว่า ถ้าเริ่มหัดแห่งหน้า จะต้องมีไอเทมอะไรบ้าง เพราะบอกเลยว่า ไม่จำเป็นต้องมีทุกชิ้น ก็สามารถครีเอทลุคสวย ๆ ได้เหมือนกัน

ไอเทมอะไรบ้าง ที่มือใหม่หัดแต่งหน้าต้องมี

1. ดินสอเขียนคิ้ว

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คิ้วคือมงกุฎของหน้า และเป็นสิ่งที่โดดเด่นบนใบหน้าอย่างมาก หากไม่มีคิ้ว ใบหน้าเราก็จะดูโล้นและไม่สวยงาม เพราะฉะนั้น ไอเทมแรกที่ต้องมีเลยในการแต่งหน้า ก็คือ ดินสอเขียนคิ้ว จะเลือกแบบเป็นดินสอ หรือแบบฝุ่นก็ได้ตามถนัด แต่สำหรับมือใหม่ การใช้ดินสอน่าจะง่ายกว่า

2. คอนซีลเลอร์

     สำหรับมือใหม่หัดแต่ง การจะลงรองพื้นอาจเป็นเรื่องยาก เพราะถ้าลงไม่ดี เกลี่ยไม่เนียน อาจทำให้ดูเป็นคราบหรือหนาเตอะได้ แนะนำให้ลองใช้คอนซีลเลอร์แทน และใช้ปกปิดแค่บางจุดก็พอ เช่น รอยสิว, รอยดำ, รอยแดง, กระ โดยไม่จำเป็นจะต้องลงทั้งหน้า แต้มเฉพาะจุดบกพร่องบนใบหน้าก็พอ แล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้เรียบเนียนไปกับใบหน้า

3. อายแชโดว์

     หากแต่งหน้าแล้วไม่มีสีเปลือกตา ก็คงจะดูแปลก ๆ ชอบกล อายแชโดว์คืออีกหนึ่งไอเทมที่สาว ๆ มือใหม่ควรมี เพราะจะช่วยสร้างสีสันให้กับดวงตา และสร้างมิติให้กับใบหน้าได้ แนะนำให้เลือกสีเอิร์ธโทน เพราะเป็นสีที่ใช้ง่าย แต่งง่าย ดูสวยแบบเป็นธรรมชาติ และสามารถแต่งเป็น Everyday look ได้ หรือจะบิลด์เพิ่มให้เป็นลุคกลางคืนก็ได้เช่นกัน

4. บลัชออน

     หากพวงแก้มไร้สีสัน ก็จะดูขาดความสดใส เลือกบลัชออนสักอันเป็นหนึ่งไอเทมที่ต้องมี แนะนำสีส้มพีช หรือสีชมพูธรรมชาติ จะช่วยให้แก้มดูระเรื่อเหมือนมีเลือดฝาด และไม่ดูเข้มจัดจนเกินไป แถมยังใช้ได้กับทุกสีผิว ไม่ว่าจะผิวขาว ผิวเหลือง หรือผิวแทน 

5. ลิปสติก

     แน่นอนว่า หากจะแต่งหน้าให้คอมพลีทลุค ลิปสติกคือนางเอกของงาน ลองนึกภาพดูว่าหากคุณแต่งหน้าแล้วไม่ได้ทาลิปสติก จะดูแย่ขนาดไหน เลือกโทนสีลิปที่เข้ากับสีบลัชออนที่ชอบ จะเป็นส้ม, ชมพู หรือแดงก็ได้ ส่วนจะเลือกเนื้อลิปสติกแบบไหน แล้วแต่ความชอบได้เลย และหากเป็นมือใหม่ อาจเลี่ยงลิปสติกแมทช์แบบจิ้มจุ่มไปก่อน เพราะจะทายากและไม่ถนัดมือได้

     ก็ครบแล้วสำหรับ 5 ไอเทม ที่สาว ๆ มือใหม่หัดแต่งหน้าต้องมี ซึ่งเป็นเครื่องสำอางชิ้นแรก ๆ ที่จะช่วยให้การแต่งหน้าของสาว ๆ ง่ายขึ้น และถ้าหากแต่งหน้าจนเป็นมือโปรแล้ว ก็ค่อยเพิ่มไอเทมเครื่องสำอางอื่น ๆ ตามมาได้ รับรองว่าคุณจะสนุกกับการแต่งหน้ามากขึ้น และสนุกกับการเลือกเครื่องสำอางที่คุณชอบอีกด้วย

 

 

สมัครแทงบอล

Categories
beauty lucky item

10 อันดับเครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี ยอดฮิตประจำปี 202

10 อันดับเครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี ยอดฮิตประจำปี 2022 สาวๆ ต้องไม่พลาด

เครื่องสำอางเป็นของคู่กันกับสาวๆ ทุกวัย ที่ไม่ว่าอย่างน้อยต้องมีติดกระเป๋า และยังมีประจำยังโต๊ะเครื่องแป้งอยู่เสมอ โดยกระแสความนิยมจากประเทศเกาหลียังคงแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการดูแลผิวพรรณ ผิวหน้าของสาวเกาหลีนั้น ดูสวยงาม ผุดผ่อง อ่อนเยาว์อยู่เสมอ ทำให้สาวๆ หลายคนต่างพยายามหาเคล็ดลับเพื่อที่จะสวยงามเช่นสาวเกาหลี จึงมีการจัดอันดับ 10 อันดับเครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลีในปี 2022 ที่ต้องไม่พลาด มีดังนี้

10 อันดับเครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี ปี 2022 ของดีคู่ความอ่อนเยาว์

  1. Jung Saem Mool (JSM)

แบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลีชื่อเดียวกันกับเมคอัพอาร์ทติสชื่อดังของเกาหลี เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างของเหล่าบิ้วตี้บล็อคเกอร์และในกลุ่มช่างแต่งหน้า โดดเด่นและน่าสนใจด้วยคุชชั่น Essentials Skin Long Wear Cushion ตัวเด่นไอเทมดังของแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีตัวนี้ทีเดียว

  1. Banila Co.

แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีน้องใหม่ที่มีการเปิด Shop ใจกลางกรุงในประเทศไทยและยังโดดเด่นด้วยตัวคลีนซิ่งลูกรักพระเจ้า ที่ทำความสะอาดได้หมดจด ทำให้ผิวหน้าสะอาดใสไร้สิวแบบไม่ต้องกังวลอย่าง Clear it Zero Cleansing Balm Original ที่ครองใจทั้งสาวเกาและสาวไทยแบบไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว

  1. Holika Holika

เครื่องสำอางแบรนด์เกาหลีที่เพิ่งโด่งดังไม่นาน ด้วยความโดดเด่นผสมผสานความน่ารักแบบลงตัว เป็นที่ถูกอกถูกใจสาวๆ อย่างลิปเนื้อทิน เบาบาง สบายเมื่อได้ทาที่ริมฝีปาก และยังดูสวยน่ารักแบบธรรมชาติ และราคาโดนใจอีกด้วย

  1. Missha Official

สาวๆ ที่ชื่นชอบเครื่องสำอางต้องไม่พลาดกับแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีอย่าง Missha ที่ได้รับความนิยมทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และยังส่งออกจำหน่ายไปในหลายประเทศทั่วโลก ที่เรียกเสียงฮือฮาจากสาวก Missha ได้ทั่วโลกอย่างคอลเลคชั่น Missha X Line Friend ที่ทำให้หลายคนต้องยอมควักกระเป๋าซื้อทีเดียว

  1. 3ce Official

แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังจากเกาหลีที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ต้นกำเนิดอยู่ใน Shop Stylenanda เป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของเกาหลี โดย 3CE จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์อย่าง 3 Concept ที่เพิ่มความพิเศษอย่างเครื่องสำอางชิ้นเดียวสามารถใช้งานได้ทั้งทาแก้ม ตา และปาก รวมถึงยังมีลูกเล่นต่างๆ ให้สาวๆ ได้สนุกไปกับการแต่งหน้าอีกด้วย

  1. Etudehouse

เครื่องสำอางแบรนด์สัญชาติเกาหลี Etudehouse มีจำหน่ายทั่วโลก และมีมากกว่า 393 สาขา โดยความโดดเด่นของเครื่องสำอางอย่าง Etudehouse นั้น มีคุณภาพดี แถมยังใช้ได้กับทุกสภาพผิวไม่ว่าจะเป็นผิวแพ้ง่าย หรือผิวผสม และยังมีราคาที่ไม่สูงมากเกินไป ทำให้สาวๆ หลายคนต้องมีติดตัว ติดโต๊ะแป้งไม่น้อยกว่าหนึ่งชิ้นแน่นอน

  1. Peripera

สาวๆ รู้จักเครื่องสำอางแบรนด์ Peripera จากลิปสติกตัวปังอย่าง Ink VelVet ที่มีเนื้อใส บางเบาและยังทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มเนียนนุ่มชุ่มชื้น และยังมีออกมาหลากหลายคอลเลคชั่น ไม่เพียงลิปสติกที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ แต่บรรดาเครื่องสำอางตัวอื่นอย่างคุชชั่นที่ใช้งานปกปิดได้ดี แถมยังมี SPF สูงทนต่อแดดจัด และในทุกสภาพอากาศอีกด้วย

  1. The Face Shop

สุดยอดแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่มีดีรอบด้าน ทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์ตัวเด็ดหลากหลาย ทั้งคุชชั่น สเปรย์กันแดด หรืออายแชโดว์ และยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและเส้นผม เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งตัวอีกด้วย

  1. Mamondekorea

แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่ได้นางเอกอย่าง ปาร์ค ชินฮเย หรือ “น้องผัก” เป็นพรีเซนเตอร์ สุดยอดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทั้งโทนเนอร์ และเซรั่มที่เป็นสุดยอดการบำรุงผิวพรรณได้ดี และเน้นความออแกนิคไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และยังเน้นความเป็นธรรมชาติอีกด้วย

         1. Laneige

    แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีขึ้นชื่อทั้งในไทยและเกาหลี ตัวเด็ดอย่าง Water Sleeping Mark และ Lip Sleeping Mark ยังไม่พอแบรนด์เครื่องสำอางอย่าง ลาเนจยังไม่ได้มีดีแต่บรรดาสกินแคร์ แต่เซ็ทเมคอัพอย่างคุชชั่น อายแชโดว์ และยังแป้งพัฟ เป็นที่นิยม และยังมีเครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย ทำให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย

    10 อันดับเครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี ยอดฮิต ปี 2022 ราคาไม่สูงอย่างที่คิด

    เครื่องสำอางเกาหลีนั้น ได้ออกแบบผลิตออกมาให้ถูกใจสาวๆ โซนเอเชียมากเป็นพิเศษ และสามารถเข้ากันได้ง่ายกับผิวของสาวเอเชีย มีราคาไม่สูงมาก รวมถึงล้วนแล้วแต่มีคุณภาพดี โดยการจัดอันดับ 10 อันดับเครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลียอดฮิตในปี 2022 นี้ บรรดาสาวๆ ต้องไม่พลาดมีติดไว้อย่างน้อยซักชิ้นแน่นอน

     

     

    เว็บพนันบอล ดีที่สุด