Categories
beauty

10 ครีมกันแดด ทาหน้า ถูกและดี สู้แดดเมืองไทย ฉบับประจำปี2021

ประเทศไทยจัดเป็นประเทศเขตร้อนที่มีลักษณะเป็นแบบร้อนชื้น ยิ่งเข้าสู่ฤดูร้อนอุณหภูมิก็จะยิ่งสูงขึ้น และแสงแดดร้อนแรงมากขึ้น ซึ่งแสงแดดจากดวงอาทิตย์นั้น มีรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี UV ที่ก่อให้เกิดอันตรายทางชีวภาพต่อผิวหนังของคุณ ถึงแม้ว่ารังสี UV จะมีประโยชน์ในการสังเคราะห์วิตามิน D3 แต่หากผิวของคุณได้รับรังสี UV มากเกินไปและติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลเสียทางด้านลบมากกว่าประโยชน์แน่นอนค่ะ อาทิเช่น ผิวคล้ำแดด เกิดริ้วรอย เกิดอาการแพ้แดด ผิวไหม้จากแดด และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากรังสี UVB และรังสี UVA ประมาณ 10-20% ดังนั้นก่อนออกแดด หรือออกไปใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนควรมองหาตัวช่วยในการป้องกันผิวของคุณจากรังสี UV อย่าง “ครีมกันแดด” เพราะรังสี UV มันไม่ได้พบได้แต่เพียงในแสงแดดเท่านั้น แต่มันยังสามารถพบได้จากหลอดไฟต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นอีกด้วยค่ะ

เมื่อคุณทราบถึงภัยร้ายจากแสงแดดแล้ว คุณก็ไม่ควรปล่อยให้ผิวของคุณถูกทำร้ายไปเรื่อย ๆ ใช่ไหมคะ? โดยเฉพาะผิวหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่อ่อนไหวต่อแสงแดดมากที่สุด และบทความวันนี้เราก็จะพูดถึงการเลือกใช้ครีมกันแดด ทาหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวและประโยชน์ของครีมกันแดดมีผลต่อผิวหน้าของคุณอย่างไรบ้าง พร้อมกับแนะนำ 10 ยี่ห้อครีมกันแดด ทาหน้าที่ถูกและดี แถมยังซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพื่อเตรียมพร้อมสู้กับแสงแดดเมืองไทย ส่วนจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ

ครีมกันแดดคืออะไร?

ครีมกันแดด (sunscreen) คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทาผิวที่มีส่วนของสารกันแดด (Sunscreen agent) มีทั้งครีมกันแดดทาหน้าและครีมกันแดดกาย ใช้ทาผิวสำหรับป้องกันอันตรายจากรังสี UV (Ultraviolet) ที่มาจากแสงแดดไม่ว่าจะเป็น รังสีอัลตร้าไวโอเลต A (UVA), รังสีอัลตร้าไวโอเลต B (UVB) และรังสีที่ตามองเห็น (Visible Light) โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้งที่ผิวหนังโดนแสงแดดโดยตรง หรือคนที่ทำงานในที่ร่มหลบจากแสงแดดก็อาจจะโดยอันตรายจากแสงแดดได้เหมือนกันถึงแม้การได้รับแสงแดดในเวลาไม่นาน แต่หากได้รับบ่อยก็อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิว และยังทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังทำให้สีผิวคล้ำได้ค่ะ นอกจากนี้รังสี UV (Ultraviolet) จากแสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ อาทิเช่น เกิดรอยเหี่ยวย่น เกิดตีนกา ผิวหน้าหมองคล้ำ และหยาบกร้าน เกิดกระ เกิดฝ้า จนผิวหน้าแลดูแก่กว่าวัยอันควร ดังนั้นเราควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนด้วยนะคะ

ประเภทครีมกันแดดมีอะไรบ้าง?

แน่นอนว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกในการป้องกันไม่ให้ผิวไหม้ หรือลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังนั้นคือการหลีกเลี่ยงแสงแดด ซึ่งครีมกันแดดก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV (Ultraviolet) ที่มาจากแสงแดดได้ และยังช่วยให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์อีกด้วยค่ะ สำหรับประเภทครีมกันแดดก็มีหลากหลายตามส่วนผสมที่ใช้ ดังนี้

  1. Chemical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ช่วยปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ นั่นคือสาเหตุที่เราควรต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง โดยการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ จะมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย
  2. Physical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนังได้ ซึ่งสารประเภทนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่ม Chemical Sunscreen แต่มีข้อเสียคือ ครีมกันแดดประเภทนี้เมื่อทาบนผิวหนังแล้วจะให้สีที่มีความขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อย
  3. Chemical-Physical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่เสริมข้อดี และลดข้อเสียใน นั่นคือ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง จากสารประเภทสารเคมี และลดความขาวเมื่อทาครีม และเสริมประสิทธิภาพ ในการป้องกันแสงแดด

นอกจากนี้ยังมีการแบ่งประเภทครีมกันแดดตามบริเวณที่ใช้ทา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วครีมกันแดดจะมีหลากหลายรูปแบบทั้งแบบครีม, แบบเจล, แบบแท่ง และแบบสเปรย์ โดยแต่ละแบบจะมีประโยชน์ใช้สอยและเหมาะกับการใช้ทาเพื่อปกป้องแสงแดดตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้้

  • แบบครีม เหมาะสำหรับใช้ทาบริเวณใบหน้าและคนที่มีผิวหน้าแห้ง
  • แบบเจล เหมาะสำหรับทาบริเวณที่มีขน เช่น หนังศีรษะหรือหน้าอกของผู้ชาย
  • แบบแท่ง เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบแท่งที่อาจผสมสารกันแดดร่วมด้วย เหมาะสำหรับใช้ทาบริเวณที่อยู่รอบดวงตา
  • แบบสเปรย์ เป็นสารกันแดดในรูปแบบสเปรย์อาจนำมาใช้ทากันแดดให้แก่เด็ก เนื่องจากทาได้ง่าย และควรทาสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่เพียงพอ และไม่ควรสูดดมหรือฉีดสเปรย์ใกล้วัตถุไวไฟหรือขณะที่สูบบุหรี่

ครีมกันแดด ไอเท็มปกป้องผิวจากแสงแดด ที่ควรมีติดตัวไว้

ครีมกันแดด มีหลากหลายรูปแบบทั้งครีมกันแดดผู้หญิงและครีมกันแดดผู้ชาย บางยี่ห้อสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ทุกคนควรมีมีติดตัวไว้ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดแล้ว ครีมกันแดดบางยี่ห้อยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้ผิวของคุณมีสุขภาพที่ดี แต่บางครั้งผู้ใช้ครีมกันแดดอาจได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ค่ะ ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมข้อดีและข้อเสียของการทาครีมกันแดดก็ฝากทุกคน ดังนี้

ข้อดีของครีมกันแดด

  • ป้องกันผิวหนัง ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่าย
  • ปกป้องอันตรายจากแสงแดดที่มีต่อผิวหนัง เช่น ไม่ให้ถูกแสงแดดเผาหรือทำลาย
  • ช่วยไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ส่งผลให้ไม่เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าบนใบหน้าและผิวหนังส่วนอื่น

ข้อเสียของครีมกันแดด

  • ป้องกันผิวหนัง ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่าย
  • ปกป้องอันตรายจากแสงแดดที่มีต่อผิวหนัง เช่น ไม่ให้ถูกแสงแดดเผาหรือทำลาย
  • ช่วยไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ส่งผลให้ไม่เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าบนใบหน้าและผิวหนังส่วนอื่น

ข้อเสียของครีมกันแดด

  • ลดการผลิตวิตามินดีของผิวหนัง ผู้ใช้ครีมกันแดดควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีหรือวิตามินเสริม เพื่อเสริมสร้างวิตามินดีให้ร่างกายอย่างเพียงพอ
  • ครีมกันแดดมักทิ้งคราบตามเสื้อผ้า เพราะครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์กันแดดบางตัวผสมกรดอะมิโนเบนโซอิก หรือกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก
  • อาจส่งผลให้ผิวแพ้ง่ายขึ้น เกิดการระคายเคือง หรือมีรอยแดงที่ผิว เพราะครีมกันแดดมีส่วนผสมบางตัวที่ทำให้ผิวแพ้สารต่าง ๆ ได้ง่าย และอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้

ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้ครีมกันแดด

ครีมกันแดดในท้องตลาด แต่ละยี่ห้อมักจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมในการใช้งาน ซึ่งครีมกันแดดมีให้เลือกหลากหลากทั้งครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวมันที่ช่วยคุมมันได้ดีตลอดทั้งวัน, ครีมกันแดดสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย และครีมกันแดดสำหรับเด็ก โดยส่วนใหญ่มักจะปราศจากสารเติมแต่ง อย่าง น้ำมัน, น้ำหอม, แอลกอฮอล์ และพาราเบน เป็นต้น แต่ในเรื่องการป้องกันผิวจากแสงแดด หรือรังสี UV นั้น ครีมกันแดดแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติในการปกป้องที่แตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับสรรพคุณในการป้องกันรังสี UVA และ UVB และค่า SPF กับค่า PA

รังสี UVA และ UVB คืออะไร?

ครีมกันแดดช่วยปกป้องอันตรายจากแสงแดดที่มีต่อผิวหนัง ซึ่งแสงแดดจากแสงอาทิตย์มีรังสี UV ที่สามารถแบ่งออกองค์ประกอบได้ 3 รังสีคือ UVA, UVB และ UVC โดยรังสี UVC จะมีความยาวคลื่นสั้นที่สุด (100-280 นาโนเมตร) รองลงมาก็จะเป็น UVB (280-320 นาโนเมตร) และรังสีที่มีค่าความยาวคลื่นสูงสุดคือ UVA (315-400 นาโนเมตร) แต่เนื่องจากโอโซนในชั้นบรรยากาศดูดซับรังสี UVC ไว้ทำให้แสงอาทิตย์ที่สามารถส่องมาถึงได้นั้นก็มี UVA (90% -95%) และ UVB (5% –10%) พูดถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงกำลังสงสัยว่า รังสี UVA และ UVB คืออะไร? วันนี้เราก็มีความหมายของ UVA และ UVB มาฝากทุกคน นั่นก็คือ

  • รังสี UVA คือรังสี UV ที่มีพลังงานต่ำที่สุด เมื่อได้รับรังสีชนิดนี้จะมีผลต่อสภาพปัญหาผิวหนัง และทำลายเซลล์ผิวของคุณอย่างถาวรหรือผิวหนังชั้นดี เช่น ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย เกิดความหมองคล้ำ กระ และฝ้า จนผิวแลดูแก่กว่าวัย
  • รังสี UVB คือ รังสี UV ที่มีพลังงานรองลงมาจากรังสี UVC เป็นรังสีที่เกิดการถูกแสงแดดเผาและแสงแดดทำลายผิว ให้ทำผิวไหม้แดด เกรียมแดด และแสบร้อนได้ เป็นการทำลายผิวในชั้นหนังกำพร้า โดยเฉพาะผู้แพ้แสงแดดง่ายหรือมีการตากแดดเป็นเวลานาน

ค่า SPF และ PA คืออะไร?

ใครที่เคยใช้ครีมกันแดดคงต้องเคยเห็นคำว่า SPF และ PA ข้างฉลาก และกำลังสงสัยใช่ไหมคะว่าค่า SPF และ PA คืออะไร? ค่า SPF และค่า PA เป็นค่าที่ใช้เรียกในการป้องกันแสงแดดจากรังสี UVA และ UVB ซึ่งทั้งสองค่าจะมีหน้าที่และคุณสมบัติที่ต่างกัน โดย SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันรังสียูวีบี (UVB) เช่น SPF 30 หมายถึง ถ้าในคนปกติ ผิวหนังจะมีอาการแดงเมื่อตากแดดเป็นเวลา 15 นาที แต่เมื่อใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ผิวหนังจะแดงเมื่อตากแดดเป็นเวลา 15×30=450 นาที ส่วนค่า PA ย่อมาจาก Protection Grade of UVA เป็นค่าที่แสดงถึงคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ (UVA) ส่วนเครื่องเครื่องหมาย + ที่ตามหลังนั้นคือค่าความสามารถในการปกป้องผิว ยิ่ง + มากยิ่งสามารถป้องกันแสงแดงได้สูงมาก

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดดเมืองไทย

หลังจากที่เราได้ทราบแล้วว่าค่า SPF สูงๆ จะได้ป้องกันผิวจากแสงแดดได้มากขึ้น แต่ก็อาจก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองได้ง่าย ซึ่งโดยปกติแล้วครีมกันแดดที่มี SPF 50 PA+++ ก็สามารถช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดดเมืองไทยได้แล้ว และสำหรับใครที่ผิวแพ้ง่ายเราแนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF15 ก็สามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างน่าพอใจแล้วค่ะ ในการเลือกครีมกันแดดควรเลือกสูตรที่สามารถปกป้องผิวได้ทั้ง UVA และ UVB ต้องมีทั้งค่า SPF และค่า PA ที่ช่วยป้องกันรังสี UVA   และถ้าหากอยากให้ครีมกันแดดมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณด้วยค่ะ เพราะผิวของคนเรามีความแข็งแรง บอบบางไม่เท่ากัน จึงต้องมีวิธีการเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ดังนี้

  1. สำหรับคนผิวหน้ามัน

สำหรับคนที่มีสภาพผิวหน้ามันเหมาะกับการใช้ครีมกันแดดที่ซึมซับเข้าสู่ผิวไวอย่างกันแดดเนื้อเจล เพราะมีส่วนผสมของน้ำอยู่มาก และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ที่จะทำให้ใบหน้ายิ่งมันมากขึ้นไปอีก  นอกจากนี้ส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในกันแดดเนื้อเจล ยังช่วยขจัดความมันบนใบหน้าได้ดีอีกด้วยค่ะ

  1. สำหรับคนผิวหน้าแห้ง

สำหรับคนที่มีสภาพผิวหน้าแห้งเหมาะกับการใช้ครีมกันแดดที่เป็นเนื้อโลชั่นที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิวพร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้นานยิ่งขึ้น และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจส่งผลทำให้ผิวหน้าแห้งมากขึ้น

  1. สำหรับคนผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย

สำหรับคนที่มีสภาพผิวหน้าบอบบางแพ้ง่ายเหมาะกับครีมกันแดดที่ผลิตจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี หรือครีมกันแดดที่ออกแบบมาเพื่อผิวบอบบางอย่างผิวเด็ก ประเภทที่ใช้ควรเป็นเนื้อเจลหรือเนื้อครีม เพื่อให้ซึมซับผ่านผิวได้ง่าย และไม่ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงจนเกินไป เพราะครีมกันแดดประเภทนี้จะมีส่วนผสมของสารเคมีต่างๆ อยู่ในปริมาณมาก จะทำให้โอกาสที่จะแพ้ได้ค่ะ

10 ยี่ห้อครีมกันแดด ถูกและดี ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมสู้แดดเมืองไทย

สำหรับใครที่กำลังมองหาครีมกันแดดทาหน้าที่ถูกและดี ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับแสงแดดเมืองไทย แถมยังหาซื้อได้ง่ายๆ วันนี้เราก็มี 10 อันดับ ยี่ห้อครีมกันแดดทาหน้าที่ได้รับการรีวิวว่าสามารถช่วยปกป้องแสงแดดเมืองไทยได้ดีมาฝากทุกคน จะมียี่ห้อไหนบ้างตามมาดูเลยคะ

  1. BSC Crystal Aura Sunscreen Anti-Pollution
  2. Nivea Sun Protect & White Oil Control Serum
  3. Biore UV Perfect Milk
  4. ANESSA Gold Milk
  5. L”oreal UV Perfect Matte & Fresh
  6. Srichand Luminescence Fabulous UV Shield
  7. The Saem Eco Earth Power Light Sun Cream
  8. Za True White Power Block UV
  9. MizuMi UV Water Serum
  10. La Roche-Posay Anthelios XL Dry Touch Gel-Cream

 

BSC Crystal Aura Sunscreen Anti-Pollution

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

BSC Crystal Aura Sunscreen Anti-Pollution

ปริมาณ

25g.

ราคา

450 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50 / ค่า PA++++

เนื้อสัมผัส

เนื้อครีมบางเบา

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับผิวแห้ง

 

BSC Crystal Aura Sunscreen Anti-Pollution เป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะ พร้อมบำรุงให้ผิวกระจ่างใสเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Triple Action Technology ที่สามารถปกป้องแสงแดดที่เป็นสาเหตุของผิวแห้งหยาบกร้าน ริ้วรอยก่อนวัย หมองคล้ำ พร้อมด้วยค่า SPF50 PA+++ และมีความคงตัวสูง (Photo stability) ไม่เสื่อมสลายง่าย เมื่อโดยแสงแดด และยังเพิ่มการบำรุงผิวหน้าด้วย Vitamin C&E และ B3 ช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น มีสุขภาพดี เพราะมีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate และ Ronacare Ectoin เสริมการปกป้องผิวจากมลภาวะด้วย Pollustop อีกด้วยค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> konvy

Nivea Sun Protect & White Oil Control Serum

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

Nivea Sun Protect & White Oil Control Serum

ปริมาณ

15 / 30 ml.

ราคา

149 – 279 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50+ / ค่า PA+++

เนื้อสัมผัส

โลชั่นเนื้อเซรั่ม

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับผิวมันและผิวบอบบางแพ้ง่าย

 

NIVEA Sun Protect & White Oil Control Serum เป็นครีมกันแดดควบคุมความมัน มีค่ากันแดดถึง SPF 50+ PA+++ เป็นโลชั่นเนื้อเซรั่ม มี Ultra Deep UVA1 Protection ที่ไม่ใช่แค่ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB แต่ยังทำหน้าที่เสมือนเกราะปกป้องผิวจากการทำร้ายลึกของ UVA1 ต้นเหตุจุดด่างดำ ฝ้าแดด ช่วยให้ผิวกระจ่างใสตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังช่วยปกป้อง และฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำร้ายโดยแสงแดด ให้ผิวดูกระจ่างใส เพราะว่ามีส่วนผสม Licorice Extract และมีการผสมผสาน L-Carnitine ที่ช่วยลดความมันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวได้ถึง 86%+ เป็นครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับคนที่แต่งหน้าบ่อยๆ เพราะกันแดดเป็นสูตร Non-Comedogenic ไม่อุดตันรูขุมขน ปราศจากพาราเบนและน้ำหอม เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว คนแพ้น้ำหอมใช้ได้ ช่วยให้ผิวดูขาวอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ทาผิวหน้าได้ทุกวันค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> lazada, shopee, Watsons Online

Biore UV Perfect Milk

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

Biore UV Perfect Milk

ปริมาณ

40 ml.

ราคา

260 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF 50+ / ค่า PA++++

เนื้อสัมผัส

เนื้อครีมโลชั่นน้ำนม

เหมาะกับสภาพผิว

ผิวธรรมดา, ผิวมัน, ผิวแห้ง

 

Biore UV Perfect Milk เป็นครีมกันแดดเนื้อโลชั่นน้ำนมบางเบา สำหรับผิวหน้าและผิวกาย เป็นสูตรกันน้ำและเหงื่อ ติดทนนาน ปกป้องต่อเนื่องยาวนาน เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งและการเล่นกีฬา ป้องกันการเกิดผิวคล้ำจากการเผชิญแสงแดด (Super-UV Block) มีค่า SPF 50+ และ PA++++ เนื้อครีมซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาว และไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะเป็นเนื้อน้ำนม ทาง่ายเกลี่ยง่ายเข้าไปในผิว ทำไห้ออกแดดแล้วไม่แสบสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้เลยค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> lazada, shopee, biorethailand

ANESSA Gold Milk

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

ANESSA Gold Milk

ปริมาณ

60 ml.

ราคา

899 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50+ / ค่า PA++++

เนื้อสัมผัส

โลชั่นเนื้อเซรั่ม

เหมาะกับสภาพผิว

ผิวแห้งขาดความชุ่มชื่น

 

ANESSA Gold Milk เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำนมที่ทั้งป้องกันแสงแดด SPF50+ PA++++ และทั้งบำรุงผิวด้วยด้วยเทคโนโลยีใหม่! AQUA BOOSTER EX + 50% SKINCARE ผสานสารบำรุงผิวถึง 50% มาพร้อมเทคโนโลยี Triple UV Defense ช่วยเพิ่มเกราะปกป้องผิวเมื่อต้องเผชิญกับเหงื่อ น้ำ และความร้อนจากแสงแดด ช่วยมอบความชุ่มชื่นให้ผิวด้วย Super Hyaluronic Acid, Glycerin และสารสกัดจาก ดอกกุหลาบ และอโลเวร่า อีกทั้งยังปกป้องการสูญเสียคอลลาเจนในผิวที่ ต้องเผชิญรังสียูวีจากแสงแดดด้วยคุณสมบัติ Anti-oxidants จากชาเขียว และดอกซากุระ Tormentilla Extract (Rosaceae) เป็นอีกหนึ่งครีมกันแดดที่เป็นทั้งบำรุง และทั้งปกป้อง ทาง่าย ไม่เหนียว ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบ แถมยังติดทนนานบนผิว ไม่หลุดง่ายระหว่างวันค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> lazada, shopee, Watsons Online

L”oreal UV Perfect Matte & Fresh

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

L”oreal UV Perfect Matte & Fresh

ปริมาณ

15ml / 30 ml.

ราคา

139 – 339 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50+ / ค่า PA++++

เนื้อสัมผัส

เนื้อเจลน้ำบางเบา

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

 

L”oreal UV Perfect Matte & Fresh เป็นครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากรังสียูวียาวนาน 12 ชม. พร้อมทั้งบำรุงผิวหน้าที่มีคุณค่าสารสกัดจากพืช 3 ชนิด และแมททิฟายอิ้ง เพียว เคลย์ (Mattifying Pure Clay) ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า และดูดซับความมันส่วนเกิน แม้ต้องเผชิญอุณหภูมิสูงถึง 45 องศา และความชื้นสูงสุด 80% เป็นครีมกันแดดสูตร 100% ออยล์ฟรี ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันทำให้เมคอัพสวยติดทนนาน ไม่เยิ้มตลอดวัน และปกป้องผิวเต็มที่ ไม่ดำ ไม่สิว มีส่วนผสม•            MEXORYL SX/XL™ สารกรองรังสียูวี ปกป้องรังสี UVA รังสี Long UVA อันเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย และรังสี UVB อันเป็นสาเหตุของปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ พร้อมทั้งมี DETOXYL ที่มีประสิทธิภาพเสมือนเกราะปกป้องผิวจากมลภาวะ แม้มีขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน (PM2.5) อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวอุดตัน และด้วยความที่เนื้อสัมผัสเจลบางเบาทำให้ครีมเกลี่ยง่ายซึมซับเข้าสู้ผิวทั้งที พร้อมเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ช่วยเก็บกักน้ำใต้ผิว ทำให้ผิวฉ่ำน้ำ กระจ่างใสอีกด้วยค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> lazada, shopee

Srichand Luminescence Fabulous UV Shield

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

Srichand Luminescence Fabulous UV Shield

ปริมาณ

15 ml. / 40 ml.

ราคา

159 – 390 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50 / ค่า PA++++

เนื้อสัมผัส

เนื้อครีมบางเบา

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับผิวมันหรือผิวผสม

 

Srichand Luminescence Fabulous UV Shield เป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งคราบ และไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงยูวีที่ทำร้ายผิวและก่อให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของคุณ เหมาะสำหรับผู้หญิงเอเชียที่มีผิวมันหรือผิวผสม มีค่า SPF 50 PA++++ ที่ได้รับการยืนยันค่า SPF และค่า PA จากสถาบัน AMA ที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจได้ว่าครีมกันแดดจากศรีจันทร์ได้ค่า SPA และค่า PA ที่ถูกต้องที่สุดแน่นอนค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> lazada, shopee, Watsons Online, srichand

The Saem Eco Earth Power Light Sun Cream

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

The Saem Eco Earth Power Light Sun Cream

ปริมาณ

50 g.

ราคา

240 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50+ / ค่า PA++++

เนื้อสัมผัส

เนื้อครีมบางเบา

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

 

The Saem Eco Earth Power Light Sun Cream เป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบาสบายผิว ซึมซาบสู่ผิวได้เป็นอย่างดี ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF50+ PA++++ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มระหว่างวัน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากพฤกษศาสตร์ 4 ชนิดที่ทรงพลังในการปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของคุณ ช่วยผ่อนคลายผิวที่ต้องเผชิญกับแสงแดด และมีส่วนผสมของ Purifying Moringa ที่ช่วยปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้นภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพและรักษาสภาพผิวให้กระจ่างใสและมีสุขภาพดี อีกทั้งยังผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่ายอีกด้วยค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> lazada, shopee

Za True White Power Block UV

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

Za True White Power Block UV

ปริมาณ

50 g.

ราคา

299 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF40+ / ค่า PA+++

เนื้อสัมผัส

เนื้อครีม

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับผิวแห้ง

 

Za True White Power Block UV เป็นครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวหน้า และผิวกายในหลอดเดียว ปกป้องแสงแดดด้วยค่า SPF40 PA+++ ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ มีการผสมผสานสารกันแดด Titanium Dioxide และ Zince Oxide ที่ช่วยกระจายรังสีในการกันแดดได้ทุกอณูผิว พร้อมด้วยสารกันแดด Octyl Methoxycinnamate ที่ช่วยดูดซับรังสี เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการกันแดดให้ผิว เหมาะสำหรับใช้ปกป้องผิวที่ต้องเผชิญกับแสงแดดในระหว่างวัน และแสงแดดจัดในกิจกรรมกลางแจ้ง

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> lazada, shopee, Watsons Online

MizuMi UV Water Serum

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

MizuMi UV Water Serum

ปริมาณ

8g. / 40g.

ราคา

199 – 890 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50+ / ค่า PA++++

เนื้อสัมผัส

เซรั่มแบบน้ำ

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายเป็นสิว

 

MizuMi UV Water Serum เป็นครีมกันแดดเนื้อสัมผัสเบาสบาย คล้ายเซรั่มแบบน้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เพิ่มความมันบนใบหน้า เป็นครีมกันแดด 100% Physical Sunscreen ปราศจากสารกันแดดเคมี เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่ายเป็นสิว เพราะใช้สารกันแดดจากแร่ธาตุธรรมชาติ มาพร้อมกับค่า SPF50+ PA++++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA1/UVA2/UVB ที่เป็นต้นเหตุของความหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย อีกทั้งยังลดโอกาศผิวถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระด้วยสาร Anti – Oxidant ที่ประกอบไปด้วย Yuki Extract ปกป้องยาวนาน เสถียร ไม่แตกสลายเร็ว หากไม่มีการเช็ดถูหรือชะล้างผิวหนัง แถมยังอ่อนโยนต่อผิว ด้วยสูตร 5-FREE ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์ และผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนังเรียบร้อยแล้วค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> mizumithailand, Watsons Online

La Roche-Posay Anthelios XL Dry Touch Gel-Cream

รายละเอียดสินค้า

ยี่ห้อ

La Roche-Posay Anthelios XL Dry Touch Gel-Cream

ปริมาณ

50 ml.

ราคา

1,105 บาท

ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV

ค่า SPF50+

เนื้อสัมผัส

เนื้อเจลครีม

เหมาะกับสภาพผิว

เหมาะสำหรับผิวมัน – ผิวบอบบางแพ้ง่ายเป็นสิว

 

ANTHELIOS XL Dry Touch Gel-Cream เป็นครีมกันแดดเนื้อเจลครีม สูตรกันน้ำ (Very water resistant) แห้งเร็ว ซึมซาบสู่ผิวทันที มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB ไม่ทิ้งคราบขาว และความมันวาว เป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ผิวที่ไวต่อแสงแดด หรือผิวที่แพ้แสงแดด อีกทั้งคุมมัน ด้วยส่วนผสมที่ดูดซับความมันและส่วนเกินระหว่างวัน ปราศจากน้ำหอม และพาราเบน ผ่านการทดสอบภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณแล้วค่ะ

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> shopee, Watsons Online

ควรทาครีมกันแดดอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

วิธีทาครีมกันแดดถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการใช้ครีมกันแดดอย่างมาก เพราะหากคุณทาได้อย่างถูกต้องจะช่วยปกป้องผิวจากรังสีของแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

  1. ทดสอบการแพ้ก่อน ด้วยการทาครีมกันแดดบางๆบริเวณหลังมือ หรือบริเวณต้นคอ หากมีอาการผิดปกติให้หยุดใช้ครีมกันแดดสูตรนั้น
  2. สังเกตดูกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หากคุณไม่ได้เจอแสงแดดมากหรือทำงานในร่ม ค่า SPF และ PA ของครีมกันแดดจึงไม่จำเป็นต้องสูงมากค่ะ เช่น SPF 30 PA++ แต่สำหรับใครที่จะต้องพบเจอแสงแดดตลอดเวลาก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่สูงขึ้นตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ
  3. ควรทาครีมกันแดดในปริมานที่เหมาะสม ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป เพื่อให้ครีมกันแดดกระจายได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะส่วนที่ไม่ได้ปกปิดด้วยเสื้อผ้า
  4. ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที และควรลงครีมกันแดดก่อนแต่งหน้า
  5. ควรทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำทุกครั้งก่อนว่ายน้ำ และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำหรือมีเหงื่อออก
  6. ไม่ควรใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ เนื่องจากครีมกันแดดจะเสื่อมประสิทธิภาพ รวมทั้งไม่ใช้ครีมกันแดดที่ซื้อทิ้งไว้ 3 ปีหรือนานกว่านั้น
  7. หากต้องทำกิจกรรมหรือสัมผัสแสงแดดนานกว่า 1-7 ชั่วโมง ให้ทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 – 3 ชั่วโมง

 

บทส่งท้าย

ครีมกันแดดทาหน้า 10 ยี่ห้อ ประจำปี2021 ที่เรานำมาแนะนำนี้เป็นตัวช่วยที่ดีที่ช่วยป้องกันอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี UV จากแสงแดดที่อาจก่อให้เกิดปัญหาของผิวหน้า หรือที่ร้ายแรงที่สุดรังสีเหล่านี้อาจก่อในเกิดมะเร็งผิวหนังได้ นอกจากนี้รังสี UVไม่ได้พบได้แต่เพียงในแสงแดดเท่านั้น แต่มันยังสามารถพบได้จากหลอดไฟต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นอีกด้วยค่ะ ดังนั้นเราขอแนะนำให้ทุกคนหมั่นทากันแดดในทุกๆวันด้วยนะคะ และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเลือกใช้ครีมกันแดด นั่นคือ ให้เลือกใช้สูตรที่มีคุณสมบัติครบและไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง เช่น อาการคัน หรือมีผื่นเกิดขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานแล้วค่ะ

 

นักเขียน: Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ๆออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

 

 

pg slot ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ